เที่ยวสระบุรีสิ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เมืองเล็กและเป็นเมืองเก่าแก่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะทางรถไฟ รถตู้ รถประจำทาง หรือขับรถมาเองก็จัดได้เลย จังหวัดสระบุรีเป็นจังหวัดสุดท้ายติดต่อกับประตูสู่ภาคอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) หรือจะขึ้นภาคเหนือก็ถือเป็นทางผ่านด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเดินทางไปทางภาคอีสานจะต้องผ่านจังหวัดสระบุรีเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เขาใหญ่ ปากช่อง ไหว้ท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ไปเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ไปชมปราสาทเขาพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ไปขอเลขที่คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี ต้องมาผ่านทางจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางที่ช่วงเทศกาลรองรับรถนักท่องเที่ยวและเดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันจังหวัดสระบุรีก็ยังเป็นได้แค่เพียงเมืองผ่าน บนถนนมิตรภาพเท่านั้น เทศบาลเมืองแก่งคอย หรืออำเภอแก่งคอย เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสระบุรี ที่ถือว่าเป็นเมืองเล็ก และเงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยเมืองประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะมีเส้นทางแผ่นดินรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นั่นคือตัวอักษร จปร. อยู่ที่ถ้ำผาเสด็จ ในช่วงของการสร้างถนนหนทางของการรถไฟไทย หรือวังสีทา วังของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ตอนเด็กป๊าเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นรัชสมัยที่มีกษัตริย์ 2 พระองค์ อีกพระองค์คือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างวังที่จังหวัดลพบุรี คือพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ซึ่ง 2 วังนี้ถูกสร้างในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน นอกจากวังแล้วสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแก่งคอย ที่ถือว่าชาวจีนในอำเภอแก่งคอย เคารพนับถือ และถือเป็นเจ้าเมืองแก่งคอยด้วย นั่นคือศาลเจ้าพ่อปึงเถ่ากงม่าแก่งคอย ที่คนแก่งคอยเคารพนับถือ กราบไหว้สักการะขอพร ซึ่งเป็นความเชื่อว่าท่านคือผู้ปกปักษ์รักษา ปกป้องคุ้มครอง ประชาชนในตลาดแก่งคอย ให้อยู่เย็นเป็นสุข (ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม (เรื่อยเปื่อย, เที่ยวสระบุรี เที่ยวเมืองแก่งคอย , 2563) และ (เรื่อยเปื่อย, เที่ยวสระบุรี เที่ยวเมืองแก่งคอย ตอน 2, 2563)) และอีกสถานที่หนึ่งที่ขอแนะนำ ซึ่งประชาชนทั่วโลกให้การเคารพนับถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอินเดีย ศาสนาพรหมณ์ - ฮินดู เมืองแก่งคอยก็จัดเป็นสถานที่สักการะหนึ่งของเมืองแก่งคอยและชาวแก่งคอยก็ให้ความเคารพนับถือไม่แพ้เจ้าพ่อปึงเถ่ากงม่าแก่งคอย แต่ด้วยประเพณีหลายๆอย่างประกอบกับตลาดแก่งคอยถือเป็นเมืองที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้วิหารท้าวมหาพรหมถูกมองและดูแลด้วยคนเชื้อสายจีน ซึ่งขึ้นกับมูลนิธิแก่งคอยเมตตาธรรม ฝ่ายท้าวมหาพรหม พิธีกรรมต่างๆ การจัดไหว้จะเป็นในลักษณะชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ อาทิเช่นการจัดประเพณีแห่ท้าวมหาพรหม และจัดหาการแสดงงิ้วเพื่อถวายเป็นประจำทุกปี (ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ (เรื่อยเปื่อย, ท้าวมหาพรหม...จุดใหม่, 2563)) ในที่สุดก็ขอเข้าประเด็นเลยกล่าวมาตั้งนานถึงเมืองแก่งคอย แต่จะพูดถึงวัดประจำอำเภอเลยก็ดูจะไม่ใช่ ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอพาเพื่อนมาไหว้พระประจำอำเภอแก่งคอยบ้าง หลังจากที่พาทัวร์ทั้งวัง ศาลเจ้า วิหารแล้ว ตอนนี้เราก็มาทำความรู้จักกับ “วัดแก่งคอย” กันบ้างนะคะ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยเกริ่นคร่าวๆในเพจเรื่อยเปื่อยใน Blockdit แต่ยังไม่ได้เขียนอย่างจริงจัง สมัยก่อนเมืองแก่งคอยถูกเรียกว่า "แร้งคอย" (สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี, 2563) ด้วยเหตุที่ชาวแก่งคอยล้มตายจากไข้ป่าและมีฝูงนกแร้งมาเฝ้าคอยเพื่อกินซากศพเป็นจำนวนมาก ทำให้เมืองแก่งคอยจึงเป็นเมืองที่เงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยความเจริญในด้านอุตสาหกรรม