อื่นๆ

โรงแรมหลอน @กาญจนบุรี

3.0k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
โรงแรมหลอน @กาญจนบุรี
  • ชีวิตฉันก็เหมือนกับคนทั่ว ๆ ไปกินเต็มอิ่ม นอนเต็มตื่น สนุกกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างคุ้มค่า แต่ทั้งหมดนี้ก็แค่ 70 เปอร์เซนต์เท่านั้น อีก 30 เปอรเซนต์เป็นด้านมืด ที่ฉันต้องทนทุกข์กับการมีสัมผัสพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งพิเศษที่ฉันไม่อยากมีสักเท่าไหร่

ตั้งแต่จำความได้ฉันมักจะพูดคุยกับคนรอบ ๆ ข้างที่มองไม่เห็นอยู่เสมอ จนแม่จับความผิดปกติของฉันได้ และตวาดฉันทุกครั้งเมื่อทำแบบนั้น หลาย ๆ ครั้งจนฉันกลัว จากนั้นเวลาเห็นอะไรที่ผิดปกติ ผี หรือสัมภเวสี ฉันก็จะทำเป็นมองไม่เห็น และมองข้ามไปเสมอ จนเมื่อฉันโตขึ้น การเห็นผีของฉันก็เริ่มเลือนไป ซึ่งเป็นสีที่ฉันรอคอยมาตลอดชีวิต

จนมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ฉันต้องมาเห็นผีอีกครั้ง

เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นตอนประมาณ ฉันเรียนอยู่ตอนปี 2 ฉันและเพื่อน ๆ ในเอกที่ฉันเรียน นัดกันไปเที่ยวที่กาญจนบุรี เพื่อเลี้ยงส่งเพื่อนคนหนึ่งที่กำลังจะซิ่วไปเรียนคณะพยาบาล เราต่างยินดีและดีใจกับเพื่อนที่ค้นพบตัวเอง จึงจัดทริปเพื่อเลี้ยงส่ง โดยการเดินทางรวมถึงที่พัก มีเพื่อนที่ชื่อ เอม เป็นคนจัดหาทุกอย่าง พวกเราก็มีหน้าที่แค่จ่ายเงินและเตรียมตัว 'เตรียมใจ' ไปก็แค่นั้น..

Advertisement

Advertisement

นี่ถือว่าเป็นการมาเที่ยวกับเพื่อนในรอบปีเลยก็ว่าได้ เพราะปกติ เราไม่ค่อยชอบที่จะออกไปไหน ชีวิตประจำวันก็มีแค่ร้านข้าวเจ้าประจำ มหาวิทยาลัย และหอ ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง เวลาประมาณ 7 โมง ฉันและเพื่อนนัดกันมาเตรียมตัวขึ้นรถไฟที่นี้ ด้วยความที่หออยู่ไกลจากหัวลำโพง ฉันจึงเดินทางมาก่อนทุกคน การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปกติดี จนขึ้นรถไฟ .. รูป ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.khaosod.co.th/

ทุกคนสนุกและเฮฮากันตามประสาเพื่อนที่มาเที่ยวด้วยกัน แต่ฉันไม่ได้เตรียมเสบียงอาหารมา ด้วยความหิวและประจวบเหมาะกับมียายคนนึงขึ้นมาขายก๋วยเตี๋ยวแบบเป็นกล่อง ๆ

  • ฉันเลยกวักมือและเรียกยาย  'ยายจ๋า ๆ เราก๋วยเตี๋ยวผัดกล่องนึงจ๊ะ '
  • ' 25 สตางค์.. ' ยายตอบด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ฉันหัวเราะในลำคอและตอบกลับไปว่า
  • 'โถ่ยาย ขายแค่นี้จะไปเอากำไรจากไหนหล่ะเนี้ยคุณยาย' ฉันคิดในใจว่าคุณยายหยอกล้อเล่น จึงพูดพลางค้นเงินในกระเป๋าพลาง

Advertisement

Advertisement

ฉันสังเกตความผิดปกติรอบตัว ทุกคนเงียบหมด ไม่มีเสียงเฮฮารอบ ๆ เหมือนเดิม เราจึงเริ่มเงยหน้าขึ้นมา ทุกคนมองมาทางเข้า เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ฉันจับไหล่แล้วถามว่า ' แกพูดกับใคร ' ในใจตอนนั้นก็คิดว่าต้องเป็นผีแน่ ๆ ขนลุกซู่ทั้งตัว แต่ก็ยังตอบเพื่อนไปว่า ' ก็ยายที่ขายก๋วยเตี๋ยวไง อยู่ตรงนั้น แต่หายไปแล้ว ' เพื่อนทุกคนมองหน้ากัน แล้วต่างพูดว่าเราเห็นยายได้ยังไง ไม่มีใครสักหน่อย รถไฟก็ยังไม่หยุด จะมีคนขึ้นมาขายของได้ยังไง ฉันเลยฮุกคิดขึ้นมา ว่าจริงอย่างที่เพื่อนบอก แต่ฉันไม่อยากทำให้บรรยากาศเสีย จึงหัวเราะดัง ๆ และบอกเพื่อน ๆ ว่าหัวเราะ ด้วยความที่ฉันเป็นคนขี้แกล้งและตลก ทุกคนจึงเชื่อ บรรยากาศเลยดำเดินไปอย่างปกติจนถึงประมาณ บ่าย 2 รถไฟก็เดินทางมาถึงจังหวัด กาญจนบุรี ตลอดทางเราไม่พูดไม่จา ใส่หูฟังและพยายามไม่มองไปรอบ ๆ พอถึงจังหวัดกาญจนบุรี ทุกคนยังไม่เข้าไปเช็คอินในที่พัก แต่เลือกที่จะไปกินข้าวและไปซื้อของก่อน เสร็จประมาณค่ำ ๆ จึงเข้าไปเช็คอินรูป ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.posttoday.com

