ยุคนี้ใคร ๆ ก็นิยมไปเที่ยวภูเขากันทั้งนั้น เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติท่ามกลางป่าไม้ ผีเสื้อ วิวทิวทัศน์ที่หาไม่ได้ในตัวเมืองแล้ว ยังได้รูปสวย ๆ เก๋ ๆ โพสต์ลงโซเชียลอีกด้วย แต่กว่าจะได้มาซึ่งรูปภาพนั้นก็ทำเอาหอบไม่ใช่น้อย ในส่วนของข้อมูลเขาหลวงและวิธีการเตรียมตัว ก็คงสามารถหาได้ง่ายจากบทความอื่น ๆ แต่บทความนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวระหว่างทาง เล่าถึงความรู้สึกที่เจอ ก่อนที่จะตัดสินใจไปเขาหลวงจะได้เตรียมใจถูกว่าต้องเจออะไรบ้าง ต้องบอกเลยว่าการไปเดินเขาหลวงของเรา เป็นการไปแบบไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้วางแผนอะไรทั้งสิ้น อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าอยู่ดี ๆ ก็อยากเดินเขา การเดินทาง เราใช้เวลาในการนั่งรถไปที่อุทยาน 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการนั่งรถมอเตอร์ไซค์ ตอนแรกเรานึกว่าจะสบาย แต่ความเป็นจริงคือทรมานมาก พอไปใกล้ถึงเราจะสังเกตเห็นภูเขาจาง ๆ ยิ่งใกล้อุทยานก็จะยิ่งเห็นชัด แต่ใด ๆ คือทางเข้าอุทยานสวยมาก จริง ๆ ใครที่ท้อใจอยากเทการเดินเขา ไปถ่ายรูปตรงทางเข้าอุทยาน ก็คือเก๋เหมือนกัน แต่ไม่ได้เพราะเรามาแล้วก็ต้องไปให้ถึงยอดเขา เมื่อเราไปถึงที่อุทยานเราก็ไปเช่าเต็นท์ เช่าถุงนอน ซึ่งจะมีเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว เรามีหน้าที่แค่จ่ายตังค์และนำใบเสร็จไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ข้างบน หลังจากนั้นเราก็เริ่มเดินขึ้นเขาตามปกติ ระยะทางในตอนแรกสบายมากเป็นทางราบเดินได้เรื่อย ๆ ให้เดินแบบนี้ทั้งวันยังได้ แต่พอเริ่มเดินมาอีกหน่อยก็เริ่มมีหินก้อนใหญ่เป็นอุปสรรค ยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกว่าทางมันโหดขึ้น มีความชัน มีความลื่นบางครั้ง จะหันหลังกลับก็ไม่ทันแล้ว เราเดินมาได้ไกลเกินจะหันหลัง เป็นอารมณ์ที่แบบกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง มีคนเดินสวนลงมา เราก็ถามเขาว่าใกล้ถึงยังคะ บางคนก็ตอบแบบให้กำลังใจว่าเดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึง บางคนก็ตอบตามความเป็นจริงว่ายังไม่ถึงครึ่งทางเลย แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะระหว่างทาง จะมีจุดพักและจุดที่บอกว่าเราเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว แต่แนะนำว่าอย่าพักนานเพราะไม่งั้นเราจะเริ่มปวดขาจนเดินต่อไปไม่ไหว เอาจริงการนั่งพักเหมือนสวรรค์มากในเวลานั้น ไม่ว่าเราจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องเดินต่อไปแหล่ะ ท่องไว้เดี๋ยวก็ถึง ในที่สุดมันก็ถึงจริง ๆ เข้าใจคำว่าเดินจนขาลากก็วันนี้ พอเราไปถึงที่พักเราก็เหนื่อยจนแทบไม่สามารถไปถ่ายรูปเก๋ ๆ ได้ตามที่ตั้งใจไว้ ภาพที่ได้ออกมาจึงไม่เต็มที่นัก ระยะทางทั้งหมด 3.7 กิโลเมตร แต่เราใช้เวลาเดินทั้งหมดเกือบ 5 ชั่วโมง ความเหนื่อย ความท้อ ความร่างพัง สำหรับเราขอยกให้เขาหลวง คือ ที่หนึ่งเลย แต่มันก็คุ้มค่านะถ้าแลกกับวิวสวย ๆ และประสบการณ์ แสงของพระอาทิตย์ยามเช้าบวกกับบรรยากาศบนภูเขามันดีแบบนี้นี่เอง การนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นแบบไม่ต้องคิดอะไร มันก็สร้างความสุขให้เราได้มากเหมือนกันนะ อากาศเย็น ๆ บนเขาทำให้เรารู้สึกหนาวก็จริง แต่แสงจากพระอาทิตย์จะช่วยให้เราอุ่น อุ่นทั้งกาย อุ่นทั้งใจไปเลย ภาพทั้งหมดโดย : นักเขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !