ท่านคิดว่า " สวรรค์บนดิน " มีจริงไหมครับ ? สำหรับคอกาแฟแล้ว สวรรค์บนดิน มันคือสถานที่ที่เราสามารถจะนั่งชิลล์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศคาเฟอีนที่ลอยอบอวลอยู่ในร้าน โดยไม่สนใจว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร เพราะถ้ามันเป็นร้านกาแฟที่ใช่ นี่ก็คือโลกใบใหม่ของเรา โลกที่เข็มนาฬิกาจะไม่มีความหมายอีกต่อไป ผมอยากจะชวนท่านไปเห็นสวรรค์บนดิน ที่ผมค้นพบในจังหวัดชลบุรีครับ (บ้านเกิดผมเอง) และตามที่ผมโปรยไว้ว่า มันมีถึง 7 ชั้นทีเดียว! เอาล่ะ! ผมจะจับมือพาท่านเดินไปดูว่า แต่ละชั้นมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ขอแนะนำให้ท่านได้รู้จัก ร้านกาแฟ Cafe Carpe Diem # สวรรค์ชั้นที่ 1 วินาทีแรกที่ท่านเลี้ยวรถเข้ามา ท่านจะเห็นเลยว่าที่จอดรถกว้างมาก ๆ ทางร้านตีเส้นแบ่งไว้อย่างดี ผมว่ามันปลอดภัยมากเลยนะ สำหรับท่านที่กลัวว่า ถ้าเอารถมาจอดติด ๆ กัน แล้วขากลับจะมีรอยขีดข่วนจนต้องให้ช่างไปทำสีใหม่ทั้งแถบ ถามว่ากว้างขนาดไหน? ถ้าเป็นตอนโล่ง ๆ ไม่มีรถจอด ผมว่ารถพ่วง 18 ล้อมาดริฟท์โชว์ 1 รอบได้สบาย ๆ # สวรรค์ชั้นที่ 2 ก่อนที่ท่านจะผลักประตูเข้าไปในร้าน ขอให้ท่านยืนนิ่ง ๆ สัก 3 วินาที แล้วสังเกตบรรยากาศนอกร้านครับ อารมณ์เหมือนมีสวนหย่อมเล็ก ๆ ให้ท่านได้ถ่ายรูปเซลฟี่โชว์เพื่อนสัก 7 - 8 ใบ ทางร้านทำไว้สวยครับ มันดูเรียบง่าย เหมือนนั่งกินกาแฟหน้าบ้านยังไงก็ไม่รู้ ใครที่ไม่อยากโดนแอร์ หรือเป็นโรคภูมิแพ้ นั่งหน้าร้านก็ดีครับ ต้นไม้เยอะ นั่งถึงตอนบ่าย แดดก็ไม่ระคายผิวท่านแน่นอน # สวรรค์ชั้นที่ 3 พอท่านไปถึงเคาน์เตอร์สั่งกาแฟแล้ว อย่าเพิ่งรีบก้มดูเมนูนะครับ ชำเลืองมองทางขวานิดนึง ท่านจะเห็นตู้กระจกใส ๆ แล้วข้างในจะเป็นเบเกอรี่ ที่ทางร้านทำเอง วันที่ผมไป ผมจัดบราวนี่ไป 1 ชิ้นครับ ชิ้นไม่ใหญ่มาก แต่กว่าจะกินหมดใช้เวลาโคตรนาน ช็อคโกแลตเข้มสะใจแท้ ตัวแป้งมีความนุ่ม แถมเก็บรสชาติได้ดีสุด ๆ ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า ผมกลืนลงคอไปแล้ว 3 วิ แต่ยังรู้สึกว่ากลิ่นช็อคโกแลตยังอบอวลในปากอยู่เลย # สวรรค์ชั้นที่ 4 มาถึงพระเอกของร้านแล้วครับ ไม่รู้กูรู้ท่านไหน บอกไว้ ถ้าอยากสัมผัสรสกาแฟแท้ ๆ ให้ลองจัด Espresso สัก 1 ช็อต รับรอง รู้เรื่อง! กาแฟที่นี่เท่าที่ผมดู เขาน่าจะคั่วเองนะ เพราะแอบไปเห็นเครื่องคั่วกาแฟตั้งอยู่กลางร้านในสภาพพร้อมใช้ คือเขาคงไม่ได้ตั้งโชว์หรอก เพราะเห็นทำปล่องควันออกไปข้างนอกด้วย ส่วนรสชาติกาแฟบอกเลย ในขณะที่พิมพ์โพสต์นี้อยู่เกือบเที่ยงคืนล่ะ ยังไม่รู้สึกเลยว่าง่วง ของเค้าแรงจริง เอสเพรสโซ่ที่นี่ออกเปรี้ยว ๆ นิดนึงครับ ใครที่เป็นคอกาแฟน่าจะชอบรสชาติประมาณนี้ ขม ๆ ปนเปรี้ยว # สวรรค์ชั้นที่ 5 อันนี้ต้องบอกเลยว่าชอบเป็นการส่วนตัว ร้านทั่วไปอาจจะมีหนังสือกระจุกกระจิกให้ลูกค้าที่เข้ามาได้หยิบอ่านเพลิๆ แต่ร้านนี้เอกลักษณ์ชัดเจนมาก หนังสือส่วนใหญ่ เท่าที่ประเมินจากสายตาผมว่า 80% เลยนะ เป็นหนังสือเกี่ยวกับกาแฟทั้งนั้น ทั้งเส้นทางที่มาที่ไปของเมล็ดกาแฟ วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของต่างประเทศ มีอยู่เล่มนึงผมยังอ่านไม่จบ แต่ถ่ายรูปเก็บไว้ เผื่อว่าจะไปซื้ออ่านเอง ปรากฏว่า แห้ว ครับ! ไปถามมาทุกร้านเขาบอกว่า เล่มนี้ไม่มีจำหน่ายแล้ว ถ้าเป็นคอกาแฟแนะนำให้มาครับ ท่านอาจจะเจอบางความรู้เกี่ยวกับกาแฟที่เสิร์ชหาไม่มีใน google # สวรรค์ชั้นที่ 6 ผมอยากให้ท่านที่มา อย่าเพิ่งเพลิดเพลินกับบรรยากาศในร้านนานเกินไปนะ ลองสละเวลาสัก 3 นาที เดินออกมาหลังร้าน ท่านจะพบกับ "ป่าลึกลับ" ซึ่งมีของดีซ่อนอยู่ จริง ๆ มันเป็นที่ ๆ ทางร้านจัดไว้ครับ เป็นที่นั่งสำหรับคนที่ไม่ชอบตากแอร์ข้างใน ผมว่ามันมีเสน่ห์คนละแบบกับหน้าร้านนะ หน้าร้านให้อารมณ์เหมือนสวนหย่อมเล็ก ๆ ในบ้าน แต่หลังร้านนี่เหมือนเดินเข้ามาในป่าแล้วมีที่ให้นั่งจิบกาแฟ # สวรรค์ชั้นที่ 7 ( ชั้นสุดท้ายล่ะ ) ............ ? ที่ผมเว้นไว้ ไม่ใช่อะไรนะ ผมอยากให้ท่านที่มีโอกาสได้มาพิมพ์ข้อสุดท้ายด้วยตัวเอง สวรรค์ชั้นที่ 7 ของท่าน ท่านเจออะไร? สำหรับผมแล้ว ที่นี่คือสวรรค์บนดินที่ผมมีความสุขมาก ผมมาครั้งที่ 3 แล้วครับ แต่ก็ยังรู้สึกประทับใจไม่ต่างจากครั้งแรก ท่านจะเห็นบรรยากาศในร้าน เต็มไปด้วยความสุขของคนที่อยู่กับเมล็ดกาแฟและได้เสิร์ฟมันให้กับท่านอย่างละเมียดละไม ท่านจะได้เห็นความใส่ใจน่ารัก ๆ ของพนักงานที่จะคอยแอบมองว่า เค้กบนโต๊ะท่านกินหมดหรือยัง จานวางเกะกะไหม แล้วเขาจะพุ่งเข้ามาอย่างเร็ว ความไวพอ ๆ กับ 4G เพื่อเก็บจานให้ท่าน โดยที่ท่านไม่ต้องเรียก ถ้าท่านมีโอกาสแวะมาร้านนี้ ขอให้ท่านดื่มด่ำและมีความสุขกับสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นนะครับ อย่าลืมหาสวรรค์ชั้นที่ 7 ของท่านด้วยนะ