ครั้งนี้ผู้เขียนเดินทางมาที่เขาคิชฌกูฏ เป็นการเดินทางด้วยเท้าขึ้นสู่ยอดเขาประมาณ 3 กิโลเมตร รอบ ๆ ตัวของผู้เขียนเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มีศรัทธาเดียวกันเพื่อขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏค่ะ ที่มาของชื่อเขาคิชฌกูฏนั้น ในตำนานของศาสนาพุทธได้กล่าวไว้ว่า เขาคิชฌกูฏอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ เป็นยอดเขาที่มีภูเขาล้อมรอบ และเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต พระครูธรรมสรคุณได้เสนอใช้ชื่อ "พระบาทเขาคิชฌกูฏ (พลวง)" เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้ก็เพราะว่าไทยเราเป็นเมืองพุทธที่พุทธศาสนาเจริญกว่าเมืองอื่น ๆ ด้วยสภาพภูมิประเทศและบนยอดเขามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวกับพระพุทธองค์ นั่นก็คือรอยพระพุทธบาทและหินลูกบาตร จึงใช้ชื่อนี้เป็นที่ระลึกถึงพระบรมศาสดา สำหรับการเดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกูฏ เป็นครั้งแรกของผู้เขียนค่ะ ผู้เขียนจึงรู้สึกตื่นเต้นมากค่ะที่ได้มายังที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงกว่า 1,050 เมตรจากระดับน้ำทะเล การที่ผู้เขียนได้มาเขาคิชฌกูฏานั้นเปรียบเสมือนว่าผู้เขียนได้มาเข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถือว่าเป็นมงคลในชีวิตของผู้เขียนอย่างมากค่ะ และ ผู้เขียนยังจะได้รับกุศลครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้ประสบแต่ความสุขความเจริญในชีวิตและหน้าที่การงาน เมื่อได้มาอธิษฐานขอพรที่เขาคิชฌกูฏแล้วจะสมดั่งใจปรารถนาค่ะ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ) การเดินทางเพื่อไปสักการะรอยพระพุทธบาทนั้นเมื่อเรานั่งรถขึ้นมาแล้ว เราต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีก 1.2 กิโลเมตร เส้นทางเดินขึ้นไปนั้นจะเป็นทางเดินเข้าป่าธรรมดาสลับกับบันไดและระเบียงไม้และก้อนหินขนาดใหญ่ แม้จะเป็นเส้นทางที่ไม่ไกลมากแต่ก็ทำเอาคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายอย่างผู้เขียนอ่อนแรง ขาล้าไปหมดเลยค่ะ ผู้เขียนต้องหยุดพักเป็นระยะ พร้อมกับดื่มน้ำและดมยาดมแล้วจึงค่อยไปต่อ สำหรับคนที่เดินไม่ไหวเขามีเสลี่ยงไว้บริการด้วยนะคะ ลำดับการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาคิชฌกูฏจะเริ่มต้นที่วัดพลวงด้านล่าง ไล่มาที่ลานพระสีวลี อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชก่อนจะเดินไปที่รอยพระพุทธบาทและจบที่ลานผ้าแดงค่ะ การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาคิชฌกูฏนั้นมีทั้งหมด 5 จุด คือ 1. รอยพระพุทธบาท 2. หยาดโลหิตพระพุทธเจ้า 3.มงกุฏพระพุทธเจ้า (หินพระบาท) 4. รอยฝ่าพระหัตถ์พระพุทธเจ้า 5.เสาธงธรรมจักร ค่ะ ผู้เขียนใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที ในที่สุดผู้เขียนก็มาถึง "รอยพระพุทธบาท" นี่คือ "รอยพระพุทธบาท" ค่ะ มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่ รอยพระพุทธบาทนี้มีความลึกประมาณ 2 เมตรเศษ กว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ถูกค้นพบที่ยอดเขาพระบาทซึ่งห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏ 4 กิโลเมตร ใกล้ ๆ รอยพระพุทธบาทจะมีหินก้อนใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ที่ริมหน้าผา การเดินทางมาถึงจุดนี้เป็นการวัดพลังความศรัทธาของเราได้อย่างดีค่ะ และมีความเชื่อกันว่าเราสามารถขอพรอะไรก็ได้ 1 ข้อจะได้ดั่งใจที่ขอค่ะ (แต่ขอได้แค่ข้อเดียวเท่านั้นนะคะ) เมื่อได้กราบไหว้รอยพระพุทธบาทแล้ว ผู้เขียนก็เดินขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างสูงและชันกว่าจะถึง "จุดผ้าแดง" เพื่อเขียนคำขอพรลงบนผ้าแดง ซึ่งมีความเชื่อกันว่าพรนั้นจะสมดั่งใจปรารถนาค่ะ บนยอดเขาคิชฌกูฏ อากาศเย็นสบาย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งเขาสกิม เทือกเขาสระบาป เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีสวยงามมากเลยค่ะ การได้มากราบนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกูฏของผู้เขียนในครั้งนี้สร้างความสุขใจให้กับผู้เขียนอย่างยิ่งค่ะ ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นชาวพุทธ การได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทถือเป็นมงคลชีวิตสูงสุดสำหรับผู้เขียนค่ะ การเดินทางไปเขาคิชฌกูฏ โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้ถนนสุขุมวิท เมื่อถึงสี่แยกเขาไร่ยาให้เลี้ยวซ้ายขับรถไปเรื่อย ๆ ประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือนั่งรถสองแถวสีฟ้าสายจันทบุรี - จันทเขลม ขึ้นรถได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ท่าแฉลบ การเดินทางไปยังยอดเขาคิชฌกูฏ สามารถเดินทางได้โดยเริ่มจากตัวอำเภอเมืองจันทบุรีผ่านแยกเขาไร่ยา ขับรถประมาณ 18 กิโลเมตร โดยใช้ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (ทางขึ้นคนละจุดกับอุทยานฯ) เมื่อถึงวัดพระบาทพลวงต้องจอดรถส่วนตัวทิ้งไว้ (มีลานจอดรถไว้บริการ) จากนั้นมีรถสองแถวบริการขึ้นเขาพระบาท ออกจากวัดพลวงไปสิ้นสุดที่บริเวณทางขึ้นยอดเขาพระบาท โดยรถที่ขึ้นยอดเขาแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่าโดยสารช่วงละ 50 บาท/คน (รวมไป-กลับ 200 บาท) มีรถบริการตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะถึงจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นไปรอยพระบาทค่ะ เครดิตภาพ : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน