อื่นๆ

ผีตายโหงบ้านเช่าสยองขวัญ

109
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ผีตายโหงบ้านเช่าสยองขวัญ



เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นจริงกับตัวข้าพเจ้าและคนในครอบครัว ปัจจุบันข้าพเจ้า อายุ 42 ปี เรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 35 ปี บ้านหลังนี้มีลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าๆ ใต้ถุงสูง  เมื่อเราเดินขึ้นบันไดบ้านมาจะเจอห้องครัวก่อนเลยส่วนด้านหลังห้องครัวจะเป็นห้องสุขา และจะมีพื้นยกระดับขึ้นมาหน่อยจะเป็นเหมือนห้องใหญ่เลยไม่มีผนังกั้นอะไรอีก ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นที่นอน ดูทีวี และที่ทานข้าว  ซึ่งผนังห้องบางช่วงไม้จะผุมองทะลุไปห้องครัวได้  แล้วหน้าประตูห้องนอนจะมีผ้ายันต์เก่าๆติดเหนือประตูอยู่ ซึ่งมันมองดูไม่รู้เร่ื่องแล้วว่า ผ้ายันต์อะไร ตัวเลขอักขระมันจางไปหมด เหมือนผ่านกาลเวลามานาน

ข้าพเจ้าเกิดมาในครอบครัวที่จัดว่าอยู่ในฐานะยากจน มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน  คุณพ่อมีอาชีพช่างตัดผมส่วนคุณแม่มีอาชีพค้าขาย  ซึ่งในวัยเด็กเราต้องเช่าบ้านอยู่กันมาตลอด  และบ้านหลังที่เกิดเหตุสยองขวัญนี้ อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา  ชุนชนตลาดบ่อบัวซึ่งเป็นที่ของทางรถไฟ  ข้าพเจ้าได้สอบถามคุณแม่ว่าสาเหตุที่ได้เข้ามาเช่าบ้านหลังนี้เพราะอะไร  คุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่าสมัยที่อยู่กินกับคุณพ่อใหม่ๆ ได้อาศัยบ้านของคุณป้า คือพี่สาวคุณพ่ออยู่เพราะคุณป้าเขามีห้องแถวให้คนเช่า   แต่มีเหตุที่ทำให้คุณพ่อกับคุณแม่มีเรื่องที่ไม่ลงรอยกัน

Advertisement

Advertisement

คุณแม่มีอารมณ์งอนจึงได้ไปหาห้องเช่าอยู่เอง  โดยที่คุณพ่อไม่ทราบประมาณว่าหนีไปเช่าอยู่ ซึ่งสมัยนั้นข้าพเจ้ายังไม่เกิดเลย   ซึ่งคุณแม่ได้เดินหาบ้านเช่าโดยถามคนแถวๆนั้นว่า มีห้องเช่าที่ไหนบ้างจึงมีคนแนะนำให้มาดูบ้านเช่าหลังนี้  ซึ่งเมื่อคุณแม่ได้ไปติดต่อถามเจ้าของบ้านนั้นแล้ว คุณแม่ท่านพอใจกับราคาค่าเช่ารายเดือนที่แสนจะถูกมากๆ  (แต่ข้าพเจ้าจำราคาค่าเช่าไม่ได้แล้วว่าสมัยนั้นราคาเท่าไร)จึงตัดสินใจทันที  หลังจากขนของมาอยู่แล้ว  และในวันนั้นคนที่มีบ้านเรือนแถวๆนั้นได้คุยกับคุณแม่ว่ากล้ามาอยุูได้ยังงัย  ไม่ทราบรึว่าบ้านหลังนี้มีผู้หญิงคนหนึงมาเช่า แล้วอยู่มาวันหนึ่งได้ผูกคอตายสาเหตุมาจากผิดหวังเรื่องความรัก