Advertisement

Advertisement

สภาพโรงแรมดูดีทุกอย่าง

เหมือนเป็นแนววินเทจ ครึ่งปูนครึ่งไม้สวยไปอีกแบบ เราเช็คอินตอนค่ำแล้ว พอถึงทุกคนก็แยกย้ายเข้าห้องของตัวเอง ซึ่งเป็นฟ้องร่วม แยกชายหญิง ห้องละ 4 คน ฉันได้ห้องแรกตรงบันได แต่ได้นอนแค่ 3 คน เตียงบนฝั่งเราไม่มีคนนอน เพราะเพื่อนที่จะมาด้วยอีกคนไม่สบาย หลังจากอาบน้ำเสร็จทุกคนพากันเข้านอนด้วยความเมื่อยล้า ฉันนอนหลังสุดเพราะมัวแต่เล่นโทรศัพท์ จนฉันหลับไปโดยไม่รู้สึกตัว ตื่นอีกทีตอนได้ยินเสียง

แอ๊ด แอ๊ด.. จากเตียงด้านบน ในใจคิดว่าเพื่อนอีกคนคงย้ายเตียงแน่ ๆ เลยไม่ได้คิดอะไร สักพักเสียงเริ่มดังขึ้น ๆ จนผิดสังเกต ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง แต่ก็ไม่เห็นอะไร ในใจเริ่มกลัว ฉันเริ่มตั้งสติแล้วนอนต่อ แต่ยังไม่ทันหลับตานอน ก็มีขาห้อยลงมาจากเตียงด้าบน เป็นขาสีดำ ตอนนั้นเรารู้แล้วว่าเป็นผีแน่นอน แต่เราทำเป็นไม่สนใจ แต่ยิ่งเราไม่สนใจมากเท่าไหร่ เสียงเขย่าเตียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ จนเราทนไม่ไหว รูป

ขอบคุณรูปจาก https://www.tripadvisor.co.za/

ฉันลืมตาขึ้นอีกครั้งพร้อมผู้หญิงไม่มีหน้า ตัวสีดำ เป็นยิ้มแบบสยอง อยู่ข้างหน้าฉัน

เธอจ้องมองมาที่ฉันแบบไม่พักสายตา และพยายามจะเข้ามาสิงร่างของฉัน แต่โชคดีที่ก่อนมา ฉันหยิบพระองค์เล็กของแม่มาด้วย ผู้หญิงคนนี้เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ ฉันทนไม่ไหวจึงปลุกเพื่อนทุกคนและทำที ชวนออกไปกินขนมตอนกลางคืน ทุกคนงง แต่ก็ยอมไป ระหว่างทางเดิน ฉันเห็นวิญญาณมากมายที่ครั้งแรกตอนเข้ามาในโรงแรมไม่ปรากฎตัวให้เห็น พอถึงร้าน ฉันเล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟัง

ทุกคนมองหน้ากัน บอกว่าพวกเขาก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ รู้สึกแปลก ๆ เช่นเดียวกัน คืนนั้นฉันและเพื่อนไปนอนบ้านญาติของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม ที่ห่างออกจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง คืนนั้นทุกคนต่างพากันหลับไม่ลง จนตอนเช้าประมาณ 6 โมง ญาติของเพื่อนพาพวกเราไปเก็บของที่โรงเเรม สิ่งที่เราไม่เชื่อสายตาคือ

จากโรงแรมที่สวยน่านอนเมื่อคืน พอตอนเช้ากลับเป็นโรงแรมเก่า ๆ

ทุกคนพากันตกใจและรีบเข้าไปเอาของ สภาพห้องเหมือนภาพลวงตา ไม่สวยน่านอนเหมือนเมื่อคืน เป็นโรงแรมที่สภาพเหมือนไม่มีคนดูแล พวกเรารีบเก็บของและออกจากโรงแรมดังกล่าวทันที ระหว่างนั่งกินข้าว ฉันและเพื่อนคุยกันถึงเรื่องนี้ มีชาวบ้านคนนึงเสริมขึ้นมาว่า โรงแรมนั้นปิดกิจการมาตั้งนานแล้ว เจ้าของพึ่งตายไปได้ไม่นาน กำลังจะทุบโรงแรม แล้วถามพวกเราไปทำอะไรกันที่นั่น ฉันและเพื่อนมองหน้ากันยิ่งย้ำเตือนถึงสิ่งที่เจอ ก่อนไปเที่ยวพวกเราจึงเข้าไปทำบุญกรวดน้ำที่วัด สบายใจขึ้นมาในระดับหนึ่ง จากนั้นก็ไปเที่ยวกันต่อและเลือกนอนที่บ้านญาติของเพื่อน ถึงแม้จะไกลหน่อยแต่ก็สบายใจ

และสุดท้ายฉันก็กลับมาเห็นผีอีกครั้งหนึ่ง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์