ชุมชนจันทรบูร ที่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจันทบุรีให้แวะเวียนมานั้น ในอดีตเป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนและญวณอพยพ จนพัฒนามาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าในสมัยรัชกาลที่ 5 ตลาดจันทบูรอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร นักท่องเที่ยวสามารถมาเช้าและกลับในช่วงเย็นได้ เนื่องจากการเดินทางจากกรุงเทพมหานครใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น แต่หากใครอยากจะนอนพักที่นี่ก็มีที่พักให้ 2-3 แห่ง เมื่อเดินทางมาถึงเราสามารถจอดรถโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใดข้างโรงเรียนยังมีโบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมลให้เราได้เข้าไปแสดงความเคารพด้วยค่ะ ต่อจากนั้นจีงเดินข้ามสะพานเพื่อไปยังตลาดจันทบูร ไปชมวิถีชีวิตเก่าแก่ของชาวบ้านที่นั่นกันคะ เราจะได้พบมุมถ่ายภาพน่ารักๆหลายมุม ตลอดเส้นทาง สำหรับคอกาแฟ ที่นี่มีคาเฟ่กาแฟน่ารักๆหลายร้านให้ท่านมาลิ้มลองรสชาติและได้มานั่งพักเหนื่อย เราได้เปิดประตูเข้าไปในร้าน บางเวลา เมนูเด็ดของทางร้านคือ เครปพันกล้วยหอม กับกาแฟบางเวลา นั่งดูร้านอยู่นานเห็นร้านตกแต่งค่อนข้างแปลกตา บังเอิญกับได้ยินนักท่องเที่ยวพูดว่า ร้านของนักเขียนการ์ตูนขายหัวเราะ เราเลยไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกนอกจากมีมีร้านกาแฟให้เราได้เข้าไปดื่มกาแฟและนั่งชิวชมบรรยากาศหลายร้านแล้วยังมีขนมที่แนะนำให้ติดไม้จิดมือมาฝากคนที่บ้านด้วย เช่น ขนมเทียนแก้วลุงจุ่น ขนมเทียนแก้วลุงจุ่นแตกต่างจากขนมเทียนบ้านเราตรงที่ตัวแป้งมีความใสเพราะเลือกใช้แป้งท้าวยายม่อม ทานแล้วไม่เลอะมือเหมือนแป้งข้าวเหนียว ตัวไส้ใช้ถั่วเขียวแล้วห่อด้วยใบตองซึ่งขายกันมากว่า 40 ปีแล้วคะ ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 2 บาทเท่านั้นเอง ข้าวตังโบราณป้าจินดา ขนมข้าวตังของป้าจินดาทำจากกระทะทำให้ได้ข้าวตังเกรียมๆหน่อย ทานคู่กับน้ำจิ้มสุตรพิเศษของป้าจินดา ซึ่งในโบราณขนมชนิดนี้เกิดจากข้าวสุกที่เหลือติดหม้อ ราคาอยู่ที่ถุงละ 20 บาท ขนมไข่ป้าไต๊ ร้านนี้ขายกันมามากกว่า 60 ปีจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความอร่อยนักท่องเที่ยวได้ชมการอบขนมกันแบบสดๆกันถึงหน้าเตาเป็นร้านที่มีชื่อเสียงด้านความนุ่ม หอม หวาน กรอบ และที่สำคัญไร้สารกันบูดคะ ราคาอยู่ที่ 20 - 30 บาทเท่านั้น หลังจากที่เที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่กันอย่างเรียบง่าย ได้ถ่ายรูปเก๋ๆ และอิ่มท้องกับอาหาร ขนมที่รสชาติอร่อยแล้วเรา เราจึงเดินทางกลับและหวังว่าจะได้มาที่นี่อีกซักครั้ง ตลาดจันทบูร