หลังจากที่นางเสียชีวิตไปแล้วใครมาเช่าอยู่บ้านหลังนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน  เคยมีหมอดูลายมือมาเช่าอยู่ คืนแรกถูกลากลงจากบ้านจนไม่มีใครกล้าเช่าบ้านหลังนี้ หลังจากที่คุณแม่ได้ยินเรื่องราวแล้วก็รู้สึกขวัญเสียนิดหน่อย  แต่ในใจก็ไม่คิดอยากจะย้ายออกเพราะราคาค่าเช่าห้องรายเดือนถูกมาก  อีกอย่างการเดินทางเข้าออกมันก็สะดวกดีไม่ไกลจากตลาดหรือในตัวเมืองมากนัก  อีกอย่างทางคุณแม่ท่านชอบอยู่บรรยากาศที่มันดูชนบทๆหน่อย

Advertisement

Advertisement

โดยเหตุการณ์ในคืนแรกนั้นมันน่ากลัวมากๆคุณแม่เล่าให้ฟังว่า เวลาเย็นเกือนโพ้เพ้ท่านได้นำเอาพระเครื่องต่างๆมาไว้ใต้หมอนหนุน  เพราะรู้สึกหวาดกลัวเนื่องจากต้องนอนคนเดียวในบ้านหลังนี้  แถมบรรยากาศรอบข้างเริ่มตกอยู่ในความเงียบและวังเวง  พอถึงเวลากลางคืนท่านก็ได้เขานอนตามปกติ  แต่ยังไม่ทันหลับท่านได้ยินเสียงคนคุยกันข้างมุ้งแต่เมื่อท่านตั้งใจฟัง  ก็ไม่สามารถจับใจความได้ว่าการสนทนานั้นคุยอะไรกัน  และได้ยินเสียงคนลากข้าวของ , รื้อของซึ่งในคืนนั้นท่านกลัวมาก  ได้แต่สวดมนต์ในใจจนคืนนั้นผ่านไปด้วยดี

ซึ่งในวันรุ่งขึ้นท่านได้ให้คนไม่ตามคุณพ่อให้มาอยู่ด้วยกันหลังจากที่คุณพ่อได้ย้ายเข้ามาอยู่กับคุณแม่ในบ้านเช่าหลังนี้แล้ว  ก็ยังมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆคุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่าคืนนั้นท่านนอนหลับไปแล้ว  แต่ในช่วงที่คุณพ่อเข้ามุ้งมาเพื่อจะหลับนอนพักผ่อน  คุณแม่บอกว่าที่เห็นไม่ใช่ใบหน้าของคุณพ่อท่านตกใจเลยร้องกรี๊ด  จนทำคุณพ่อรู้สึกตกใจจึงร้องบอกว่าแม่เป็นอะไร

Advertisement

Advertisement

ท่านเลยเล่าสิ่งที่เห็นเมื่อกี้ให้คุณพ่อได้ฟังแต่คุณพ่อท่านเป็นคนไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่แต่เดิมแล้วและไม่เคยกลัว  ท่านเลยไม่ได้สนใจอะไรมากนักทั้งสองคนก็เลยนอนหลับไปตามปกติ   จนเรื่องราวผ่านมาถึงสมัยตัวข้าพเจ้าเอง  ที่ได้พบเจอเหตุการณ์ประหลาดๆ น่ากลัวซึ่งเกิดขึ้นหลายอย่างมากจะเรียงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดเท่าที่จะจำได้เพื่อถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้ฟังหลังจากที่ข้าพเจ้าจำความได้แล้ว

ขณะนั้นเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3  ซึ่งตอนนั้นคุณพ่อกับคุณแม่ได้เลิกลากันไปแล้ว   ตัวข้าพเจ้าและพี่น้องทั้งหมดได้อยู่ในความดูแลของคุณพ่อโดยกว่าที่คุณพ่อจะเลิกทำงาน  แล้วเดินทางกลับมาบ้านก็ประมาณเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว  ทำให้ตัวข้าพเจ้าและพี่น้องต้องอยู่กันตามลำพังในบ้านหลังนี้   โดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเลยแค่โชคดีหน่อยที่มีพี่สาวคนโต กับพี่ชายคนที่ 2 ซึ่งวัยขณะนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้นป.4,5 แล้ว จึงสามารถดูแลน้องๆได้ครั้งแรกนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้โหยหวนกลางดึก

เนื่องจากช่วงนั้นคุณพ่อท่านจะเมาสุราแทบทุกวันก็ตั้งแต่เลิกกับคุณแม่ทำให้กลับบ้านไม่เป็นเวลา  บ้างทีก็สว่างซึ่งตัวข้าพเจ้านั้นค่อนข้างจะเป็นลูกติดคุณพ่อ  จึงต้องรอให้ท่านกลับมาบ้านก่อน   จึงจะเข้านอนและในวันเกิดเหตุนั้นเอง    ข้าพเจ้าจำได้ดีว่าตัวเองนั้นได้นอนเล่นอยู่ในมุ้งพร้อมๆกับพี่น้องคนอื่นๆแต่ยังไม่ทันหลับเพราะจะรอให้ทางคุณพ่อกลับมาก่อน   โดยได้เปิดไฟห้องทิ้งไว้

แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงได้เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบเมื่อตื่นขึ้นมาอีกที   ก็มองไปนอกมุ้งเห็นคุณพ่อเมานอนหลับอยู่   พร้อมกับได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังมากอารมณ์ประมาณว่าเสียใจมาก   ข้าพเจ้าเมื่อได้พบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เลยทำให้นอนตัวเกร็งเลยด้วยความที่ตกใจ และงง  แล้วจึงเผลอนอนหลับไป  แต่ก็ยังจำเรื่องราวเหล่านั้นได้ดีจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยลืม

เหตุการณ์ต่อมาข้าพเจ้าได้เคยเห็นวิญญาณวิ่งผ่านหน้าไปทางในห้องครัว  โดยตอนที่ข้าพเจ้าเห้็นนั้นเป็นเวลาเย็นแล้วเกือนมืดค่ำ  ได้เห็นผ่านผนังห้องที่ผุ โดยวิ่งผ่านสายตาไปเร็วมาก แต่ยังสามารถมองเห็นว่าเป็นรูปร่างคน ข้าพเจ้าจำได้ว่าวันนั้นคุณพ่อท่านรู้สึกเจ็บคอ ต้องการให้ข้าพเจ้าไปซื้อมะนาวมาให้หน่อย

และอีกเหตุการณ์ต่อมาซึ่งเหตุการณ์นี้เจอกับพี่สาวและตัวข้าพเจ้า  ซึ่งพี่สาวได้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำซึ่งในนั้นจะมีโอ่งลายมังกรตั้งอยู่ 1 ใบ ซึ่งช่วงเวลาที่พี่สาวก้มลงไปในโอ่งเพื่อหยิบขันนั้นมีมือปริศนามาจับแขนพี่สาว  พี่สาวจึงร้องกรี๊ดจนคนในบ้านตกใจ  แล้วพี่สาวก้วิ่งมาด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเลย  รู้สึกว่าพี่สาวกลัวมากคืนนั้นจึงเป็นอีกเหตุการณ์หนึงที่ไม่่มีวันลืม

และอีกเหตุการณ์หนึงที่เกิดขึ้นกับัวข้าพเจ้่านั้น  ก็คล้ายๆกับพี่สาวเช่นกัน  โดยปกติแล้วบ้านหลังนี้จะสามารถเปิดหน้าต่างจากชั้นบน และทะลุไปห้องครัวได้  เพราะห้องมันเชื่อมต่อกัน  ซึ่งก็เปิดแบบนี้เป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว  จะปิดหน้าต่างหน้าบานนี้ก็ในช่วงเวลาตอนกลางคืน  และในวันนั้นข้าพเจ้าก็เจอเหตุการณ์น่ากลัวมากเช่นกัน

ระหว่างที่เอื้อมมือไปปิดหน้าต่าง  ข้าพเจ้าได้ไปจับมือปริศนาของใครเข้าอย่างจังๆ และจับแบบเต็มไม้เต็มด้วยนะซิ   แล้วมือปริศนานั้นก็รีบชักมือถอยออกจากมือของข้าพเจ้าทันที  ซึ่งตัวข้าพเจ้าเองไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร  แต่ในใจรับรู้ได้ทันทีว่าเจอดีเข้าแล้ว   และหลังจากนั้นมาก็เจอแต่เหตุการณ์สยองขวัญมาตลอด    เวลาปิดไฟนอนปู้บจะได้ยินเสียงคนหักนิ้วบ้าง  หรือ ได้ยินเสียงใครสักคนกำลังใช้มือแหว่กหาของในถุงพลาสติก   และเป็นแบบนี้แทบจะทุกวัน

และมีอยู่วันหนึ่งตัวข้าพเจ้าและพี่น้องทั้งหมดได้เจอเหตุการณ์พร้อมกันเลยคือว่า ทุกคนกำลังนอนเล่นกันอยู่ในมุ้ง   สักพักได้ยินเสียงหวีดๆร้องเข้ามาในมุ้ง และเสียงปริศนานั้นมันเริ่มใกล้เข้ามาทุกทีๆ  จนทุกคนตกใจกลัวแต่พี่สาวของข้าพเจ้ายังมีสติมาก  เขาบอกให้พวกน้องช่วยกันแผ่เมตตา สักพักเสียงนั้นก็หายไปเอง

บนบ้านหลังนี้เหมือนมีใครคอยจ้องมองที่ช่องลมด้านบนอยู่ตลอดเวลา ในช่วงเวลากลางคืน  ซึ่งตัวข้าพเจ้าเองถึงแม้จะใจกล้ามากที่อยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้  แต่ก็ยังไม่วายที่จะรีบวิ่งออกมาจากบ้านเลย  ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น เป็นช่วงปิดเทอม   พวกพี่ๆและน้องๆได้เดินทางไปเที่ยวบ้านปู่ย่าที่ จ.ปราจีนบุรี  ส่วนตัวข้าพเจ้าไม่ได้ไป จะอยู่กับคุณพ่อ และอีกอย่างบ้านปู่ย่าหาขนมทานยากมากๆ   แต่ช่วงปิดเทอมนั้นข้าพเจ้าได้ไปช่วยป้าขายข้าวแกงที่ตลาดบ่อบัว  กว่าจะกลับมาบ้านก็ประมาณ 1 ทุ่มกว่าเป็นแบบนี้แทบทุกวัน

และในวันแรกที่ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้    ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับตัวข้าพเจ้าซึ่งยังจดจำบรรยากาศนั้นได้เป็นอย่างดี  มันวังเวงมากและบรรยากาศรอบข้างมันช่างไม่ดีเลย  แล้วเหมือนมีใครจ้องมองเราอยู่  ไม่ว่าจะทำไรจนไม่กล้ามองตัวเองในกระจก   สักพักข้าพเจ้าก็ตั้งสติที่จะไม่กลัว  จึงยินสวดมนต์หน้าหิ้งพระ  แต่กลับได้ยินเสียงใครตวาดเข้ามา   ซึ่งดังมากจนตัวเองตกใจ และรีบวิ่งลงจากบ้าน   เพื่อไปหาคุณพ่อที่ร้านตัดผม  เพื่อรอกลับเข้าบ้านพร้อมท่าน

หลังจากนั้นช่วงปิดเทอมข้าพเจ้าไม่เคยขออยู่บ้านคนเดียวอีกเลยเข็ดจนตาย   จะต้องตามพวกพี่น้องไปอยู่ที่บ้านปู่ย่าตลอดทุกครั้ง   และอีกเหตุการณ์ที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง โดยคุณพ่อท่านจะมีรถจักรยานอยู่คันหนึ่ง ซึ่งเป็นคันที่ 2 ที่ซื้อมาใหม่  เพราะคันแรกนั้นท่านเคยจอดไว้ใต้ถุนบ้านแล้วขโมยมาลักไป   ท่านจึงแก้ปัญหาโดยได้ยกขึ้นมาจอดไว้บนบ้านแทน   ซึ่งเวลาที่ท่านกลับบ้านมานั้น  ท่านจะเอี้อมมือมาถอดกลอนประตูด้านในเอง  และยกรถจักรยานขึ้นมาจอด เสียงประตูเสียงยกรถ ตัวเราจะได้ยินจนคุ้นหู  ซึ่งวันที่เกิดเหตุนั้นตัวข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงนั้น   จึงคิดว่าคุณพ่อท่านกลับมาบ้านแล้ว  จึงได้เปิดประตูออกไปดู แต่กลับว่าเจอความว่างปล่าว  จึงรู้ได้ทันทีว่าเจอผีหลอกเข้าให้แล้ว  ซึ่งทำเสียงเลียนแบบได้เหมือนมากๆ

และเหตุการณ์ต่างๆอีกมากมาย ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้  เช่น เสียงหม้อหล่นในเวลากลางดึก  แต่ตื่นเช้ามาไม่มีหม้อหล่นสักใบ  และ สียงเปิดกระติกน้ำแข็ง  ซึ่งข้าพเจ้าได้ยินกับหูตัวเองว่ามีใครเปิดกระติกน้ำที่ตั้งอยู่ตรงหน้าประตู  หรือเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้า รู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึกพบว่าตัวเองนอนอยู่กลางบ้าน  ซึ่งไม่ได้นอนอยู่ในมุ้งเหมือนทุกวันเมื่อข้าพเจ้ารู้สึกตัวจึงรีบคลานเข้ามุ้งทันที

สำหรับทางตัวคุณพ่อเองนั้นท่านเคยเจอเหตุการณ์อยู่ครั้งหนึ่ง ท่านเล่าว่าวันนั้นเป็นวันพระ  ท่านตื่นขึ้นมากลางดึกมองไปนอกมุ้งท่านเห็นผีมาเต็มบ้าน แล้วผีบ้างตัวก็เดินมาข้างๆมุ้งตรงที่ตัวข้าพเจ้านอนอยู่ แล้วทำทางจะกัดผม ทางคุณพ่อเห็นแบบนั้นเลยใช้เท้าถีบ  แต่ก็ยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึงว่า ถ้าวันไหนฝนตก บ้านหลังนี้จะไม่มีเหตุการณ์ประหลาดอะไรเกิดขึ้นเลย  ซึ่งผมยังงงมาก ว่ามันเพราะอะไร

แต่หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ครอบครัวข้าพเจ้าจึงได้ย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้น   ซึ่งตัวข้าพเจ้าดีใจมากๆที่ได้ไปจากบ้านหลังนี้ซะที   เพราะหลายปีมานี้ต้องทนอยู่กับเหตุการณ์แปลกๆทุกคืน   แต่ในที่สุดข้าพเจ้าคิดว่าดวงวิญญาณเหล่านั้น  อาจไม่มีเจตนาจะมาหลอกให้คนในบ้านกลัว เขาคงต้องการมาขอส่วนบุญกุศล   แต่ด้วยความเป้นเด็กจึงรู้สึกกลัวกันไปเอง

ข้าพเจ้าคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงผูกคอตายในห้องครัว   เพราะหลายเหตุการณ์นั้นจะเกิด ณ บริเวณนั้นบ่อยๆ  ขอให้บุญกุศลที่เกิดจากการถ่ายทอดเรื่องราวนี้ จงถึงวิญญาณที่ล่วงลับตนนั้นด้วยเทอญ   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้นมันทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเมื่อคนเราตายจากโลกนี้ไปแล้วมันตายไปแค่กายสังขาร  แต่ยังมีดวงวิญญาณที่ยังต้องไปชดใช้กรรมตามแรงบุญแรงบาปที่ตัวเองได้ก่อขึ้นไว้ในขณะที่ยังมีชิวิตอยู่  ฉะนั้นเราทุกคนอย่าประมาณในชีวิต  อย่าคิดว่าสิ่งที่เรามองด้วยตาเนื้อไม่เห็นจะไม่มีอยู่จริง   ถ้าคิดแบบนั้นเราจะตกอยู่ในความประมาณ  มาเสียใจทีหลังมันก็สายเกินไปแล้วครับ..(ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบจากจาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87_(%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C))

เครดิตภาพจาก MONSTER HOUSE บ้านผีสิง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์