อื่นๆ

งานศพที่แม่ของผมหายไป

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
งานศพที่แม่ของผมหายไป

ผมยังจำได้ดีถึงเหตุการณ์ของวันนั้น ผมยังเพิ่งอายุได้ประมาณแปดเก้าขวบ แต่ความทรงจำนี้ยังไม่เลือนหายไปจากจิตผมได้เลย วันนั้นในฤดูฝน ท้องฟ้าดูมืดครึ้ม เมฆสีดำเริ่มตัวกันเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ สายลมแรงๆ ที่คอยพัดเอาใบโพธิ์จากลานวัดลอยละลิ่วขึ้นไปสู่อากาศ แล้วปล่อยให้มันร่วงลงบนพื้นปูนซีเมนต์สากๆ อีกครั้งหนึ่ง

วันนี้เป็นวันที่พวกเราต้องทำพิธีฌาปนกิจศพของปู่ หรือพูดภาษาชาวบ้านก็คือเผาศพนั้นเอง

หลังจากที่ทางครอบครัวของผมได้จัดการตั้งศพเพื่อทำพิธีสวดถึงห้าวันด้วยกัน วันนี้ละมั้งที่ผมรู้สึกเศร้าใจไปสุด เพราะหงังจากนี้ร่างของปู่ที่นอนอยู่ภายในโลงที่ฉลุลายและลงทองอย่างสวยงามจะมอดไหม้ไปกับเปลวเพลิงและเหลือทิ้งไว้แค่เพียงเศษเถ้าถ่านเท่านั้น

ผมใจหายอยู่เหมือนกันเพราะนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่คนภายในครอบครัวได้เสียชีวิตลง เสียงเพลงธรณีกรรแสงได้บรรเลงขึ้นมาอย่าง พ่อของผมได้เริ่มจัดการช่วยกันนำโลงวางไว้บนรถเข็น ก่อนที่จะทำการวนอ้อมเมรุสามรอบเพื่อนำศพขึ้นไปวางด้านบน

Advertisement

Advertisement

ตอนนี้ผมยืนง่อยๆ มองดูเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นด้านหน้าอย่างช้าๆ แต่ผมแปลกใจและสงสัยอยู่อย่างหนึ่งคือแม่ผมหายไปไหน

ตั้งแต่ที่พิธีในช่วงบ่ายเริ่มมาผมก็ไม่ได้เห็นแม่ผมอีกเลย ในใจตอนนี้มันหว้าเหว่และเงียบเหงาสุดๆ ปะกอบกับบรรยากาศที่ชวนอึดอัดทั้งหลาย ผมอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ผมอยากจะวิ่งไปหาพ่อแล้วถามว่สแม่อยู่ไหนแต่ตรงนั้นมันมีผู้คนเยอะเเยะเกินไป ในใจผมก็ภาวนาว่าแม่ไม่หายไปไหนหรอก ก็แค่อาจจะไปทำธุระด้านนอกก็เป็นได้

ในที่สุดเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง พอทำพิธีการทุกอย่างสุดผู้คนที่เฝ้ารอไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายก็พากันเดินจ้ำอ้าวขึ้นบันไดเมรุทั้งสองข้างจนแน่น ผมไม่ได้อนุญาติให้ขึ้นไปด้วย ไม่รู้ทำไม แต่ผมก็รอแถมในใจตอนนี้ก็กระวนกระวายมากเพราะแม่ของผมยังไม่ปรากฏตัวสักที

ผมตัดสินใจเดินออกตามหาแม่ ตะโดนเรียก "แม่" ทั้งในห้องสุขาหญิง ผมเคาะทุกห้องแล้วแต่กลับไม่มีใคร ผมลองเดินไปทางโรงครัวมองหาแม่ทุกซอกทุกมุมแต่ก็ไร้วี่แวว อุโบสถ หรือศาลาวัด ทุกอย่างดูจะหายไปอย่างดื้อๆ จนหมด

Advertisement

Advertisement

ในที่สุดผมก็เหลือที่สุดท้าย นั่นก็คือป่าช้าเก่า ตอนนี้ถึงท้องฟ้าจะมืดครึ้มเพราะเมฆฝนแต่มันก็ยังเป็นตอนกลางวันอยู่ดี ผมเลยไม่คิดจะกลัวสักเท่าไหร่ เดินเข้าไปลึกเรื่อยๆ เพื่อตามหาแม่ ในนี้ดูเยือกเย็น สงบนิ่ง จนบางครั้งยามลมพัดมามันก็ชวนขนลุก ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเดินเข้ามาลึกแค่ไหนจนกระทั้งเม็ดฝนเริ่มโปรยปรายลงมาทำให้ผมได้สติและเริ่มหันไปมองรอบด้าน

มีแต่ป่าที่โอบล้อมผมไว้ ตอนนี้หัวใจผมเต้นถี่ลงเรื่อยๆ ดวงตาเริ่มพร่า ผมเริ่มรู้สึกถึงลมที่พัดหวิวไปมาด้านหลัง บางครั้งเหมือนมีคนพยายามจับไหล่ผมไว้ บางครั้งเหมือนเขาจับแขนผม บางครั้งก็มีเสียงกระซิบว่า "จะมาอยู่ด้วยกันหรือ" ตัวของผมเริ่มเย็นไม่ใช่เพราะฝนแต่เพราะความกลัวที่เกิดขึ้น ฝนยิ่งตกแรงขึ้น ผมร้องไห้ตะโกนเรียกชื่อแม่ดังลั่นไปทั่วป่า ผมพยายามตะโกนสุดเสียงแต่กลับไม่ได้ยินเสียงที่เปล่งออกไปแม้แต่น้อย ฟ้าที่ผ่าลงมาทำให้ผมรีบก้มตัวนั่งลงโดยทันที แถมเสียงหลอนๆ ที่เชิญชวนให้อยู่ด้วยกันก็ดังเข้ามาไม่ขาด อีกทั่งยังมีเสียงของผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก หรือคนแก่ ผมอยากจะวิ่งหนีออกไปเต็มทน ตอนนี้ใบหน้าเดียวที่ผมนึกถึงคือใบหน้าแม่ สุดท้ายผมตัดสินใตหลับตาและสัมผัสแค่เสียงหลอนๆ นั้น

Advertisement

Advertisement

"ปาล์ม แม่นั่งทำอะไรตรงนี้"

ใช่ นั่นเสียงแม่ของผม ผมจำเสียงอันนุ่มนวลและอบอุ่นได้ ผมจึงตัดสินใจลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เจอคือแม่ พ่อ และชาวบ้านอีกนับสิบที่มาจ้องดูผมในสภาพที่ตัวซีด พร้อมกับถือร่มในมือ

ผมรีบวิ่งไปกอดแม่แล้วร้องไห้ฟูมฟาย ผมแถมแม่ว่า "แม่หายไปไหน ปาล์มไม่เห็นแม่ที่งาน ปาล์มเลยวิ่งหาแม่"

แม่ทำหน้าฉงนก่อนจะตอบกลับมาว่า "แม่ก็อยู่ที่งานตลอดนิ"

แล้วยังงี้แม่ผมหายไปจากผมได้ยังไง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์