อื่นๆ

"มันแอบอยู่ใน...โรงพยาบาล" 👻 ◀วิววี่จัง…ฟังเรื่องจริง®EP.1

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
"มันแอบอยู่ใน...โรงพยาบาล" 👻 ◀วิววี่จัง…ฟังเรื่องจริง®EP.1

ย้อนกลับไปประมาณปี พ.ศ.2544 เป็นปีที่ประเทศไทยเริ่มใช้ "โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค" และในช่วงแรก ๆ สถานพยาบาลจึงต้องการ จนท.จำนวนมากเพื่อรับมือกับโครงการนี้ และผมได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้จำจนถึงทุกวันนี้...

สถานพยาบาลร้าง อาคารพาณิชย์ขนาด 4 คูหา สูง 5 ชั้นได้ถูกดัดแปลงให้เป็น "โรงพยาบาล" อักษรย่อ "บ" ตั้งอยู่ข้าง ร.ร.ประถมชื่อดังใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ  โรงพยาบาลแห่งนี้มีการบริหารงานได้ไม่กี่ปี ก็ได้ปิดตัวลงโดยไม่ทราบสาเหตุ...จากนั้นไม่นาน ได้มีการปรับปรุง โรงพยาบาลแห่งนี้ขึ้นมาใหม่โดยผู้บริหารชุดใหม่โดยใช้ชื่อโรงพยาบาลใหม่โดยใช้ชื่อย่อ "ศ" นำหน้า...แต่ใช่เครื่องมือแพทย์ชุดเดิมทั้งหมด รวมถึงเตียงคนไข้ด้วย... โรงพยาบาลแห่งนี้ได้รับสมัคร จนท.หลายอัตรา ผมจึงได้ออกจากงานเก่าเพื่อเข้าไปทำงานที่นี่ หวังว่าจะได้เป็นผู้ที่บุกเบิกให้กับโรงพยาบาล และได้เงินเดือนสูงเนื่องจากเป็นคนแรก ๆ ที่เข้าทำงาน โดยได้ชักชวนเพื่อนสนิท 3-4 คน เข้าไปทำงานกัน และนั่นคือจุดเริ่มของความขนพองสยองเกล้า

Advertisement

Advertisement

ขึ้นชื่อว่า "โรงพยาบาล" ก็ต้องมีคนตาย แต่ตอนผมเข้ามาทำงานพร้อมเพื่อนนั้น...ที่นี้ยังไม่มีคนตาย!!!  ผมขึ้นไปดูที่ชั้น 3 และ 4 เป็นห้องคนไข้ และมีเตียงคนไข้อยู่ชั้นละ 20 เตียง แต่...มีคนไข้อยู่ในชั้นที่ 3 แค่ 1 เตียง ที่ทำการรักษา ผมมาทำงานที่โรงพยาบาลได้ 3 วัน ยามที่จ้างเอาไว้ 4 คน "ลาออก" ไป 2 คน โดยไม่แจ้งเหตุผล ผมยังเอามาพูดหยอกล้อกันเล่น ๆ ว่าสงสัยโดน "ผีหลอก" (เพราะยังไม่เปิดรับการรักษาคนจึงน้อยทำแต่งานเอกสาร) ที่โรงพยาบาลชั้น 1 จะมีห้องหมอ มีการเงิน มีเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน มีห้องตรวจ ห้องจ่ายยา ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้คือ "ห้องดับจิต" แต่ผมไม่ค่อยได้ไปยุ่งเพราะผมทำงานอยู่ชั้น 2 เป็นหลัก มีตำแหน่งหน้าที่ตามโครงการที่ได้สมัครเข้ามา ผ่านไป 1 เดือน ผมทำงานภาคสนามเป็นหลัก นาน ๆ ถึงจะได้มีโอกาสได้ทำงานที่โรงพยาบาลซักครั้ง เพราะต้องประชุมและครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าที่นี่แปลก ๆ ?

