บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อสะท้อนหรือบอกเล่าเรื่องราวของครูคนหนึ่งในชนบท ที่ห่างไกลความเจริญค่อนข้างมากจนบางคนคิดว่ามันมีแบบนี้ในประเทศไทยด้วยหรือ ครูคนหนึ่งสอนหนังสืออยู่ที่จังหวัดจันทบุรี เเนวตะเข็บชายเเดนของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน วันดีคืนดีก็จะมีลูกกระสุนปืนใหญ่หล่นใส่หลังคาบ้าน นักเรียนโรงเรียนบริเวณนี้เรียนหนังสือกันอย่างไร เรียนแบบคอยระวังภัยล่ะครับ เลิกเรียนบ่ายสองครึ่งครับ ถ้าดึกมากเดี๋ยวจะลำบากในการกลับบ้าน เดินในเส้นทางที่กำหนดด้วยนะครับ กับระเบิดยังคงมีอยู่เเม้ว่า ทางการบอกว่าหมดแล้ว ดูจากอะไรนะหรือดูจาก นักเรียนที่ขาขาดครับ พอสมควรเลยครับ เรามารู้จักคำว่า วินัย คือระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ สำหรับควบคุมความประพฤติทางกาย วาจา ใจ ของคนในสังคมให้เรียบร้อยดีงามเป็นแบบแผนอันหนึ่งอันเดียวกัน อยู่ร่วมกันด้วยความสุข วินัยช่วยให้สังคมห่างไกลจากความชั่วทั้งหลาย วินัยใช้ควบคุมคนให้ใช้ความรู้ความสามารถไปในทางที่ถูกที่ควร เหมือนกับครูคนนี้ที่ผมกำลังจะกล่าวถึงครับ ทำแบบนี้ทุกวันจนหมดหน้าที่สอน แต่ความเป็นครูอยู่เช้าของทุกวันครูคนนี้จะต้องมาเปิดโรงเรียน เพราะนโยบายระดับชาติบอกว่า ไม่มีการจ้างภารโรง จ้างได้เเต่ใช้เงินประจำไม่ได้หมายความว่าจ้างเป็นพักๆๆ เลิกจ้างได้ตลอดเวลา ครูก็ต้องมาเปิดโรงเรียนเอง ต้องกวาดสนามหญ้าเอง โรงเรียนนี้ขนาดเล็กครับ นักเรียน 95 คน นักเรียนส่วนใหญ่มากับผู้ปกครองไทยบ้าง เขมรบ้างปนกันครับ บางวันข้าวเย็นไม่มีกิน ผู้ปกครองดีใจมาก ถ้าโรงเรียนไม่ปิดเรียน เพราะเป็นสัญญาว่าลูกเขาจะมีข้าวเที่ยงกินและไม่หิวในตอนเย็น เพราะครูนำเอาถุงพลาสติดใส่ข้าวพร้องกับข้าวเเจกให้นักเรียนไปกินที่บ้างทุกคน ไม่มีใครรวยกว่าใคร ครูครับรวยที่สุดในโรงเรียนเพราะมีเงินเดือน ทุกวันหลังกวาดขยะเสร็จครูจะมาผูกธงชาติ เรียกนักเรียนมาเตรียมตัวเคารพธงชาติ โรงเรียนนี้มีครู 2 คนครับ ผอ 1 คน ทุกคนสอนหมด บางครั้งก็ต้องรวมชั้นไว้ด้วยกันเวลาครูคนใดคนหนึ่งป่วย วิชาที่เรียนส่วนใหญ่เน้นไปทางนำไปใช้ในชีวิตประจำวันล่ะครับ วันนี้เราจะมาเรียนวิชาการเลี้ยงปลาดุกกันนะ นักเรียนลงมาข้างโรงเรียน นักเรียนชั้น ป.6 และ ป.5 เดินตามครูลงไปข้างโรงเรียนที่ครูกับผู้ใหญ่บ้านช่วยกันชุดขึ้นมา โดยพันธุ์ปลาอาศัยจากความสัมพันธ์สถานีประมงจันทบุรี เลยไปพันธุ์ปลามา 500 ตัวแบบฟรี ก็ปล่อยลงไปแบ่งเวรกันมาเลี้ยงปลาพอตกตอนเที่ยงครูก็นำนักเรียนชั้น ป.6 ไปปลูกต้นมะขามเพื่อเมื่ออีกห้าปีถัดไปจะโตและเก็บฟักไปขายมาเป็นรายได้ของโรงเรียน เพื่อสนับสนุนค่าอาหารเที่ยงที่เเถมอาหารเย็นไปในตัวด้วยครับถ้าบนโลกใบนี้ คุณคิดว่า ตัวคุณหรือใคร ๆ ยากจนแล้วยังมีคนที่จนกว่าคุณอีกการรู้จักแบ่งปัน อาทรต่อผู้อื่นเหมือนครูท่านนี้ได้กระทำแบบนี้ เรื่อย ๆ มาศิษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าทั้งคนไทย คนเขมร มีลูกศิษย์มากมาย จนวันหนึ่งครูเกษียณอายุราชการแบบเงียบ ๆ ไม่มีใครรู้ครับ เรื่องครูท่านนี้ก็เงียบและจางหายลงไป จนมาเมื่อต้นปีนี้ 2562 ครูได้เสียชีวิตลงด้วยอาการสงบหลังเกษียณมา 5 ปี ด้วยคุณงามความดีหรือลูกศิษย์ระลึกถึง งานศพครูมีผู้คนมาในงานไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 ถึง 1,200 คนทุกวัน ติดต่อกันหนึ่งอาทิตย์ วันที่ปลงศพทุกคนบอกเป็นเสียงเดี๋ยวกันว่า หนู ผม จะระลึกถึงคำสอนครูเสมอครับ ผมเขียนบทความนี้เพื่อสะท้อนคำว่า ครู ให้น้อง ๆ ที่เรียนครูหรือคิดจะว่า ครู ได้รู้นะครับ ครูไม่เคยไม่หวังดีกับลูกศิษย์ เมื่อครูตีก็ต้องการให้นักเรียนจำคำสอนให้มั่น แล้วทำตามซึ่งจะช่วยส่งผลให้นักเรียนมีงานทำที่ดีในอนาคต จะได้ไปเลี้ยงดูพ่อแม่ ครูประถมครับทำหน้าที่ทุกอย่าง รวมถึงป้อนข้าวและแต่งตัวด้วยครับ ก่อนจะว่าครูหรือกล่าวหาครูที่สอนคุณมาสำนึกนะครับ คุณดีได้เพราะใคร