ถ้ามีใครซักคนมาถามผมว่า น้ำตกในประเทศไทยที่สวยที่สุด คุณคิดว่าคือน้ำตกอะไร? ผมตอบได้เลยแบบไม่ต้องคิดแม้ซักวินาทีเดียวเลย ว่าก็ต้องน้ำตกทีลอซู จังหวัดตากไงหล่ะครับ สวยที่สุดในความคิดของผม ทำไมนะเหรอก็เพราะว่าผมมีความคุ้นเคยกับน้ำตกทีลอซูแห่งนี้ มาตั้้งแต่ปี พ.ศ.2534 แล้วนะซิครับ ตั้งแต่สมัยผมเรียน ปวส. อยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตตากแล้วหล่ะ ในช่วงปิดเทอมปี พ.ศ.2534 เพื่อน ๆ และผมมีนัดกันไปเที่ยวที่น้ำตกทีลอซู น้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก (ตอนนั้นนะครับ ปี 2534 ที่ผมพอจะจำได้) เราจัดเตรียมของที่จำเป็นใส่ลงในท้ายกระบะของรถเพื่อนที่เป็นคนจังหวัดพิษณุโลก คณะเดินทางของเรามีคนเดินทางไปด้วยกันทั้งหมดจำนวน 8 คน ประกอบด้วย 3 คู่ แล้วก็คนโสตอีก 2 คน คือ ผมกับเพื่อนอีกคนที่ยังไม่มีคู่ เส้นทางจากแม่สอดไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง มีจำนวนโค้งทั้งสิ้น 1,219 โค้ง เส้นทางคดเคี้ยว มองไปข้าง ๆ ก็เป็นเหว ทางก็เล็กบางจุดก็พังไปครึ่งหนึ่งเพราะน้ำเซาะจากฝนตก เมื่อเราไปถึงแยกเพื่อจะเลี้ยวเข้าอุทยานเป็นทางดิน *** ในช่วงปิดเทอมปี 2535 ผมพยายามจะเข้าไปเที่ยวอีก แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะน้ำท่วมทางพวกเราพยายามทุกอย่าง แต่เนื่องด้วยยานพาหนะของเราเป็นรถกระบะธรรมดา ก็เลยต้องล้มเลิกความพยายามไป*** ระหว่างทางมีสัตว์ป่าให้เราได้ยลโฉมหลายชนิด เช่น เก้ง กวาง นกหลายชนิดซึ่งผมก็เรียกไม่ถูกว่าเป็นนกอะไรบ้าง เราเกือบจะเลยไปพม่ากันแล้ว ดีว่าสอบถามทางจากชาวบ้านเสียก่อน จำได้ว่าเราผ่านป้ายน้ำตกทีลอจ่อด้วย การท่องเที่ยวสมัยก่อนไม่ได้ง่ายเหมือนสมัยนี้ที่มีระบบ GPS นำทาง เมื่อเราเข้าไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เราก็เลือกพื้นที่ที่จะกางเต็นท์ ไม่น่าเรียกว่าเต็นท์เพราะมันเป็นถุงปุ๋ยที่นำมาเย็บต่อกัน และขึงไว้กันน้ำค้างมากกว่า เราเดินเที่ยวไปถึงน้ำตกชั้นบนที่กว้างและลึก เนื่องจากน้ำที่ตกมาจากหน้าผาเซาะ ทำให้เกิดความลึก เดินกันเพลิน ๆ ก็เกือบจะกลายเป็นเรื่องเศร้าเสียแล้ว เมื่อเพื่อนหญิงของเราคนหนึ่งพลัดตกน้ำ และเพื่อนคนนี้ว่ายน้ำไม่เป็นด้วย ดีว่าเพื่อนผมคนหนึ่งกระโดดไปช่วยไว้ได้ทัน เจ้าหน้าที่อุทยานเล่าให้ฟังว่า น้ำตรงบริเวณนี้เคยมีวิศวกรจากกรุงเทพฯ มาเที่ยว และตกน้ำเสียชีวิตที่นี่ด้วย ไม่รู้เรื่องจริงหรือเปล่าหรือแค่เล่าให้พวกเรากลัวกัน ผมสอบถามพี่เจ้าหน้าที่อุทยานว่า น้ำตกทีลอซู หมายถึงอะไร พี่เขาตอบว่าหมายถึงน้ำตกที่มีเสียงดัง ซู น่าจะมีจากเสียง ซู่ ๆ เนื่องจากว่าน้ำตกทีลอซูเป็นน้ำตกที่มีพื้นที่มาก เวลาที่น้ำตกลงมาจึงมีเสียงดังมาก ภาพของน้ำตกทีลอซู ในปี พ.