ก่อนอื่น ขอทักทายคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านค่ะ และขอสวัสดีปีใหม่ 2563 ทุกท่านด้วยค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างเอ่ย... ส่วนตัวผู้เขียนนั้นถือเป็นโอกาสดีในการไปสวัสดีปีใหม่คุณแม่แฟน ที่จังหวัดสิงห์บุรีมาค่ะ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่แล้ว มาถึงจังหวัดสิงห์บุรีทั้งทีสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการแวะไหว้พระ ซึ่งคุณแฟนแนะนำว่าถ้าเป็นคนสิงห์บุรี ต้องไม่พลาดแวะไปไหว้พระนอนจักรสีห์ ณ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารด้านหน้าทางเข้าวัด รูปโดยผู้เขียนเมื่อเรามาถึงทางเข้าวัดซึ่งร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ออกดอกดูแปลกตา คุณแฟนบอกเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ต้นไม้นี้เรียกว่าต้นสาละลังกา ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญในพุทธประวัติ ก่อนเข้าไปยังวิหารเราจะแวะไหว้ขอพรรูปปั่นหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ทางด้านหน้าทางเข้าก่อน จากนั้นเดินเข้าไปภายในวัด ทางวัดขอความร่วมมือให้งดจุดธูปเทียน เราจึงแวะไหว้และปิดทององค์พระนอนจักรสีห์จำลองด้านนอกวิหารก่อน จากนั้นจึงเดินเข้าไปชมองค์จริงทางด้านในวิหาร ซึ่งองค์จริงนั้นสวยงามมาก จนผู้เขียนสนใจจึงได้ไปอ่านประวัติของทางวัด ซึ่งทางวัดมีบริการร้านหนังสือซึ่งรวบรวมข้อมูลความรู้และหลักธรรมคำสอนต่าง ๆ ไว้มากมาย จึงได้ความรู้มาเล่าสู่กันฟังดังนี้ค่ะภายในวิหาร รูปโดยผู้เขียนหลวงพ่อพระนอนจักรสีห์ เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่และยาวที่สุดของประเทศไทย ส่วนของประวัติการสร้างยังไม่แน่ชัดนัก เนื่องจากมีความเก่าแก่มาก องค์พระมีพระพุทธลักษณะแบบสุโขทัย มีความยาว 3 เส้น 3 วา 2 ศอก 3 คืบ 7 นิ้ว ( 47.40 เมตร ) พระเศียรชี้ไปทางตะวันออก หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ พระกรขวายื่นไปด้านหน้า ไม่งอพระกรขึ้นรับพระเศียร นอกจากนี้ยังมีพระแก้ว พระกาฬ เป็นพระพุทธรูปนั่งศิลา ลงรักปิดทอง และพระนั่งขัดสมาธิเพชร อันศักดิ์สิทธิ์ และมีพุทธลักษณะงดงาม ซึ่งมีความเชื่อในเรื่องของพระพุทธเจ้าปางไสยาสน์ กันว่าได้เทศนาปาฏิหาริย์ แก่อสุรินทราหู ผู้เป็นยักษ์ เพื่อลดทิฐิของอสุรินทราหู ที่ถือว่ามีร่างกายใหญ่โตกว่ามนุษย์ พระพุทธเจ้าจึงเนรมิตร่างกายให้ใหญ่กว่ายักษ์ ได้มีความเชื่อเล่าต่อ ๆ กันว่า ค้นพบโดยท้าวอู่ทอง ซึ่งท่านได้นำพ่อค้าเกวียนผ่านมาทางนี้ แล้วพบแกนทองคำฝัง อยู่ในเนินดิน เกิดความเลื่อมใสและเห็นเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา จึงชักชวนพ่อค้าเกวียน ก่อสร้างพระพุทธรูปนี้ขึ้น โดยใช้ทองแท่งทองคำที่พบนั้นเป็นแกนองค์พระ จน พ.ศ. 2297 และ พ.ศ. 2299 พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้เสด็จมานมัสการและซ่อมแซมองค์พระพร้อมทั้งได้สร้างพระวิหาร พระอุโบสถ และเสนาสนะต่าง ๆ ขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2423 และ พ.ศ. 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เคยเสด็จมานมัสการ และหลังจากนั้นเมื่อ วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ก็เคยเสด็จมานมัสการพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์เช่นกัน จึงนับได้ว่า " หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์ " เป็นปูชนียวัตถุที่ทรงไว้ซึ่งความล้ำค่า เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และมีความสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ร้านหนังสือของวัด รูปโดยผู้เขียนเมื่อผู้เขียนไหว้ทางด้านในวิหารเรียบร้อยแล้ว ได้เดินออกมาตามทางเดินจึงได้มีโอกาสทำบุญซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัดที่หลวงพ่อท่านเจ้าอาวาสจะสร้างขึ้นที่ประเทศอินเดีย ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของผู้เขียนที่ได้ทราบจากทางเจ้าหน้าที่ว่า หลวงพ่อท่านเจ้าอาวาส เพิ่งกลับมาจากประเทศอินเดียในวันนั้นพอดี และใครที่ทำบุญถวายที่ดิน หลวงพ่อท่านมีเหรียญพระจากประเทศอินเดียให้ไปบูชาด้วย ผู้เขียนเองจึงได้มาหนึ่งเหรียญ นับว่าเป็นสิริมงคลรับปี 2563 เลยทีเดียวค่ะ จึงอยากเชิญชวน หากท่านใดได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรีแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดแวะไหว้พระ ณ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร นะคะ