ตอนนี้อาจมีใครหลาย ๆ คนกำลังตกงาน เพราะด้วยจากพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประเทศของเรา จึงทำให้หลาย ๆ บริษัทหรือหลาย ๆ โรงงานปิดตัวลง จึงเกิดการเลิกจ้างงานหรือบริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลงจึงเริ่มคัดคนออก แล้วความซวยมาตกอยู่ที่เรากลายคนตกงานซะ ในเมื่อรายรับเราหยุดลงชะงัก แต่รายจ่ายของเรานั้นกลับเดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเราต้องกิน ต้องใช้ หรือต้องชำระหนี้สินอีก แล้วเราจะทำยังไงดีกันล่ะครับเมื่อเราต้องกลายเป็นคนตกงานหรือถูกเลิกจ้างกะทันหัน บทความนี้มีคำตอบให้ครับ1. คิดบวกเข้าไว้ในเมื่อเรากลายเป็นคนตกงาน เราเองอย่ามั่วแต่เสียใจกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น อย่าเอามาทับถมตัวเราเอง แต่นำความผิดพลาดที่เราได้ออกจากงานครั้งนี้ มาเป็นบทเรียนหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเราและไม่ควรโกรธเคืองกับสิ่งที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ ให้มองว่าชีวิตเรายังต้องก้าวต่อไป และเรานั้นต้องพัฒนาตัวเองต่อไปครับเครดิต : https://bit.ly/2HOF37t2. รักษาสิทธิประโยชน์ของตัวคุณเองในบางบริษัทนั้น อาจจะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือประกันสุขภาพ หรือเงินชดเชย เราควรจะกลับไปอ่านสัญญาจ้างหรือเข้าไปถามในสิทธิประโยชน์ที่เราควรจะได้รับนะครับ เพราะไม่มีใครจะดำเนินการได้ดีเท่าตัวเราเองแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นเราควรรักษาสิทธิ์ประโยชน์ตรงนี้ไว้ด้วย3. เขียนโน๊ตให้เพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คนอาจจะถามว่าทำไมต้องอำลาด้วย ผมมองว่าในช่วงระยะเวลาที่เราทำงานด้วยกันมานั้น มันช่างเป็นมิตรภาพที่สวยงามบ้างหรืออาจไม่ดีบ้าง แต่ก็สามารถทำให้ช่วงเวลาเรานั้นมีค่าเหมือนกัน ในวันนี้เราอาจโดนหัวหน้าเอาเราออก แต่ที่ผ่านมาหัวหน้าได้สอนงานให้เรา ได้เอ็นดูเรา หรือครั้งหนึ่งเราอาจจะผิดใจกับเพื่อนร่วมงานคนนี้ เราอาจจะทำโน้ตเล็ก ๆ ติดไว้ตามโต๊ะทำงานของพวกเขาเพื่ออาจเป็นการ “ขอโทษหรือขอบคุณ” อย่างน้อยเราก็ยังเหลือมิตรภาพที่ดีไว้ครับเครดิต : https://bit.ly/2T7yEty4. จัดการเรื่องสิทธ์ประกันสังคมเมื่อเราออกจากงาน 2 สิ่งที่เราควรทำ คือ ขึ้นทะเบียนคนว่างงานที่สำนักงานจัดหางาน เพื่อรับเงินชดเชยที่เราถูกเลิกจ้างและเช็คสิทธิประกันสังคมในการรักษาค่าพยาบาล โดยที่ลูกจ้างได้จ่ายเงินสบทบเข้าประกันสังคมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนว่างงานจะได้รับการช่วยเหลือ ได้รับผลตอบแทน 50% ของรายได้ ครั้งละไม่เกิน 180 วัน และผู้ประกันตนนั้นไปขึ้นทะเบียนเป็นบุคคลว่างงานภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ว่างงานหรือถูกเลิกจ้างครับ5. จัดการรายจ่ายของตนเองนำเอาทรัพย์สินหรือหนี้สิ้นและรายจ่ายของเรานั้นออกมากางดูเลยนะครับว่าเรา มีอะไรบ้างที่เราต้องจ่าย ถ้าหากใครมีเงินสำรองตรงนี้ก็โชคดีไปนะครับ แต่ถ้าใครไม่มีนั้น เราต้องประหยัดก่อนนะครับ เรื่องที่อยากกินของแพง ๆ หรืออยากไปเที่ยวต่างประเทศ หรืออยากได้ของที่ไม่จำเป็น เราต้องอดก่อนนะครับ เพื่อให้มีเงินเพียงพอต่อการใช่จ่ายในช่วงที่เรายังหางานไม่ได้นะครับเครดิต : https://bit.ly/2SWpnpj7. ปรับปรุงเรซูเม่เรานำเรซูเม่นั้นมาปรับให้ดูทันสมัยขึ้น เขียนเรื่องราวที่น่าสนใจมากขึ้น ถ้าใครคิดว่าเรซูเม่ของตนนั้นเก่าไปก็ทำขึ้นมาใหม่เลยครับ มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ เราก็ใส่มันเข้าไป เพื่อให้เราได้มีโอกาสในการหางานมากขึ้นนะครับ8. อย่าคิดว่าเราทำได้แค่สิ่ง ๆ เดียวคนเราหลาย ๆ คนนั้นนะครับ ชอบคิดว่าเรานั้นทำเป็นเพียงแต่สิ่ง ๆ เดียว จากงานประจำที่เราทำมา จนเราลืมไปเลยว่าเรานั้นอาจมีความสามารถอื่น ๆ ซ่อนอยู่ก็ได้ เราอาจจะเริ่มจากการศึกษาสิ่งที่เราชอบ ลองทำสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราชอบเหล่านี้ภายในอนาคตนั้นอาจจะสร้างรายได้ให้เราก็อาจเป็นไปได้นะครับ9. ดูแลสุขภาพตนเองเสมออาจมีใครหลาย ๆ คนนั้น ตอนทำงานนั้นทำงานหามรุ่งหามค่ำ หรือทำงานเข้ากะ จนทำให้ร่างกายเรานั้นเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เราควรใช้เวลาตรงนี้เป็นการพักผ่อนหรือหาเวลาผ่อนคลายจากความเครียดต่าง ๆ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารที่เป็นประโยชน์และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีกันด้วยนะครับเครดิต : https://bit.ly/2PdV5fpแม้การตกงานอาจเป็นเรื่องหน้าเศร้า แต่เราอย่าทำตัวเองเศร้าหรือเสียใจนานไปนะครับ เพราะเราจะเสียเวลาไปเปล่า ๆ เราควรตั้งสติและปลุกความมั่นใจของตัวเองกลับมาเพื่อให้เรานั้นสามารถหางานใหม่ได้เร็ว ๆ เมื่อเราเสียอะไรไปหนึ่งอย่าง เราจะได้สิ่งอื่นมาทดแทนเสมอครับ และสิ่งอื่นนั้นอาจเป็นการพลิกโอกาสให้เรานั้นได้ก้าวที่ไปได้ไกลกว่าเดิมก็อาจเป็นไปได้นะครับ “มีสติ แล้วเราจะมองเห็นทางออกของปัญหาครับ สู้ต่อไปครับ ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นร้นกันต่อไปครับ” สวัสดีครับเครดิตรูปภาพปก : https://bit.ly/2PlbY81เครดิตรูปภาพทั้งหมด : https://pixabay.com