ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อแห่งนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่มีพระบรมวงศานุวงศ์ถึง 3 พระองค์เสด็จทอดพระเนตรและยังได้รับเมตตาจากสมเด็จพระสังฆราช ฯ เสด็จมาเป็นประธานพิธีเททองหล่อพระพุทธ 7 พระองค์ พร้อมกับทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุ 9 พระองค์ให้บรรจุไว้ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ ทั้งศาลเจ้าและพื้นที่โดยรอบถูกก่อสร้างและพัฒนาขึ้นจาก 200 ตารางวาสู่ 59 ไร่ในปัจจุบัน โดยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติครบรอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9และเพื่อเป็นศาลเจ้าที่เน้นให้ความเคารพต่อเทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อเป็นหลัก โดยมีอาจารย์สมชาย เฉยศิริและคณะผู้ศรัทธาต่อองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อเป็นเรี่ยวแรงสำคัญ ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างกว่า 4 ปี (2538 -2543) สิ้นงบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท สำหรับประวัติการเกิดขึ้นของเทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อนั้นมีความอัศจรรย์อยู่มาก ซึ่งหาอ่านได้ทั่วไป ปัจจุบันศาลของท่านตั้งอยู่ที่เขาชุ่ยผิงซาน มณฑลเสฉวน ประเทศจีนมานับพันปี โดยเชื่อว่าเป็นศาลที่มารดาของท่านสร้างให้เมื่อครั้งที่ท่านรับผิดแทนบิดา-มารดาที่ฆ่าบุตรพญามังกรตาย ท่านจึงเป็นที่เคารพนับถือและนิยมบูชาเป็นอย่างมากในพิธีกรรมต่าง ๆ เพราะท่านเป็นเทพที่มีความสำคัญในการปกป้องประตูสวรรค์ มีอิทธิฤทธิ์มากและยังคอยขจัดสิ่งชั่วร้ายให้กับคนที่นับถือบูชาด้วย เมื่อผ่านประตูศาลด้านหน้าเข้าไปด้านในจะพบกับรูปปั้นเทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อสีทอง ล้อมรอบด้วยพญามังกร 9 เศียร ตั้งอยู่กลางบ่อน้ำพุทรงกลมมีลายดอกบัวสีชมพูล้อมรอบ ซึ่งอยู่กึ่งกลางด้านหน้าทางขึ้นวิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิมพอดี ตัววิหารเทพมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมจีนสูง 4 ชั้น ประกอบด้วยอาคารหลัก 3 หลัง หอฟ้าดิน 1 หลัง เป็นที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อและเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ รวมถึงรูปปั้นมังกรที่ปรากฏตัวในแบบภาพวาดและภาพนูนต่ำ ทั้งด้านในและนอกตัวตัวอาคารแทบทุกส่วน การเข้าไปเที่ยวชมด้านในวิหารนั้น จะเริ่มต้นจากชั้น 1 ก่อนหรือขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 เลยก็ได้ เพราะในพื้นที่ทั้ง 4 ชั้นมีบันไดและลิฟท์เชื่อมกันทั้งหมด สามารถเลือกได้ว่าจะดูจากชั้นไหนก่อนก็ได้ ผมเลือกขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ก่อน โดยต้องเดินผ่านรูปปั้นเทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อพิชิตมังกรและบันไดมังกรสีรุ้งพ่นน้ำก่อน จากนั้นจึงเข้าชมที่ละชั้นจนครบ โดยมีรายละเอียดของเทพด้านในแต่ละชั้น คือ ชั้นที่ 1 พระกษิติครรภโพธิสัตว์และพระศรีอริยเมตไตรโพธิสัตว์ ชั้นที่ 2 เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ มีทั้งปางประสูติ และปางปราบมาร เจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้ากวนอู เป็นต้น ชั้นที่ 3 เง็กเซียนฮ่องเต้ พระแม่ธรณีและพระอวโลกิเตศวรหลายปาง ชั้นที่ 4 พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นองค์ประธานและพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในแบบศิลปะจีน นอกจากนั้น ที่ด้านนอกระเบียงด้านหน้าของชั้น 2 มีจุดให้ตีระฆังทองพร้อมกับชมวิวด้านหน้าของวิหารเทพด้วย ซึ่งจะมองเห็นตัววิหารและพื้นที่ภายในศาลเจ้าได้โดยรอบ เช่น เสาฟ้าดินที่มีมังกร 9 ตัวพันโดยรอบ และจุดที่ผมชอบมากที่สุดคือ ผนังประติมากรรมภาพนูนต่ำของเหล่ามังกรลอยตัวประดับด้วยกระเบื้องเซรามิกที่งดงามสุดพรรณนา อยู่ชั้นที่ 1 มุมด้านซ้ายมือของวิหารเทพ ใครได้ไปเที่ยวชมที่นี่ โดยเฉพาะคนที่เกิดนักษัตรมะโรงหรือเข้ากันได้ดีกับแนวคิดเรื่องพญานาคกับมังกร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่น่าพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดชลบุรี ส่วนที่ว่าผมหา มังกร 2,840 ตัวเจอหรือไม่นั่น คงไม่ต้องหาครับ คือนับยังไงก็คงไม่หมด เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่มังกรเต็มไปหมด อีกอย่างหนึ่ง ก่อนกลับใครจะแวะไปบูชาของที่ระลึกที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติไว้ระลึกถึงว่าครั้งหนึ่งเคยมาที่นี่ก็ได้นะครับ ที่ตั้ง : 1/13 ซอย หมู่บ้านศิลาวดี 5 ตำบล อ่างศิลา อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี วันเวลาเปิดปิด : 08.00-17.00 น. โทรศัพท์ : 038 398 381 พิกัด : https://goo.gl/maps/7oz5Zvvy5bC2 ข้อควรทราบ : มีลิฟท์บริการสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ/อนุญาตให้บันทึกภาพได้เฉพาะด้านนอกตัววิหาร/แต่งตัวเหมาะสมมิดชิดให้ความเคารพสถานที่ ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน : อนุญาตให้ใช้เพื่อการศึกษาได้ฟรี