สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน วันนี้ผู้เขียนจะพาไปเที่ยวจังหวัดชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก เดากันถูกไหมคะว่าที่ไหน ? แต่ผู้เขียนเดาว่าน่าจะยังตอบไม่ถูก งั้นใบ้ให้อีกนิดนึงก็ได้ค่ะ จังหวัดนี้มีป่า มีเขา อยู่ติดกับ จ.ตราด บอกขนาดนี้แล้วหลายคนอาจจะร้อง อ๋อ แต่ในขณะเดียวกันก็น่าจะยังมีคนไม่รู้อยู่ งั้นเฉลยก็ได้ค่ะ จังหวัดที่จะพาไปวันนี้ก็คือ " จ.จันทบุรี " นั่นเอง จันทบุรีอยู่ห่างกับกรุงเทพ ฯ ประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร ดังนั้น จึงใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนขับ และสภาพการจราจรในวันนั้นด้วย วันที่ผู้เขียนไปเป็นทริปเกษียณ ดังนั้น คนไปก็เยอะ จึงต้องมีการวางแผนว่าใครจะไปยังไง มติที่ประชุมสรุปว่าต้องใช้รถตู้สองคัน ใครมีรถก็ขับไปกันเอง และพ่วงคนสนิทไปด้วย กลุ่มของผู้เขียนก็ไปรถตู้ เฮฮากันตลอดการเดินทาง โดยไม่มีใครหลับเลย ทริปของเรา คือ ไปเช้าวันเสาร์ กลับเย็นวันอาทิตย์ เมื่อไปถึงที่พักชื่อ " พาเพลิน โฮมสเตย์ จันทบุรี " เราก็เดินตามคนถือกุญแจไปยังห้องพัก เท่าที่ดู คือ ห้องค่อนข้างน่ารัก เหมือนเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ เนื่องด้วยกลุ่มผู้เขียน มี 5 - 6 คน จึงได้แบบห้องจับคู่กันไป ส่วนกลุ่มใหญ่ ๆ ก็จะได้แบบบ้านไปเลย เก็บของเสร็จ ก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี เราจึงเดินไปทานอาหารกัน เค้าทำเป็นลานกว้าง และมีโต๊ะมากมายอยู่ภายใน เหมือนโรงอาหาร แต่เค้าจะรู้ว่ากลุ่มไหนมาจากไหน เค้าจึงจัดโซนให้นั่งใกล้กัน และต้องนั่งโต๊ะเดิมจนกว่าจะกลับ อาหารบนโต๊ะวันนั้นมีปลาทอด, แกงจืดเต้าหู้, ต้มยำ ซึ่งอาหารพวกนี้สามารถเรียกเติมได้ตลอดนะคะ เพราะเหมาจ่ายไปแล้วหัวละ 1,700 บาท ดังนั้น เต็มที่เลยค่ะ ทานข้าวเสร็จก็ยังว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไร ไม่ต้องกลัวเหงาค่ะ เพราะเค้ามีกิจกรรมล่องแพเปียกชมป่าชายเลน, ชมนกเหยี่ยวแดง ซึ่งหาดูยาก ถ้าใครอยากดูเหยี่ยวแดงแต่ไม่อยากเปียก เค้าก็มีเรือให้ลงค่ะ เรือจะออกตามหลังแพนิดหน่อย แล้วเค้าก็จะพาเราไปลอยอยู่กลางแม่น้ำบริเวณเดียวกับแพที่ออกไปก่อนหน้านั้น สักพักจึงจะพากลับ ( แต่เค้ามีเป็นรอบ ๆ ต้องสอบถามที่พักค่ะว่าเวลาไหนบ้าง ผู้เขียนได้ไปรอบ 15.00 น. )หลังจากใช้เวลาทำกิจกรรมนั่งแพเปียกราว ๆ 1 ชม. ก็กลับมาอาบน้ำ นั่งคุย นอนคุยกัน ก็ถึงเวลาอาหารเย็นอีกแล้วค่ะ ที่นี่เริ่มทานอาหารเย็นได้ตั้งแต่เวลา 18.30 - 00.00 น. เลยค่ะ แล้วแต่เราเลยว่าไหวแค่ไหน มีข้าวผัดทะเล, ปูนึ่ง, กุ้งย่าง, กุ้งต้ม สั่งกันแบบไม่อั้นเลยค่ะ โดยผู้เขียนมีหน้าที่แกะกุ้งให้คนอื่น แต่ขณะเดียวกันก็มีคนแกะปูให้ผู้เขียนเช่นกัน เมื่อทานเสร็จก็ไปรวมกันที่บ้านใหญ่ มีการร้องเพลง, มอบของขวัญให้ผู้เกษียณ มีความสุขทั้งผู้ให้ และผู้รับ เช้าวันอาทิตย์ ก็เก็บของ เพื่อเตรียมตัวออกจากที่พัก เพราะวันนี้พวกเรามีแผนไปเที่ยวกันอีกหลายที่ จึงต้องทำเวลา อาหารเช้าที่นี่เข้าทานได้ตั้งแต่เวลา 7.30 น. โดยมีข้าวต้มทะเล, เส้นจันท์ผัดปู ซึ่งอร่อยมาก แต่ถ้าใครไม่อยากทานหนัก ก็มีปาท่องโก๋ กาแฟ โอวัลติน บริการ ไม่อั้นเช่นกันนะคะ ศาลหลักเมืองจันทบุรี เป็นที่ที่เราควรมาสักการะ ดังนั้น เมื่อออกจากที่พัก ก็มุ่งมาที่นี่ ร้อนใช้ได้เลยค่ะ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล นี่ก็คือหนึ่งในรายการที่เราจะแวะมาเที่ยว เพราะได้ยินว่าสวยงามมาก วันที่เราไป ตอนแรกตกลงว่าจะเข้าไปในตัวโบสถ์ แต่พอดีตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งน่าจะมีการทำพิธีก็เลยเดินถ่ายรูปแค่ด้านนอก เพื่อไม่เป็นการรบกวนริมน้ำจันทบูร ตั้งอยู่ติดกับอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล แต่ต้องเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่ง ถึงจะเจอร้านค้าที่สุดท้าย ถ้าไม่แวะคงไม่ได้ ใช่ค่ะ จุดชมวิวเนินนางพญา แดดร้อนมาก แต่ก็สวยมากเช่นกัน รีบถ่าย รีบหลบแดดกันเป็นแถวเลยค่ะ การเดินทางของเราจบลง เมื่อรถตู้มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพ ฯ ผู้เขียนได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทั้งการอยู่ร่วมกันในคนหมู่มาก, การวางตัวในสังคมซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลย ที่จะทำให้คนรุ่นหลังได้จดจำ และปฏิบัติตามได้อย่างเต็มใจ สำหรับทริปนี้ ถ้าจะบอกว่าใกล้ก็ใกล้ จะบอกว่าไกลก็ไกล แต่ถ้าร่างกาย + ใจไหวก็ไปเที่ยวเถอะค่ะ ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน