ไลฟ์แฮ็ก

3 ข้อที่บอกว่า นั่นคืองานที่ใช่ของคุณ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
3 ข้อที่บอกว่า นั่นคืองานที่ใช่ของคุณ

เคยรู้สึกสับสน
หรือปวดหัวกับงานที่ทำอยู่ไหมครับ

ไม่ได้เกี่ยวว่างานนั้นยาก

ได้เงินน้อย
หรือมีสงครามการเมืองในที่ทำงานนะครับ

ที่ผมถามคุณว่า
เคยรู้สึกสับสนไหม

ผมกำลังถามว่า
คุณเคยรู้สึกกับตัวเองไหมครับว่า
งานที่ทำอยู่

มันไม่ใช่งานที่คุณต้องการ

คุณแค่รู้สึกว่าทนทำไปเพื่อรับเงินก็เท่านั้นนั้น

ถ้าเป็นอย่างข้อหลัง
ก็เสียดายนะครับ

เกิดมาทั้งที
แต่ไม่มีโอกาสได้ทำงานที่ตัวเองรัก
ได้ทำงานที่มันเกิดมาเพื่อคุณจริงๆ

จะดีกว่าไหมครับถ้าวันนี้

เรามีป้ายบอกทางหรือมีเข็มทิศ
ที่จะทำให้เราเดินไปอย่างถูกต้อง

มีแนวทางในการประเมินว่า
นี่คืองานที่เราตามหามาตลอด

ผมอยากชวนคุณมาคุยเรื่องนี้ครับ

3 สัญญาณ
หรือ 3 ข้อที่บอกว่า นี่คืองานที่ใช่ของคุณ
.

ข้อแรก
คุณรู้สึกว่าตัวคุณมีคุณค่าขึ้น

แบ่งปัน

ข้อนี้ผมให้น้ำหนักมากที่สุดเลยนะ

ประเด็นคือแบบนี้
มันมีอยู่จริงนะ

Advertisement

Advertisement

งานที่ทำไปงั้นแหละ
ทำไปวันๆ

แล้วรู้สึกว่า ยิ่งทำยิ่งด้อยค่าลง
ไม่เกิดความภาคภูมิใจ

ไม่ได้เกิดไฟในการทำงาน

ไม่ได้รู้สึกว่าอยากตื่นเช้ามาแล้วมาที่นี่เลย

แค่เพียงรู้สึกว่า
มันเป็นงานอ่ะก็ต้องทำ

พอทำแล้วก็ได้ตังค์ เท่านั้นจบ

แบบนี้ผมรู้สึกว่า
คุณทำงานอะไรก็ได้ครับ
ไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าหมายเรื่องการงานเลยก็ได้

แต่ผมก็ไม่แนะนำนะ

ถ้าวันนี้เราจะนั่งคุยกัน
ผมอยากจะบอกแบบนี้ครับ

ถ้างานไหนที่คุณรู้สึกว่า
มันเติมเต็มคุณค่าในตัวคุณ

คุณรู้สึกมีค่ากับคนอื่น

คุณรู้สึกว่าตัวเองได้ทำประโยชน์ให้ผู้คน

นั่นเป็นสัญญาณที่ดีครับ

คำถามคือคุณเจองานแล้วหรือยัง

หรือถ้ายัง
คุณรู้ตัวเองไหมล่ะครับ
ว่างานไหนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า

คุณมีคุณค่ามากขึ้น
ที่จะอยากอยู่ต่อไป

สำคัญนะครับ

ถึงมันจะใช้เวลาหน่อย
แต่ผมก็อยากให้คุณหามันให้เจอ

.


ข้อ 2
คุณต้องรู้สึกว่า
อยากจะพัฒนามันต่อ

Advertisement

Advertisement

ขึ้น

หรือพูดง่ายๆคือ คุณอยากเก่งมากกว่านี้
ข้อนี้เป็นสัญญาณที่ดีมาก

ผมแนะนำว่า
ถ้าคุณเจอเมื่อไหร่

รีบตะครุบไว้เลย

เพราะอะไร?