Advertisement

Advertisement

เตียงคนไข้ วันนั้นผมและเพื่อนผู้หญิงชื่อ"ต๋อย" เดินขึ้นบันไดทางด้านหลังขึ้นมาชั้น 2 กะว่าจะขึ้นมานอนงีบช่วงเที่ยงซักพักก่อนประชุมตอนบ่าย ส่วนที่เหลือนั่งคุยกับพี่ประชาสัมพันธ์ชั้นล่าง สภาพชั้น 2 เมื่อเราเปิดประตูเข้ามา ด้านหน้าโรงพยาบาลจะอยู่ซ้ายมือของเรา ส่วนด้านหลังจะอยู่ทางขวามือ จะมีห้องผู้บริหาร 3 ห้องทางซ้ายมือเรียงติดกันเป็นตัว L โดย และมีห้องประชุมเป็นห้องสุดท้ายตรงกับหน้าผมพอดี พื้นที่ว่างกลางห้องมีโซฟา 3 ตัว ใช้สำหรับรับรองแขก พื้นปูด้วยพรมสีแดง แต่ช่วงนี้โรงพยาบาลยังไม่เปิดทำการ จึงไม่มีคนอยู่ ผมและเพื่อนจึงนำโซฟามาติดกันโดยหันด้านเป็นที่นั่งมาชิดกันเป็นเหมือนเตียง แล้วนอนหันหัวมาทางประตูที่เข้ามา เมื่อผมและเพื่อนเอนตัวนอน แต่ยังไม่หลับดี ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากทางห้องผู้บริหารฯ ทางปลายเท้า "ครืดดดดด...!!!" (เสียงขอบประตูถูกับพรม)"เสียงใครเปิดประตูวะ" (ในใจคิด)...เพราะตอนที่ผมขึ้นมา ผมดูแล้วไม่มีคนอยู่เลยซักคน! และทางเข้ามีทางเดียวซึ่งอยู่ที่หัวผมถ้าใครเข้ามามันต้องเปิดประตูทางหัวผมซิ และผมก็ต้องเห็นว่าใครเข้ามา....ผมกับเพื่อนนอนหันหลังให้กัน ต่างคนต่างนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาพนักพิงโซฟาผมนอนทางขวา ต๋อยนอนทางซ้าย...หลังจากเสียงเปิดประตูอีกไม่กี่วินาที...เสียงลากเท้าบนพรมค่อย ๆ ดังมาจากปลายเท้าที่มุมห้องทางด้านไอ้ต๋อย... และดังชัดเจนขึ้นและมาหยุดอยู่ที่ตรงหัวผม....ความรู้สึกราวกับว่ามีคนมาชะโงกดู แล้วเดินลากเท้าวนรอบโซฟาที่ผมกับเพื่อนนอนอยู่ เสียงลากเท้านั้นยังดังไม่หยุด ผมเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ในหัวคิดไปต่าง ๆ นา ๆ จึงนอนหงาย...แต่ไม่ลืมตา พร้อมกับเรียกชื่อเพื่อน "ต๋อย...ได้ยินเปล่าวะ" สิ้นเสียงนั้น...มีเสียง..."กรี๊ดดดด...!!!!!" ตามมาจากไหนไม่รู้ ผมและเพื่อนลุกขึ้นแล้วกระโดดข้ามโซฟาที่นอนอยู่...แล้ววิ่งลงชั้นล่างไปพร้อมกับหน้าตาที่ตื่นกลัว เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า..."มันนอนลืมตา เห็นเหมือนผู้หญิงผมยาวมาเดินรอบโซฟา และมาหยุดชะโงกมองมันแล้วเอื้อมมือมาหามันเหมือนจะจับมือมัน มันเลยหลับตาสวดมนต์อย่างเดียว และมันก็ได้ยินผมเรียกชื่อมัน และได้ยินเสียงกรี๊ด มันเลยลุกกระโดดมาพร้อมกับผม"

