วันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวการเรียนปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ ในม.บูรพา ผู้เขียนเป็นนิสิตชั้นปีสุดท้าย จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์อยู่เอก นิเทศศาตร์ สาขา การสื่อสารตราสินค้า (Brand communication) และกำลังจะจบการศึกษาในเร็ว ๆ นี้ จึงอยากจะมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียน เผื่อมีน้อง ๆ คนไหนสนใจจะเข้ามาเรียนนิเทศศาตร์ ม.บูรพา จะได้เห็นภาพรวมการเรียนของเรานั่นเองค่าภาพบรรยากาศการเรียนจริง (ได้รับอนุญาตแล้ว)ข้อเสนอแนะ: เนื้อหาดังต่อไปนี้เป็นการอธิบายจากมุมมองส่วนตัว และประสบการณ์ของผู้เขียนเองเท่านั้น ข้อมูลเกี่ยวกับรายวิชาที่เรียนสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ไปที่ http://www.huso.buu.ac.th/ ได้เลยค่านิเทศม.บูรพา มีสาขาอะไรบ้างนะ?สาขาการสื่อสารมวลชน ( Convergent journalism )สาขาการสื่อสารองค์กร ( Corporate Communication )สาขาการสื่อสารตราสินค้า ( Brand Communication )การเรียนการสอนปริญญาตรี นิเทศศาสตร์มีหลักสูตรเรียนทั้งหมด 4 ปี และนิสิตทุกคนจะได้เลือกสาขาย่อยจาก 3 สาขา ในการเรียนปีที่ 2 เทอม 2 ค่ะ จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้เขียนนั้นเรียนอยู่ในสาขา การสื่อสารตราสินค้า (Brand Communication) เพราะฉะนั้นจะอธิบายได้เพียงคอนเซ็ปคร่าว ๆ ของสาขาการสื่อสารมวลชนและสาขาสื่อสารองค์กร ส่วนสาขาการสื่อสารตราสินค้าที่ผู้เขียนเรียนจะสามารถอธิบายได้มากกว่าค่ะสาขาการสื่อสารมวลชล >> จะเรียนเน้นเกี่ยวกับการผลิตสื่อทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ เป็นการเรียนไปเป็นนักข่าวสายพันธ์ใหม่ ในยุคดิจิตัลค่ะ จากที่เห็นเพื่อน ๆ เรียนก็มีทั้งการทำงานแบบเบื้องหลังผลิตรายการข่าว เรียนการพูดหน้ากล้อง การเขียนบทความนิตยาสารและมีวิชาภาษาอังกฤษเพื่อข่าวโดยเฉพาะด้วยค่ะ ซึ่งเราได้ข้อมูลนี้จากการแลกเปลี่ยนกับเพื่อนสนิทที่เรียนสาขานี้ ใครที่ชื่นชอบและรักในการผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ก็จะเหมาะกับเอกนี้ค่ะสาขาการสื่อสารองค์กร >> จะเรียนเน้นไปทางด้านการสื่อสารองค์กร อาทิ จัดทำกิจกรรมเพื่อชุมชน ผลิตสื่อเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีขององค์ หรือคล้าย ๆ กับงาน PR เลยค่ะ กล่าวคือ เป็นบุคคลมีที่มีหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์ให้กับองค์กรนั่นเอง นอกจากนั้นก็มีรายวิชาเกี่ยวกับการเป็นพิธีกรอีกด้วยภาพถ่ายรวมสาขาการสื่อสารตราสินค้า (ได้รับอนุญาตแล้ว)ส่วนสาขาการสื่อสารตราสินค้า ที่ผู้เขียนได้เรียนมานั้น จะเน้นเรียนเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์สินค้าอย่างเข้มข้นค่ะ ทั้งการตลาดออนไลน์ ออฟไลน์เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก หรือทำให้แบรนด์ไปอยู่ในใจผู้บริโภค เรียนการวิเคราะห์ผู้บริโภค หาความต้องการของลูกค้า (Insight) เพื่อตอบโจทย์ให้ได้ในด้านต่าง ๆ การสร้างแคมเปญสินค้า เรียนเกี่ยวกับการวางแผนสื่อ การลงโฆษณาให้ได้ค่าการเข้าถึงกับกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง เป็นตัวอย่างที่เราได้เรียนจากสาขาการสื่อสารตราสินค้าค่ะเครดิต Canva.comจบแล้วแต่ละเอกไปทำงานอะไรกันบ้าง?สาขาการสื่อสารมวลชล >> ฝ่ายผลิต Content, นักข่าว, YouTuber, Blogger, Writer, Online content, Production, Creative, Graphic Designer, เอเจนซี่โฆษณา, ช่างกล้องสาขาการสื่อสารองค์กร >> PR Team, ทำงานดูแลภาพลักษณ์องกรค์, อีเว้นท์, AE ฝ่ายประสานงานดูแลลูกค้า, MCส่วนสาขาการสื่อสารตราสินค้า สร้างแบรนด์ตัวเอง, ที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์, ฝ่ายวางกลยุทธการตลาด, วางแผนสื่อโฆษณา Creative Team, AD Agencyผู้เขียนยกตัวอย่างอาชีพที่สามารถทำงานได้แบบตรงสายที่เรียนมาค่ะ จริง ๆ แล้วทุกสาขาวิชาก็จะมีส่วนที่คล้าย ๆ กันค่ะ เราอาจจะไม่ได้ทำตามอาชีพที่ตรงสายงานเรา แต่ผู้เขียนเชื่อว่าสาขาที่เราเรียนไปแต่ละสาขา สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานจริงของเราได้อย่างแน่นอน อย่างตัวผู้เขียนอยากจะนำความรู้ในการสร้างแบรนด์ไปปรับใช้ในการทำแบรนด์ของตัวเองค่ะ เพราะที่นี่เขาสอนเนื้อหาที่อัพเดท ยกเคสตัวอย่างประกอบการเรียนที่ทำให้เราเข้าใจสิ่งที่เรียน และมี Assign โปรเจคให้ได้ลองปฏิบัติจริง ถ้าถามว่าสาขาไหนเรียนยากที่สุด คงตอบได้ยาก อยู่ที่เราชอบและเอ็นจอยพร้อมที่จะเรียนรู้อะไรแบบไหนมากกว่ากันค่าสุดท้ายนี้ผู้เขียนอยากจะบอกกับรุ่นน้องที่อาจจะสนใจเข้ามาเรียนนิเทศศาสตร์ ม.บูรพาว่าการเลือกเอกสำคัญค่ะ อย่าเลือกตามเพื่อนไปหมด เพราะบางทีถ้าเรียนไปเราไม่ชอบก็จะไม่แฮปปี้ค่ะ อย่างผู้เขียนเองมีเพื่อนกลุ่ม 7 คน ผู้เขียนเป็นคนเดียวที่มาเรียนสาขา Brand Communication คนเดียวเลย เพราะเราชัดเจนมากว่าอยากเรียนเกี่ยวกับสิ่งนี้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านบทความของเรา พบกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายค่า