ความบันเทิงของอีกฝ่าย อาจไม่ใช่เรื่องบันเทิงของอีกคน ขอบคุณภาพโดย Christopher Ross จาก Pixabay คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ ๆ ที่การที่ใคร หรือการที่เราโดนล้อเลียน รังแก และกลั่นแกล้ง เมื่อโดนแกล้ง , โดนรังแกเสร็จแล้ว คนที่รังแกก็กลับมีความสุข หัวเราะอย่างสนุกสนาน ชอบใจที่ได้แกล้งสำเร็จการโดนรังแก กลั่นแกล้ง หรือโดนทำร้าย ไม่ว่าจะโดยคำพูด การใช้สีหน้าท่าทางต่าง ๆ การกล่าวเหยียดหยาม ดูหมิ่น ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง เช่น การโดนเรียกว่า อ้วน , ดำ , การล้อว่าลูกไม่มีพ่อ หรือ แม้กระทั่งการเขียนคำพูดที่ทำร้ายจิตใจกันในโลกออนไลน์ เป็นต้น ล้วนมีผลต่อจิตใจของผู้ที่โดนกระทำทั้งนั้น ซึ่งปัญหานี้ ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ ที่จะพูดเพียงว่า “แหม๋ ก็แค่แซวแค่นี้ อย่าทำเป็นจริงจัง อย่าซีเรียสซิ” ถ้าไม่โดนกับตัวก็คงไม่เข้าใจจริงไหมคะ ดังนั้นอย่าคิดว่าแค่นี้ เพราะปัญหาที่บอกว่าเพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้คนที่โดนทำร้าย อาจถึงขั้นทำลายชีวิตตัวเองได้เลยก็มี ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้อ่านข่าวเรื่องที่มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งพยายามฆ่าตัว ด้วยเหตุผลที่โดนล้อว่า ตัวดำและอ้วน ตลอดเวลา ทำให้เด็กคนนั้นเครียด เป็นโรคซึมเศร้า และพยายามฆ่าตัวตาย การโดนกลั่นแกล้งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว !!!อย่ามีความสุข บนความทุกข์ของคนอื่นการกลั่นแกล้ง การทำร้ายกันทางคำพูด ไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นกับ เด็ก ที่เรียนในโรงเรียนเท่านั้น หากแต่ว่าเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และทุกที่ โดยรูปแบบการกลั่นแกล้งทำร้ายกันก็จะแตกต่างกัน เช่น ในเด็ก ก็อาจจะเป็นการแกล้ง , การล้อเลียน เรื่องสีผิว , รูปร่างลักษณะ หรือหน้าตา พอโตขึ้นมา ก็เป็นการกลั่นแกล้งกันโดยใช้คำพูดประจานให้อีกฝ่ายต้องอับอาย เสียความรูสึก เสียใจผิดหวัง อาจจะเป็นในมหาวิทยาลัย หรือในที่ทำงานก็ได้ขอบคุณภาพโดย Ryan McGuire จาก Pixabay แล้วเราจะมีวิธีการจัดการ หรือช่วยคนที่โดนกลั่นแกล้งอย่างไร1. ถ้าเรามีความเข้มแข็ง แข็งแรงพอ ก็คงยากที่ใครเขาจะมาแกล้ง แต่อาจจะเป็นเรานี่แหละ ที่ไปแกล้ง หรือ ทำร้ายจิตใจเขาโดยที่เราไม่รู้ตัว เมื่อได้อ่าน ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกลั่นแกล้ง ทำร้ายจิตใจผู้อื่น เราควรหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ ซะ หัดทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละคน และควรเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง เห็นอก เห็นใจอีกฝ่าย หัดเห็นอก เห็นใจคนอื่น2. ถ้าคนที่โดนแกล้ง เป็นลูกหลาน หรือคนรู้จักของเรา แล้วพวกเขาเหล่านั้นไม่กล้าพูด ไม่กล้าที่จะตอบโต้ จึงโดนทำร้าย , โดนแกล้งอยู่ตลอดเวลา จำไว้เสมอว่า คนอ่อนแอ ย่อมเป็นเหยื่อ บอกให้คนที่แกล้งเรารู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร แสดงอาการให้เขารู้ไปเลยว่า การที่เขาทำแบบนั้นกับเราหรือคนอื่นเป็นอย่างไร การที่เราแสดงอาการให้คนที่แกล้งรู้ จะทำให้เขามีแนวโน้มที่จะกลั่นแกล้งลดลงขอบคุณภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay 3. ถ้าการกลั่นแกล้งยังไม่หยุดอีก เราต้องกล้าที่จะขอความช่วยเหลือ บอกคนที่ช่วยเราได้ เช่น ถ้าโดนแกล้งในโรงเรียนก็บอกคุณครู , บอกคุณพ่อ คุณแม่ ,ถ้าโดนแกล้งในที่ทำงาน ก็บอกหัวหน้าของคนที่แกล้งเรา หรือถ้าหนัก ๆ เข้า เช่น การโดนกลั่นแกล้ง การคุกคามทางเพศ การทำร้ายร่างกาย ก็ต้องแจ้งความ อย่าเงียบ อย่าเฉย เพราะ การเฉย คือการยอมรับกับการโดนกลั่นแกล้งนั้น จงพยายามรวบรวมความกล้าที่มีพูด , บอกปัญหาที่เรากำลังเจอกับคนรอบข้าง คนที่เราไว้ใจ เพื่อให้เรามีแนวร่วม , มีคนที่คอยสนับสนุน และช่วยแก้ไข รับมือกับปัญหานั้น ๆขอบคุณภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay 4. เมื่อเราโดนล้อ โดนว่าด้วยรูปลักษณ์หน้าตาของเราว่าไม่สวย ดำ อ้วนทึ้ง กระเทย หรืออะไรก็แล้วแต่ จงให้กำลังใจตัวเอง บอกกับตัวเองว่า ฉันไม่ใช่ปัญหา แต่ตาของคนที่มองต่างหากที่มีปัญหา เพราะ เขาไม่เข้าใจคำว่าความแตกต่าง คนเราล้วนแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความคิด รูปร่างหน้าตา แม้แต่เชื้อชาติศาสนา คนที่ไม่ยอมรับความแตกต่างเท่านั้น ถึงเป็นปัญหาขอบคุณภาพโดย Tumisu จาก Pixabay 5. ถ้าเราโดนแกล้ง หรือโดนทำร้าย อย่าปลีกตัวออกมาอยู่เพียงลำพัง เพราะนอกจากเราจะต้องเครียด จัดการปัญหาไม่ได้แล้ว การอยู่เพียงคนเดียว ยังทำให้เราเสี่ยงที่จะโดนรังแกซ้ำ โดยไม่มีใครทีช่วยเหลือเราได้เลย ดังนั้น เมื่อโดนแกล้ง หรือทำลาย อย่าพยายามอยู่คนเดียวขอบคุณ6. สร้างตัวเองให้เข้มแข็ง โดยการทำจิตใจให้เข้มแข็งก่อน ยกตัวอย่าง เรามีพี่สาวคนหนึ่งที่รู้จัก เป็นคนอ้วน และดำ และมักจะมีเพื่อนผู้ชายในห้อง รังแก โดยการพูดล้อเลียน โดนเขวี้ยงกระดาษใส่ เวลานั่งในห้องเรียนอยู่เสมอ ทำให้พี่สาวเราร้องไห้กลับไปฟ้องแม่ตลอดเวลา แม่เขาก็เป็นแม่ค้าไม่มีเวลามากนัก จึงบอกลูกว่า ถ้าเห็นร้องไห้กลับมาอีกจะตีซ้ำเพราะกลัวโดนแม่ตี พี่สาวคนนี้ของเราจึงทำตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น และแมนมากขึ้น และจัดการกับผู้ชายคนที่มาแกล้งจนต้องเป็นฝ่ายร้องไห้กลับบ้าน ไม่กล้ามารังแกพี่สาวเราอีกเลย ต่อมาพี่สาวเรายังกลายเป็นหัวหน้าห้องอีกด้วยค่ะ เพราจัดการคนที่เกเรได้ และคอยช่วยคนอื่นเสมอมา พอโตขึ้นมาหน่อย ก็รู้สาเหตุว่า ทำไมเด็กผู้ชายคนนั้นต้องแกล้งคนอื่น เพราะว่า ครอบครัวเขามีปัญหา และกลัวจะโดนแกล้ง จึงแกล้งคนอื่นก่อน เพื่อทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ แต่สุดท้าย 2 คนนี้ก็เป็นเพื่อนกันนะคะสำหรับวันนี้ ก็มีบทความ ความบันเทิงของอีกฝ่าย อาจไม่ใช่เรื่องบันเทิงของอีกคน ให้ฟัง กันเพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณค่ะBy Ikkyryoขอบคุณภาพหน้าปก : ภาพโดย Stefan Keller จาก Pixabay