Advertisement

Advertisement

มือปริศนา จากนั้นผมกับเพื่อนวิ่งหน้าตาตื่นลงมาเล่าให้พี่ ๆ โอเปอเรเตอร์และเพื่อน ๆ ข้างล่างฟัง พี่เค้าหันหน้ามองกัน แล้วเริ่มเล่าให้ฟังต่อว่า "เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วพี่ก็โดน" พี่เค้าเล่าว่าเค้ากับเพื่อนทำงานตามปกติ อยู่ ๆ พี่เค้าได้ยินเสียงกระซิบที่หูด้านขวาว่า "สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ" พี่คนที่ได้ยินหันไปมองเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ที่นั่งทางซ้าย แต่...เสียงที่เค้าได้ยินมันดังมาจากหูขวาหนิ ในใจคิด "แล้วเสียงใคร...?" พี่เค้าเลยหันย้อนไปทางต้นเสียง ถึงกับขนลุกซู่ทั้งตัว..."หุ่นไม้แกะสลักเป็นรูปผู้หญิงทั้งตัวยืนกำลังพนมมือไหว้" หันมาทางพี่เค้าสบตากันห่างไม่ถึง 2 ไม้บรรทัด พี่เค้าว่าตอนนั้นนะในหัวพี่คิดอย่างเดียวจริง ๆ "กูโดนผีหลอก" เสียงกระซิบมาจากหุ่นไม้...