ศ.2538 ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ในปี พ.ศ. 2538 ผมนัดกับเพื่อนที่แม่สอด ว่าอยากไปเที่ยวที่น้ำตกทีลอซูอีก ผมออกเดินทางโดยรถประจำทางจากกรุงเทพฯ มาลงที่จังหวัดตาก เพื่อนผมขับรถมารับผม เราเดินทางกันไปในครั้งนี้ผมจำไม่ได้ว่า 3 หรือ 4 คน การมาเที่ยวในครั้งนี้ น้ำตกทีลอซูไม่ได้เหมือนเดิม มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเกิดการถล่ม เนื่องมาจากปริมาณน้ำที่มีมาก การเดินทางครั้งนี้สะดวกมากกว่าครั้งแรก ครั้งนี้น้ำตกทีลอซูน้ำไม่ค่อยมาก ผมกับเพื่อนบอกกันว่าครั้งนี้เราจะไปให้ถึงจุดสูงสุดของน้ำตก อยากรู้ว่าที่มาของน้ำตกมันมาจากไหน ข้างบนมันเป็นอย่างไร เราเดินเท้าตามทางเดินของเจ้าหน้าที่ หรือพรานที่ทำไว้ เดินขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดสูงสุดของน้ำตกจนได้ ภาพชั้นบนของน้ำตกทีลอซู ปี พ.ศ. 2538 ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ภาพถ่ายกับเพื่อนรักชั้นบนของน้ำตกทีลอซู ปี พ.ศ. 2538 ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ภาพบึงกว้างชั้นบนสุดของน้ำตกทีลอซู ปี พ.ศ.2538 ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ชั้นบนสุดของน้ำตกเป็นบึงกว้างและลึกมาก มองไม่เห็นด้านล่าง แต่ด้านบนพอมองเห็นปลาว่ายไปมา ในปี พ.ศ.2555 ผม ภรรยา และลูกชาย 2 คน พี่เขย พี่สาว และแม่ ก็เดินทางไปเที่ยวน้ำตกทีลอซูอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เราไปแบบจองเป็นกลุ่มทัวร์ เขาคิดเป็นรายหัว ไปกัน 7 คน ที่ พัก 2 คืน อาหาร รถพาเที่ยว ล่องแพ รวมกัน 7 คนไม่ถึงหมื่นบาท เดินทางโดยรถส่วนตัว ผมจำได้ว่าออกเดินทางเวลาเที่ยงคืน ไปถึงอุ้มผางบ่ายกว่า ๆ พัก 1 คืน รุ่งเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยหัวหด ช่วงบ่ายล่องแพยางไปถึงอุทยานฯ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมน้ำตกทีลอซู ทางเดินไปเที่ยวน้ำตกไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่ทางเดินธรรมชาติแล้ว ทางเดินเป็นทางซีเมนต์ยกระดับสูงขึ้นจากพื้นดิน แต่ความสวยงามของน้ำตกทีลอซู ยังคงสวยงามเหมือนเดิม ถ้าใครยังไม่เคยไปเที่ยว ผมขอให้คุณได้เดินทางไปเที่ยวซักครั้ง แล้วคุณจะติดตาตรึงใจไม่รู้ลืมเหมือนกับผม ที่ไปแค่ครั้งเดียวมันคงไม่พอ ภาพน้ำตกทีลอซู ปี พ.ศ.2555 ถ่ายจากกล้องมือถือ เครดิตภาพ : จากเจ้าของบทความ ขอขอบคุณ : ความทรงจำอันสวยงามซึ่งไม่เคยถูกลบเลือนไป