ครั้งหนึ่งผู้เขียนมีธุระไปแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก ก็เลยถือโอกาสไปเที่ยวที่จังหวัดจันทบุรี การขับรถเที่ยวก็ดีอย่างหนึ่ง คือเราสามารถไปไหน ๆ ก็ได้ และผู้เขียนเป็นประเภทค่ำไหนนอนนั่น เที่ยวแบบไร้แผนซึ่งข้อดีก็คือไม่รู้สึกกดดันที่ต้องไปถึงที่พักที่จองเอาไว้ล่วงหน้า แถมเราอาจจะเจอที่พักที่บรรยากาศดี ในราคาถูกพอสมควร ทริปจันทบุรีก็เลยเป็นทริปไม่มีแผน เจอที่ไหนถูกใจก็ค่อยว่ากัน ทริปครั้งนี้เริ่มต้นที่จังหวัดนครราชสีมา ผู้เขียนใช้เส้นทางปักธงไชย - กบินทร์บุรี ผ่านจังหวัดสระแก้ว เข้าจังหวัดจันทบุรี ผู้เขียนมีความตั้งใจจะไปเยี่ยมชมสวนผลไม้ ที่เขาโฆษณาว่ามีบุฟเฟต์ผลไม้ กะว่าจะกินไส้แตก อีกอย่างก็อยากเห็นทุเรียน เงาะ ลองกอง จากต้นจริง ๆ ปรากฎว่าพอเช็คอิน ในเฟซบุ๊ก เพื่อนสมัยมัธยมก็ทักมาว่ามาทำอะไรที่จันทบุรี ก็เลยได้ไปเยี่ยมสวนผลไม้ของเพื่อนแทน น่าเสียดายที่ช่วงที่ไปนั้นเป็นต้นฤดู ผลไม้ในสวนก็ยังไม่สุกงอมพอจะเก็บกินได้ และอีกอย่างหนึ่งก็พบว่าสวนปาล์มที่เคยได้ราคาดีเมื่อหลายปีก่อนตอนนี้ราคาตก จนเจ้าของสวนตัดสินใจตัดสวนปาล์มทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นปลูกเงาะ และทุเรียนแทน นั่งคุยสารทุกข์สุกดิบประสาคนไม่เจอกันนานได้เวลาสมควรก็ลาเพื่อนกลับ ออกจากบ้านเพื่อนเป็นเวลาเย็นก็เลยหาข้อมูลร้านอาหารที่น่าสนใจ พบว่ามีร้านนึง ชื่อ “ฟาร์มปูนิ่ม” เปิดตั้งแต่ 9 โมง ถึง 3 ทุ่ม ร้านจะอยู่ในอำเภอขลุง หรือจะลองหาตามพิกัดในแผนที่ก็ได้ค่ะ ขับรถเข้าออกซอยต่าง ๆ จนไปสุดริมถนน เราก็จอดรถแบบงง ๆ อ้าวแล้วร้านอยู่ไหนหล่ะเนี่ย ปรากฎว่ามีผู้ชายอายุพอประมาณแล้วมาทักว่าจะไปกินอาหารเหรอ งั้นไปรอที่ท่าเรือโน่นเลยนะ เดี๋ยวมีเรือไปส่ง นั่งเล่นรอสักครู่ก็มีเรือมารับ พาเราไปที่ร้านอาหาร ระหว่างนั่งเรือไปก็คุยกับคนขับเรือเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ในใจแอบคิด พาเรามาเชือดแหง ๆ พาไปกินไกลขนาดนี้อ่ะนะ นั่งเรือไปพักใหญ่ก็ถึงร้าน เผอิญเราไปช่วงบ่าย ๆ ก็เลยไม่มีลูกค้าหนาแน่น สามารถนั่งทานข้าวสบาย ๆ ทานเสร็จก็เดินชมสวน ปรากฎว่าพึ่งทราบว่าคุณแม่เจ้าของร้านเป็นคนปลูกเอง มีทั้งไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ อาทิ มะนาวบัว และพวงคราม เราปลื้มปริ่มกับต้นพวงครามของคุณแม่มาก จนท่านเมตตาแบ่งต้นกล้าพวงครามมาให้ 2 ต้น (คืออยากเอามาเยอะอยู่นะคะ แต่กลัวมันตายไปเสียก่อน) เดินชมสวนได้นิดหน่อย อาหารก็มาแล้ว วันนี้สั่งกุ้งอบวุ้นเส้น จานละ 120 บาท ปูนิ่มทอดกระเทียม ราคา 200 บาท กับอะไรอีกสักอย่างมาทานกัน ด้วยความหิวก็ลืมตัวไม่มีการเก็บภาพแต่อย่างใด อิ่มแล้วนั่นแหล่ะถึงนึกได้ อิ่มอร่อยแล้วก็ลาเจ้าของร้านกลับ เมื่อกลับออกมาก็หาที่พักซึ่งเป็นที่พัก ซึ่งเป็นโฮมเสตย์ง่าย ๆ แถวอำเภอขลุง ราคาไม่แพงมาก นอนขลุงหนึ่งคืนค่ะ ตื่นเช้า เรานำเสนอคุณแฟนว่าไปเที่ยวน้ำตกพริ้วกันมั้ย แฟนก็บ่นว่าร้อนขนาดนี้จะมีน้ำตกให้เล่นรึ เราก็บอกว่ามีแน่นอน เราไปถึงน้ำตกในเวลาเช้า ๆ คนไม่เยอะมาก แต่ขนาดว่าคนไม่เยอะก็ยังมีคนเต็มไปหมด คงจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนระอุ แล้วก็เป็นวันหยุดด้วย คนก็เลยออกมาเที่ยวกันเยอะ เมื่อหลายปีก่อนผู้เขียนเคยมาที่นี่ ระบบจัดการเรื่องขยะยังไม่ค่อยดีนัก มีนักท่องเที่ยวนำอาหารและเครื่องดื่มไปกินดื่มริมน้ำตก แต่ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่อุทยานเข้มงวดและห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานในบริเวณน้ำตก โดยให้รับประทานอยู่เพียงพื้นที่รอบนอกของน้ำตก ถ้าจะเล่นน้ำก็ลงไปได้แต่ตัวกับข้าวของ ซึ่งก็ดีเหมือนกันเพราะทำให้พื้นที่น้ำตก ที่มีคนไปเที่ยวจำนวนมากสะอาด น่านั่ง น่าพักผ่อน เรากับแฟนเดินชมสถานที่ไปเรื่อย ๆ ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ก็เดินกลับลงมาด้านล่าง มาเล่นน้ำใกล้ ๆ บริเวณทางออกอุทยาน เราเดินทางเข้าตัวเมืองเพื่อไปชมวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำจันทบูร เป้าหมายหลักเลยคือตั้งใจจะไปถ่ายรูปอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสินธินิริมล ว่ากันว่าภายในมีรูปปั้นพระแม่มารีอาประดับพลอย แต่เมื่อไปถึงวิหารปิดจ้า เราก็เลยได้แค่ถ่ายรูปภายนอกอาคาร เสร็จแล้วก็เลยเดินไปดูตลาดร้อยปีหลังวัด ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ของที่นี่ เดินชมตลาดไปก็หาขนมของกินไปเรื่อย ๆ สุดท้ายไปจบที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงในตรอกเล็ก ๆ ที่แม่ค้าในตลาดแนะนำให้ไปลิ้มลอง กินไปก็ถามคนทำไปว่าทำไมชื่อก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง (ตอนแรกคิดว่าก๋วยเตี๋ยวหมูเรียง คือเอาหมูมาเรียง ๆ กัน) คนขายก็อธิบายว่าเป็นสูตรการทำก๋วยเตี๋ยวที่ใส่สมุนไพรคล้าย ๆ ข่า แต่ที่นี่เรียกว่า “เร่ว” มีกลิ่นหอม กินอิ่มสบายท้องแล้วเราก็ไปต่อ วันนี้ตั้งใจจะไปตามหาปูนึ่งแถว ๆ เนินนางพญา อ่าวคุ้งวิมาน คือที่เนินนางพญาเนี่ย ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่สวยอันดับต้น ๆ ของประเทศ และผู้เขียนก็เห็นด้วยว่าถนนที่นี่สวยจริง ๆ แต่ไปครั้งนี้ คิวการถ่ายรูป ณ จุดชมวิว มีนักท่องเที่ยวแน่นหนามาก ก็เลยตัดใจจากเนินนางพญาไปหาปูนึ่งกินดีกว่า คือ แถว ๆ นั้นจะมีบ้านชาวเลขายปูนึ่งสด ๆ ราคาเริ่มต้นกิโลละ 400 บาท พร้อมน้ำจิ้มแซ่บ ๆ ให้ด้วย มีค่าบริการนิดหน่อยถ้าจำไม่ผิด ได้ปูนึ่งเป็นเสบียงสบายใจแล้ว ก็พากันเดินทางต่อไปจังหวัดชลบุรี เป้าหมายก็คือจะไปเที่ยวเกาะสีชังต่อไปค่ะ แถมท้ายนิดนึงจังหวัดจันทบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความเป็นเอกลักษณ์ประการหนึ่ง คือ คนที่นี่ถึงจะพูดเสียงดังสักหน่อย แต่ก็เป็นคนใจดี จริงใจ อาหารการกินร้านไม่ใหญ่ไม่ดังหลายร้านรสชาติดี ร้านข้าวแกงง่าย ๆ ก็อร่อย เหมือนรสมือคนที่นี่ค่อนข้างดีก็ไม่รู้นะ กินข้าวมื้อไหนก็อร่อยทุกมื้อเลย ส่วนหาดทรายของจันทบุรี ผู้เขียนมองว่าทรายไม่ขาวละเอียดเหมือนหาดแถบระยอง หรือตราด แต่จันทบุรีก็มีเสน่ห์ในเรื่องอาหารการกิน ผลไม้ และบรรยากาศเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสงบ เรียบง่าย มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่อย่างชัดเจนเรื่องและภาพ โดยผู้เขียน