พี่ที่ห้องจ่ายยาอีกคนเลยเล่าให้ฟังอีกว่า "พี่หน่อย" พี่ที่ห้องจ่ายยา มาเล่าให้ฟัง...เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา พี่หน่อยเค้าเห็นผู้ชายใส่ชุดคนไข้เดินผ่านหน้าเค้าเตอร์ห้องจ่ายยาไปแบบรีบ ๆ เร่ง ๆ ตอน 5 โมงเย็นเข้าไปทางด้านหลัง พี่เค้าเลยเรียกเอาไว้ เพราะเห็นใส่ชุดคนไข้โรงพยาบาล แล้วก้อจะเลิกงานแล้ว "คนไข้ ๆ คะ กลับขึ้นไปข้างบนนะคะ ดึกแล้ว" แล้วพี่หน่อยก็ลุกตามออกไปติด ๆ พอถึงหักมุมก่อนขึ้นบันไดทางด้านขวาของตัวตึก พี่เค้าคิดว่าคงเป็นคนไข้ลงมาข้างล่างกำลังจะกลับขึ้นชั้น 3 แต่ผู้ชายคนนั้นกลับวิ่งลงบันไดเข้าห้องใต้บันไดซึ่งเป็น "ห้องดับจิต" ผู้ชายคนนั้นหยุดที่หน้าห้อง...ตอนนั้นพี่เค้าขยับขาไม่ออกแล้ว ก่อนที่ชายคนนั้นจะหันมองกลับมาทางพี่เค้า...ใบหน้าขาวโพลน...ไม่มีสิ่งใดอยู่บนใบหน้า...แต่สิ่งที่พี่เค้าสัมผัสได้คือ...รู้สึกได้ว่าใบหน้านั้นกำลังโมโหเค้าที่วิ่งไล่ให้ขึ้นชั้นบนที่ไม่ใช่ที่อยู่ของเค้า...ห้อยหัวจากเพดาน ในเย็นวันนั้นแต่ละคนต่างไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีกเลย...และวันนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเหยียบโรงพยาบาลนั้น เวลา 22.00 น. ผมและเพื่อนกำลังขนอุปกรณ์สำหรับเต้นแอโรบิคในของโครงการเสริมสุขภาพของโครงการฯ ในวันพรุ่งนี้ใส่ในรถให้พร้อม เมื่อเตรียมของเสร็จ คนอื่น ๆ ออกไปซื้อข้าวข้าง ๆ โรงพยาบาล ผมเลยบอกว่างั้นผมรอในโรงพยาบาลนะ...จะไปนั่งคุยกับพี่ยามพี่เค้าจะได้ไม่เหงา...(เพราะผมต้องรอกลับรถพี่เค้าเพราะบ้านผมอยู่ทางเดียวกับพี่เค้า) ผมเลยเข้าไปคุยเป็นเพื่อนพี่ยามที่ห้องฉุกเฉิน...ในห้องฉุกเฉินจะมีโต๊ะยาม...เตียงคนไข้สำหรับห้องฉุกเฉิน...ผมนั่งลงที่เตียงคนไข้ในห้องฉุกเฉิน ซึ่งพี่ยามนั่งเฝ้าอยู่ที่โต๊ะ ห่างกัน 3 เมตรเห็นจะได้...ผมเลยเห็นว่ามีเพื่อนอยู่เลยเอนตัวลงไปนอนเล่นรอเพื่อน นอนไปคุยกับพี่ยามไปแต่เหมือนแกจะไม่ตอบ ด้วยความที่เพลียมาทั้งวัน ผมเลยเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกตัวอีกที...พอลืมตามา.......ผมเห็นผู้หญิงผมยาวมาก...แต่งตัวเสื้อผ้าขาดเป็นริ้ว ๆ นั่งขดตัวอยู่บนเพดานด้านบนของมุมห้อง หัวของเธอห้อยลงมาประจันหน้ากับผม...เส้นผมของเธอยาวเกือบจะถึงหน้าของผม ลักษณะของเธอคือนั่งให้หลังเข้าไปในมุมของห้อง เลือดไหลหยดตามปลายผมลงมาที่เตียงที่ผมนอน กลิ่นเหม็นตลบอบอวนมาก สายตาเธอมองผมเหมือนโกรธแค้นใคร....ผมมองไม่เห็นคนอื่นในห้องแล้ว ผมคิดอะไรไม่ออกแล้ว...เสี้ยววินาทีผมลุกแล้ววิ่งออกมาด้านหน้าโรงพยาบาล เจอพี่ยาม...เลยถามพี่ยาม แต่ผมพูดไม่เป็นภาษา กว่าจะพูดรู้เรื่องก้อนั่งสงบสติอารมณ์ซักพัก...พี่ยามเล่าให้ฟังจับใจความได้ว่า พี่ยามไม่ได้นั่งในห้องนั้นตั้งแต่แรกแล้ว เพราะยามก่อนหน้าที่ลาออกไป ก็เพราะนั่งเฝ้าที่ห้องนั้นแหละเปิดแอร์นั่งเฝ้า..."เห็นเอ็งเดินเข้าไปแล้ว เรียกก็ไม่ตอบ ข้าเฝ้ากะกลางคืนไม่เคยเข้าไปในตัวโรงพยาบาลเลย"....หลังจากผมนั่งทำใจ ผมจึงถามพี่ยาม "แล้วกลางคืนไม่มีหมอเวรเหรอพี่...? พยาบาลอีก จนท.คนอื่นอีก ไม่ดูคนไข้เหรอครับ...พี่ยามตอบ "คนไข้ไหน? โรงพยาบาลยังไม่เปิดรับรักษาคนไข้เลยน้อง...หมอก็ไม่มี พยาบาลก็ไม่มี นู้นอีก 2 เดือนถึงจะเปิด".....ฟังแล้วขนลุกซู่ขึ้นมาอีกรอบ.... พอย้อนนึกกลับไปมันแปลกทุกอย่างจริง ๆ พอมารู้ตื้นลึกหนาบางของโรงพยาบาลนี้แล้ว

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ "ผีดุ" เพราะมันแอบกันอยู่หลายตัว อยู่ที่ว่าใครจะโดนตัวไหน...แล้วคุณหละมีตัวไหนในใจบ้างที่อยากโดน?

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์