เพราะการที่มนุษย์เรา
ทำบางสิ่งบางอย่างแล้วอยากจะดีกว่านี้

อยากจะเก่งขึ้น

นั่นก็แสดงว่า
คุณหลงรักมันครับ

คุณพร้อมที่จะอยู่กับมัน

ไม่บ่อยเลยนะครับ
ที่มนุษย์เราจะรู้สึกแบบนี้

เคยไหมครับ
เวลาทำงานอะไรสักอย่าง

เราคิดแค่ว่าเมื่อไหร่จะถึงตอนเย็น

เมื่อไหร่จะถึงวันหยุด

เมื่อไหร่จะถึงเทศกาล
เราคิดแต่จะหลุดออกมาตลอดเวลา

แต่ความคิดที่อยากจะขลุกอยู่กับมัน
อยากจะพัฒนา
อยากจะเก่งขึ้นมัน

เป็นความคิดที่นานๆจะมาที
และเป็นของดีซะด้วย

สำรวจตัวเองด่วนเลยครับ
งานที่คุณทำอยู่

มีสักวินาทีไหมที่คุณรู้สึกว่า
ฉันอยากจะเก่งในวิชาชีพให้มากกว่านี้

ฉันอยากจะพัฒนามัน

ฉันอยากจะเป็นคนที่เหนือชั้น
ในงานที่ทำอยู่

ถ้าเจอแล้ว ยินดีด้วยครับ

Advertisement

Advertisement

นั่นคือป้ายบอกทางว่า งานนี้อาจจะใช่
.

ข้อสุดท้าย
แม้ไม่ได้เงินก็ยังเต็มใจทำ

งาน

ผมไม่รู้ว่า
ผมได้ยินคำพูดนี้ครั้งแรกเมื่อไหร่

แต่ทุกครั้งที่ฟัง
ก็ยังเห็นด้วยเสมอ

คือไม่ได้บอกว่า
จะทำโดยไม่หวังเงินเลยนะ

ไม่เอาเงินเลยก็คงไม่ใช่

ถ้าแบบนั้นจะกินอะไรกัน 55

แต่ประเด็นคือตรงนี้ครับ
ถ้างานนั้นเป็นงานที่คุณรู้สึกว่า

คุณไม่ได้เอาผลตอบแทน
หรือเรื่องเงินเป็นตัวตั้ง

และคุณยินดีที่ทำมัน
โดยสภาวะจิตไม่คิดถึงเรื่องเงินเลย
นั่นคือข่าวดีสุดๆ

เพราะอะไรรู้ไหมครับ

เพราะหลายครั้ง
การทำงานที่มีคุณภาพ

มักจะเอาผลลัพธ์ของงานเป็นตัวตั้งเสมอ

และคนที่รักในสิ่งนั้นจริงๆ
จะอยากทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด

แต่หลายครั้ง
คนที่เอาเงินเป็นตัวตั้ง
ไม่ได้รักในงาน

มักจะทำแบบลวกๆให้เสร็จไป
โดยที่ไม่แคร์ว่าผลงานจะออกมาเป็นอย่างไร

คุณเคยรู้สึกไหมครับ
เวลาทำอะไรสักอย่าง

แล้วอยากจะทำมันให้ดี

เป็นผลงานชิ้นเอก

อยากทำให้เต็มที่

อยากทุ่มเทเวลาให้กับมัน

อยากคลุกอยู่กับมัน
และ ณ วินาทีนั้น

คำว่าเงินไม่ได้แว้บเข้ามาในหัวคุณเลย

ถ้าคุณเจอเมื่อไหร่
ผมอยากจับมือแล้วขอกอดคุณสักที

ผมว่า....คุณเจองานที่ใช่แล้วแหละ

......

เกิดมาทั้งที
ได้ทำงานที่รัก

เป็นงานที่มีความสุขกับมันทุกวัน

แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับกับการเกิดมาเป็นคน

ผมขออวยพรให้คุณเจองานนั้นเร็วๆนะ

.......

ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก pixabay

ประภาส  เอี่ยมสอาด

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์