เรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ถูกบันทึกไว้ระหว่างปลายปี 2561 กับ ต้นปี 2562...เป็นการเดินทางที่เริ่มต้นด้วยความสุขและจบลงด้วยความสุขเช่นกัน ทำไมต้องกาญจนบุรี?? ส่วนตัวมองว่าเป็นจังหวัดมีที่สถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะและหลากหลายบรรยากาศ ตั้งแต่น้ำตกเอยป่าเอยภูเขาเอย และที่สำคัญวิวบนเขาดีมาก ก.ไก่ล้านตัวเลย อีกอย่างนึงกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ติดประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าและเมื่อติดกันทำให้เกิดวัฒนธรรมหลากหลาย สังเกตง่ายๆ ที่สะพานมอญมีผู้คนอาศัยปะปนกัน และที่หมู่บ้านอิต่องชาวบ้านอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัวและก็มีเด็กจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านข้ามฝั่งมาเรียนหนังสือ ในโรงเรียนที่หมู่บ้านอีกด้วย นี่คงเป็นเสน่ห์อย่างนึงของที่ทำให้หลงรัก นี่คือ "อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ" ความสโลว์ไลฟ์อย่างนึงของที่นี่คือมันทำให้รู้เหมือนตัวเองได้ชาร์จแบตเมื่อได้อยู่กับธรรมชาติรอบตัว ทำให้รู้สึกอิ่มใจโดยไม่รู้ตัวเลย แดดอุ่นๆ ลมเย็นๆ ตอนเช้าสูดอากาศให้เต็มปอดแบบที่หาในเมืองใหญ่ไม่ได้ "บ้านอิต่อง" ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายเป็นหมู่บ้านที่เกิดขึ้นพร้อมกับเหมืองปิล๊อค ปัจจุบันเงียบสงบบริเวณริมชายแดนไทย-พม่า อากาศในวันนั้นปรับตัวแทบไม่ทันเพราะตอนกลางคืนหนาวมากกลางวันร้อนมากเช่นกัน เพลงเก่าๆ กับเรื่องราวใหม่ๆ มาขอพรกัน "ขอให้เป็นปีที่ดี" ประโยคนี้คิดว่าอยากให้เป็นจริงที่สุดแล้วสำหรับปีนี้ ในวันนั้นเป็นวันที่บ้านอิต่องคนเยอะมากๆ เพราะเป็นวันที่ 30 ธ.ค. 61 ก่อนสิ้นปี ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใหญ่มากแต่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย จากอดีตสู่ปัจจุบันผ่านเรื่องเล่าของคนเฒ่าคนแก่ หมู่บ้านนี้มีประวัติที่ยาวนาวมาก หมู่บ้านอีต่องเกิดขึ้นพร้อมๆ กับเปิดเหมืองปิล๊อก เพื่อทำการขุดแร่ทำให้หมู่บ้านอีต่องมีคนเข้ามามาก เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการค้าขาย มีสถานบันเทิงและโรงหนังสำหรับคนงานที่เข้ามาทำเหมือง จนเกิดวิกฤตการณ์ราคาแร่ตกต่ำทั่วโลก เหมืองจำนวนมากทะยอยปิดตัวคนงานอพยพไปหางานทำที่อื่น ทำให้หมู่บ้านอีต่องกลายเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบอย่างเช่นในปัจจุบัน "เหมืองปิล๊อก"เป็นเหมืองที่เกิดในช่วงล่าอาณานิคม และเกิดการต่อสู้กันทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าชื่อเหมืองปิล๊อกนี้ เป็นคำที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เหมืองผีหลอก" เพราะมีคนตายมากมายพอเรียกต่อๆกันไปจึงเพี้ยนมาเป็น เหมืองปิล๊อค นั่นเอง น่าเสียดายไม่ได้เข้าไปถ่ายข้างในเพราะต้องรีบเดินทางต่อไปยังสะพานมอญเลยถ่ายมาได้แค่ป้ายทางเข้าจริงๆ "สะพานอุตตมานุสรณ์" หรือนิยมเรียกกันว่า "สะพานมอญ" เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2529 จนถึง พ.ศ. 2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ เป็นสะพานไม้ที่ใช้สัญจรไปมาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี การยิ้มแสดงถึงความสุข ทำให้เห็นแล้วยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัว เหมือนคนที่นี่กำลังบอกว่าพวกเขามีความสุขกับชีวิตแบบนี้ ได้เจอคนมากหน้าหลายตาเราก็เช่นกัน ชาวบ้านที่นี่มีทั้งชาวมอญและไทยปะปนกัน และในวันสิ้นปีนักท่องเที่ยวที่ปกติจะเยอะอยู่แล้วรอบนี้เยอะแบบจะล้นสะพาน เดินชนกันเลยก็มี บทสรุป. การเดินทาง = เสียงเพลง แรงบันดาลใจ ในการเดินทางครั้งนี้มาจากเพลง ชีวิตก็เหมือนเสียงเพลง มีจังหวะขึ้นบ้างลงบ้าง เหมือนกับชีวิตที่ดีและแย่ปนๆ กันไป ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะงั้นปัจจุบันดีที่สุดแล้ว บางทีแล้วในจังหวะนึงของชีวิตก็อยากจะไปอยู่ในที่ที่ไม่รู้จักใครเลย เดินทางไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน ในขณะที่ยังมีเวลา จงเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านั้นให้มากที่สุดเพราะไม่ได้มาบ่อยๆ แน่นอน ให้คิดซะว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตแล้วเที่ยวให้สนุกครับ แล้วเจอกันใหม่ครับผม