ก่อนหน้านี้เคยมาสุโขทัยไปแล้วครั้งนึง แต่ความรู้สึกที่มาในครั้งนั้นช่างแตกต่างกับครั้งนี้โดยสิ้นเชิง... ก่อนอื่นต้องขอสารภาพจากหัวใจเลยว่า ก่อนออกเดินทาง 1-2 วัน เรารู้สึกว่าไม่อยากไปแล้ว ด้วยเหตุผลเพราะอากาศเอย เจ้าไวรัสเอย และคิดว่าก็คงไปเดินชมโบราณสถานพร้อมกับฟังบรรยายเหมือนกับครั้งก่อนล่ะมัง ‘แต่สุดท้ายอารมณ์เพียงชั่ววูบ ก็ทำอะไรเราไม่ได้’ เราเดินทางมายังจังหวัดสุโขทัย ที่ใครๆก็มองว่าเป็นเมืองทางผ่าน มาแค่เชยชมแล้วก็ไปพักที่จังหวัดอื่น หรือมาเพียงครึ่งวันแล้วก็เดินทางกลับ เย็นวันแรกที่เราได้ไปปั่นจักรยานภายในอุทยานประวัติศาสตร์ เมืองสุโขทัย ไปตลาดโต้รุ่ง และสังเกตวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนสุโขทัยตลอดสองข้างทาง ก็เริ่มเข้าใจว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงมาสุโขทัยเพียงแค่แป๊บเดียว สุโขทัยมุมที่ยังไม่ได้เจอของดี หรือขอเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า The secret of Sukhothai ในตอนนั้นเรามองว่าสุโขทัยเป็นเพียงเมืองประวัติศาสตร์ทั่วไป ที่มีวัดวาอารามเก่าแก่ให้เราไปเรียนรู้ ไปถ่ายภาพเพื่อลงโซเชียลเช่นเคยหรือไม่ว่าจะเป็นตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดินเล็กๆ ที่ปิดเร็วมาก แต่แล้วเช้าวันถัดมา มุมมองของเราได้เปลี่ยนไปเพราะใครบางคน บุคคลท่านนี้สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ตำนาน หรือเทคนิคต่างๆที่เขาเห็นว่ามีประโยชน์กับเราได้อย่างน่าสนใจ เข้าใจง่าย และทำให้เราเริ่มซึบซับในคุณค่าของความเป็นเมืองสุโขทัยในอดีตมากขึ้น อินกับมันมากขึ้น และเพื่อให้เราได้สัมผัสกับรสชาติอันแปลกใหม่ของเมืองเก่าสุโขทัยที่น้อยคนจะไปสัมผัสมัน บุคคลท่านนี้ที่ชื่อว่า ‘พี่กบ’ จึงพาเราเดินขึ้นเขา ไปล่ำเรียนกันในผืนป่า ระหว่างเส้นทางเดินป่า พี่กบมักโชว์ความเจ๋งให้เราดูอยู่เรื่อยๆทั้งการฟังเสียงเดินของสัตว์ในป่า การใช้หินจุดไฟ สรรพคุณของต้นไม้ชนิดต่างๆ พาเราไปยังจุดตัดหินของคนโบราณที่มักนำมาสร้างศาสนาสถาน ซึ่งเส้นทางที่เราได้เดินไปนั้นล้วนแสดงให้เห็นถึงร่องรอยของพิธีกรรม ความเชื่อ ของคนในยุคก่อน และจากที่เรามีความชอบในเรื่องของศิลปะในแต่ละยุคสมัยของไทยอยู่แล้วและบวกกับความอยากไปเดินป่าที่ติดใจจากการวิ่งเทรล เมื่อสองสิ่งนี้มารวมกันนั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มุมมองของเราเปลี่ยนไป และทำให้เรารู้สึกสนุก เพลิดเพลินไปกับความเป็นสุโขทัยมากขึ้น สุโขทัย ไม่ได้มีแค่โบราณสถานที่อยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์เพียงเท่านั้น แต่ยังมีอะไรที่น่าสนใจให้เราได้ไปค้นหาอีกมากมาย สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณอาจารย์ปอ พี่เอก (พี่ท่องเที่ยว รุ่น 2) พี่กบ พี่แจ้ และลุงนวล ที่คอยดูแลพวกเราตลอดทริปนี้เป็นอย่างดี ถ้ามีโอกาสจะกลับไปซ้ำอีกแน่นอนค่ะ :)