รอยแห่งศรัทธา หลวงพ่อชะเอม วัดโคกงู จ.สิงห์บุรี กราบนมัสการหลวงพ่อชะเอม พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา วัดโคกงู จ.สิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ถึงแม้ว่าจะไม่มีภูเขา น้ำตก เหมือนที่อื่น แต่สามารถทำให้นักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะชื่อเสียงของบรรพบุรุษวีรชนบ้านบางระจัน ที่เสียสละปกป้องแผ่นดินไทย ทำให้ลูกหลานของไทยได้เป็นอิสระมาจวบจนทุกวันนี้ ในอดีตจังหวัดสิงห์บุรีเป็นสมรภูมิรบกันอย่างดุเดือด ข้าศึกทั้งเผาวัดวาอารามและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชนชาวไทยในยุคสมัยนั้น สังเกตได้จากร่องรอยของซากอิฐ ซากปูน ที่ผ่านการถูกทำลาย ทรุดโทรมจากการกระทำ กระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัด บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวการค้นพบสิ่งศักดิ์สิทธิ์โบราณในจังหวัดสิงห์บุรี โดยเฉพาะองค์พระพุทธรูป ที่มีอายุนานหลายร้อยปี พบอยู่กลางป่าบ้าง กลางทุ่งบ้าง ที่วัดโคกงู นี้เช่นกัน เป็นอีกแห่ง ถูกค้นพบจากชาวบ้านในละะแวกนั้น ณ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ผู้เขียนได้ยินถึงชื่อเสียงวัดนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว อยู่ ๆ ไม่รู้มีอะไรมาดลจิตดลใจให้อยากไปกราบสักการะองค์พระพุทธรูปวัดนี้ เดิมทีไม่มีใครทราบว่าพระพุทธรูปองค์นี้มีนามว่าอะไร ต่อมามีชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ปัจจุบันคือคนที่มาคอยดูแลสถานที่แห่งนี้เกิดนิมิตหลายครั้ง มีโชคลาภต่าง ๆ นานาเข้ามาอย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งทำให้เขาศรัทธาและมีการมาบูรณะเพิ่มเติม รวมทั้งสร้างศาลเจ้าที่และตั้งชื่อพระพุทธรูปนี้ว่า หลวงพ่อชะเอม จากเดิมที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อโคกงู หลวงพ่อชะเอม มีลักษณะเนื้ออิฐถือปูน มีความสูงประมาณ 3 เมตร ฐานกว้าง 2 เมตรเศษ อริยบถนั่งขัดสมาธิ มือซ้ายหงายบนตัก มือขวาวางคว่ำลงที่เข่า นิ้วมือชี้ลงพื้น หรือ เรียกว่า พระปางมารวิชัย จากการเล่าขานของชาวบ้านในตำบลทับยา เล่าว่า ในส่วนของเศียรพระมีร่องรอยชำรุดแตกหัก เพิ่งมีการบูรณะไปไม่นาน ซึ่งกรมศิลปากรได้เข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่าคือ พระฉาย สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางถึงตอนปลาย เมื่อก่อนไม่มีใครกล้าเข้ามา เพราะมีสภาพเป็นป่าลึก มีชาวนาที่ทำนาอยู่บริเวณใกล้เคียงนี้ พบเห็นคราบงูเห่าที่มาลอกคราบเยอะมาก จึงเกิดความกลัวยิ่งทำให้ไม่มีใครกล้ามาสำรวจ ด้วยเพราะสาเหตุนี้จึงตั้งชื่อว่า วัดโคกงู แต่ทางสำนักพุทธศาสนาได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดร้าง โดยใช้ชื่อว่า วัดห้วยงู มีเนื้อที่ทั้งหมด 1 ไร่ 2 งาน 71 ตารางวา โดยบริเวณรอบองค์พระ มีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นล้อมรอบ จึงทำให้มีบรรยากาศร่มรื่น ลมพัดเย็นตลอดเวลา หากย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว มีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเคยมาสำรวจ ทำวิจัยในจังหวัดสิงห์บุรี ทำไมถึงมีพระฉาย แต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบแน่ชัดทำให้เรื่องเงียบหายไปไม่ได้ประชาสัมพันธ์ กระทั่งมีนายช่างที่อาศัยในตำบลทับยามาค้นพบอีกครั้ง จึงเกิดความศรัทธาดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับนายช่างคนนี้เรื่อยมา เป็นที่เล่าขานและมีผู้คนเดินทางมากราบนมัสการอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะนักแสวงโชคลาภ ตามบุญบารมีของแต่ละบุคคล ใครที่มีจิตศรัทธาอยากมากราบไหว้ขอพรองค์พระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีอายุประมาณ 200 กว่าปี หลังจากเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดสิงห์บุรีแล้ว อย่าลืมแวะมาวัดโคกงู ชื่นชมพระพุทธรูปเก่าแก่ที่หาชมได้ยาก สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกสบาย แล้วจะพบความสุข ความสงบได้อย่างอัศจรรย์ ยิ่งถ้ามาในช่วงปลูกข้าวจะเห็นนาข้าวเขียวขจีเต็มท้องทุ่งนา ยิ่งดูสดชื่นขึ้นไปอีก สำหรับการเดินทางมายังวัดโคกงู เริ่มจากตัวเมืองสิงห์บุรี มุ่งหน้าไปทางอำเภออินทร์บุรี ให้สังเกตที่ทำการเทศบาลตำบลทับยาทางด้านซ้าย ขับรถไปอีกไม่ไกลจะมีสะพานข้ามคลองฝั่งซ้ายให้เลี้ยวแล้ววิ่งตรงมาประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกวัดโคกงู ต้องจอดรถไว้ริมถนนแล้วเดินเข้าไปประมาณ 350 เมตร เป็นทางคันนา ให้เดินอย่างระมัดระวัง จึงจะถึงเนินที่ตั้งประดิษฐานหลวงพ่อชะเอม อย่างไรก็ตามเรื่องราวของวัดโคกงู ไม่มีบันทึกอย่างแน่ชัดเป็นเพียงคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมา บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในอดีต ทั้งความเชื่อและความศรัทธายังอยู่คู่กับจังหวัดสิงห์บุรีจากรุ่นสู่รุ่นตราบนานเท่านาน ที่ตั้ง : วัดโคกงู หมู่ 4 ตำบททับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เรื่องและภาพโดยผู้เขียน : Chidapa Bam