การอ่านหนังสือเปรียบเสมือนประตูที่เชื่อมเราไปสู่โลกอีกใบ ซึ่งเป็นโลกใบใหม่ที่กว้างกว่ามีสิ่งที่น่าตื่นตา ตื่นใจมากกว่าและให้สิ่งดี ๆ กับเราได้มากมายหลายอย่าง โดยผู้เขียนหันมาอ่านหนังสืออย่างจริงจังได้ประมาณ 3-4 ปีแล้วค่ะ แม้เมื่อก่อนผู้เขียนเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลยเพราะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อและไม่สนุกเอาซะเลยแต่ความคิดของผู้เขียนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อผู้เขียนเลื่อนไปเจอบทความในเฟซบุ๊กอันหนึ่งที่เล่าถึงบทสนทนาของอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเทสล่า โดยมีใจความหลัก ๆ กับคู่สนทนา พูดถึงการริเริ่มโครงการที่เกี่ยวกับจรวดที่อีลอนอยากทำแต่ตอนนั้นเค้ายังไม่มีความรู้ใด ๆ เกี่ยวกับจรวดเลย คู่สนทนาเค้าก็สงสัยว่าอีลอน มัสก์ ์จะทำได้อย่างไรในเมื่อต้องเริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับจรวดจากศูนย์ ซึ่งอีลอน มัสก์ ได้ตอบไปว่า "ก็แค่อ่านหนังสือ" หื้มมม ประโยคนี้เหมือนไม้หน้าสามตีแสกหน้าผู้เขียนเข้าอย่างจัง ทำให้ผู้เขียนตื่นรู้ขึ้นมาเลยทันทีค่ะ ใช่.. ไม่รู้เรื่องอะไรก็แค่อ่านหนังสือ !!! นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้เขียนก็ซื้อหนังสือมาอ่านอย่างไม่ขาดตอนเลยล่ะค่ะ ส่วนมากจะเป็นหนังสือหมวดจิตวิทยาพัฒนาตนเองและสิ่งที่ผู้เขียนสนใจแบบเฉพาะเจาะจงอย่างเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ค่ะภาพจาก Pixabayซึ่งผู้เขียนได้ข้อคิดดี ๆ จากการอ่านหนังสือมาหลายข้อเลยค่ะ พร้อมทั้งสิ่งดี ๆ จากหนังสือก็ได้มาหลายอย่างอยู่เหมือนกันและวันนี้ผู้เขียนจะนำ 5 ข้อคิดดี ๆ ที่ได้จากการอ่านหนังสือมาแบ่งปันให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับทราบกันค่ะ1. หนังสือเป็นเหมือนช่องทางการติดต่อกับคนดัง/คนสำเร็จ/คนระดับตำนานที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด2. หนังสือมักจะเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ ให้เราเสมอไม่ว่าหนังสือเล่มนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม3. ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ไม่มีคำว่าสายหากคุณต้องการเริ่มอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้หรือพัฒนาตนเองเพราะการเริ่มปลูกต้นไม้ที่ดีที่สุดไม่ใช่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ไม่ใช่ 5 ปีข้างหน้าแต่มันคือวันนี้ภาพจาก Pixabay4. การอ่านหนังสือแล้วนำสิ่งดี ๆ ที่หนังสือเล่มนั้นแนะนำไปปฏิบัติในชีวิตจริงแม้อ่านเพียงเล่มเดียวก็ได้ประโยชน์มากกว่าคนอ่านหนังสือเป็นพัน ๆ เล่มแต่ไม่เคยเอาไปลงมือทำเลยสักครั้งเดียว5. คนที่อ่านหนังสือเก่งไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือเร็วแต่เป็นคนที่อ่านหนังสือแล้วสามารถจับใจความของหนังสือเล่มนั้นได้เป็นอย่างดีและเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่ออย่างชัดเจนโปรดรู้ไว้ว่าการลงทุนที่ดีที่สุดคือ การลงทุนในตัวเองทั้งการลงทุนในความรู้และการลงทุนในสุขภาพ เราไม่สามารถไปนั่งคุยกับคนดังระดับโลกได้แต่เราสามารถอ่านหนังสือของเค้าได้ค่ะ จงสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเติบโตของเราขึ้นมาด้วยตัวของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการคบคน การเสพสื่อหรือการอ่านหนังสือ เราสามารถเลือกสิ่งดี ๆ ให้กับตนเองได้เสมอค่ะ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านนะคะภาพจาก Pixabay