เชื่อว่าสาว ๆ หลาย ๆ คนคงอยากจะมีผิวที่สวยและสุขภาพดี เปล่งปลั่ง ดูมีออร่ากันใช่ไหมล่ะคะ แต่ก็ไม่อยากที่จะไม่ฉีดผิวหรือทำอะไรกับผิวด้วยวิธีการที่ไม่เป็นธรรมชาติ วันนี้ผู้เขียนจึงอยากจะมาแนะนำผลไม้ที่มีส่วนช่วยทำให้ผิวของเรานั้นดูสดใสและมีสุขภาพดี จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ เครดิตภาพ : https://bit.ly/38gzWZi 1. แอปเปิ้ล ผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวชนิดนี้ประกอบไปด้วยวิตามินซี ซึ่งวิตามินซีจะมีส่วนเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวของเรา ทำให้ผิวของเรากระชับ เต่งตึง ดูสวยและสุขภาพดีค่ะ เครดิตภาพ : https://bit.ly/2H6UveV 2. ส้ม ส้มเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวใสขึ้น นอกจากนี้ส้มยังอุดมไปด้วยวิตามินเอซึ่งช่วยยับยั้งแบคทีเรียสิ่งสกปรกที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอีกด้วย เครดิตภาพ : https://bit.ly/2UF1TpF 3. กล้วย ผลไม้บ้าน ๆ ที่เราหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป กล้วยมีวิตามินบี 3 ที่มีส่วนช่วยทำให้ผิวของเราสดใส เปล่งปลั่ง มีสารโพแทสเซียมที่ช่วยทำให้เลือดของเราไหลเวียนได้ดี อันจะส่งผลให้ผิวของเราใสและน่ามองค่ะ เครดิตภาพ : https://bit.ly/37czeLe 4. ทับทิม ทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร อีกทั้งยังมีวิตามินซีที่มีส่วนช่วยให้ผิวของเราสดใสอีกด้วยค่ะ เครดิตภาพ : https://bit.ly/3bnYEsS 5. แตงโม แตงโมมีไลโคปีนที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย ทำให้ผิวเราสดใสและมีสุขภาพดี ผิวเราจะไม่แห้งเหี่ยวและไม่หยาบกร้านค่ะ นอกเหนือจากนี้แตงโมยังจัดได้ว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยทำให้ผิวของเราชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย เนื่องจากในแตงโมนั้นเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยน้ำ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยล่ะค่ะว่าทำไมถึงช่วยทำให้ผิวของเราชุ่มชื่นได้ เครดิตภาพ : https://bit.ly/2Sva2KN 6. มะม่วง ผลไม้ที่มีทั้งรสชาติหวานมันและเปรี้ยวชนิดนี้อุดมไปด้วยวิตามินเอช่วยเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะส่งผลให้เลือดของเราไหลเวียนได้ดี ทำให้ผิวของเราสดใสเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาด หากเป็นมะม่วงที่มีรสเปรี้ยวก็จะมีวิตามินซีที่ช่วยทำให้ผิวของเรากระจ่างใสขึ้นอีกด้วยค่ะ เครดิตภาพ : https://bit.ly/2UBQKWJ เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเหล่าผลไม้ที่ช่วยให้ผิวของเรานั้นสดใส ดูมีสุขภาพดี ที่ผู้เขียนได้นำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์เพื่อให้ผู้อ่านได้นำไปดูแลผิวพรรณของเราให้ดีมากขึ้นนะคะ เครดิตภาพปก : https://bit.ly/39pwImF เขียนโดย : Life is learning