ทั้งโรงปูนซีเมนต์ โรงไฟฟ้า เป็นต้น วัดแก่งคอย ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2330 โดยเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านสมัยนั้น ยกที่ดินใหกับวัดเพื่อทำเป็นธรณีสงฆ์ และสืบทอดพระพุทธศาสนา โดยถูกควบรวมโดยมีทั้งวัดและโรงเรียนในอาณาบริเวณเดียวกัน ตอนสร้างใหม่ชื่อ “วัดแร้งคอย” จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็นทางการว่า “วัดจมูสโมสร” และเปลี่ยนเป็น “วัดแก่งคอย” ดังเช่นปัจจุบัน เมื่อเราเข้าทางซุ้มประตูวัดแก่งคอย ทางขวาจะเป็นฝั่งของพิธีกรรมเดียวกับผู้เสียชีวิต ทั้งศาลาประกอบพิธี เมรุเผา ในด้านหลังยังมีอนุสาวรีย์ผู้ประสบภัยทางอากาศสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ในขณะที่ทางซ้ายมือ คือโรงเรียนวัดแก่งคอย ซึ่งถือเป็นโรงเรียนที่ภาครัฐของอำเภอแก่งคอย ที่ได้ส่งเสริมวิชาความรู้ให้นักเรียนที่ดีโรงเรียนหนึ่งของเมืองแก่งคอยเลย ถัดเข้ามาอีกหน่อยทุกคนจะต้องอยากเข้ามากราบสักการะท่าน ถ้าทราบประวัติท่านแล้ว นั่นคือวิหารหลวงพ่อลา หรือเราเรียก “หลวงปู่ลา” หรือ “พระครูสุนทรสังฆกิจ” ท่านเป็นเกจิชื่อดังรูปหนึ่งของประเทศ สมัยตอนเด็กป๊าจะเล่าให้ฟังว่าท่านทำน้ำพระพุทธมนต์ด้วยเทียนขี้ผึ้งของที่บ้าน และน้ำตาเทียนจะหยดจากใต้ฐานเทียน ซึ่งถือเป็นอภินิหารอย่างหนึ่ง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้ยึดอำเภอแก่งคอยเป็นฐานในการลำเลียงไพร่พล ถึง 4 ปี เนื่องจากเมืองแก่งคอยถือเป็นเมืองท่าใหญ่ที่มีทั้งรถไฟ และสายน้ำ จากแม่น้ำป่าสัก ที่ถือเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม ซึ่งวันที่ 2 เมษายน 2488 เป็นปีที่ฝ่ายพันธมิตรทิ้งระเบิดลงเมืองแก่งคอย แต่ประชาชนที่เข้ามาหลบในวัดแก่งคอยรอดจากลูกระเบิดอย่างปาฏิหารย์ด้วยอิทธิฤทธิ์ของท่านทำให้ลูกระเบิดไม่ระเบิด จึงเกิดเป็นอนุสาวรีย์ลูกระเบิดขึ้นในวัดแก่งคอย และนำผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้มาฝั่งรวมกัน ณ อนุสรณ์ แห่งนี้ ซึ่งในวันที่ 2 เมษายน ของทุกปีอำเภอแก่งคอยจะมีการจัดงานเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้น ซึ่งในการจัดงานจะมีทั้งของคนไทย และคนญี่ปุ่นมาร่วมจัดพิธีกรรม และอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของวัดแก่งคอยคงหนีไม่พ้นเจดีย์ศรีป่าสัก ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ครบ 80 พรรษา หน้าประตูทางเข้า จะมีองค์พระสังกัจจายน์ และองค์หลวงพ่อทันใจ ภายนอกทาสีขาวตัดสีทอง ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และรอบพระพุทธบาทจำลอง รวมถึง องค์พระชื่อดังของเมืองไทยประกอบกัน 4 ทิศ อาทิ พระพุทธชินราช หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อพระใส และพระศีรศากยมุณี ข้างเจดีย์ศรีป่าสักยังมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ (พระประจำวันอังคาร) อีกทั้งยังมีองค์ของผู้ที่ชอบเสี่ยงโชคได้มากราบไหว้องค์พญานาค ริมแก่งทางลงแม่น้ำป่าสัก ในด้านหลังของวัดเป็นแม่น้ำป่าสักที่เป็นทางลำเลียงไพร่พลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กล่าวในข้างต้น ลองมาเที่ยวเมืองแก่งคอย แล้วจะหลงรักเมืองแก่งคอยนะคะ พิกัดวัดแก่งคอย 353 ถ.สุดบรรทัด ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ติดถนนสุดบรรทัด ใกล้ตลาดเช้า ประตูด้านหลังของวัดสามารถเดินไปศาลเจ้าพ่อปึงเถ่ากงม่า ท้าย ตลาดลาว ตลาดท่าน้ำชุมชนหลวงปู่พรหม และวิหารท้าวมหาพรหมได้ วัดเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00 น. - 17.00 น. ยกเว้นช่วงเทศกาล เช่น - วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันพระใหญ่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา - ประเพณีปีใหม่วัดจะมีจัดสวดมนต์ข้ามปี - งานย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 2 – 4 เมษายน ของทุกปี - และงานลอยกระทง ประตูวิหารหลวงพ่อลา และประตูเจดีย์จะเปิดตลอดคืน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมาเที่ยวงานของทางวัด References เรื่อยเปื่อย. (2020, ธันวาคม 5). ร้านเล็กแต่อบอุ่น "café 33". Retrieved from cities.trueid.net: https://cities.trueid.net/post/200342 เรื่อยเปื่อย. (2563, ธันวาคม 6). ท้าวมหาพรหม...จุดใหม่. Retrieved from cities.trueid.net: https://cities.trueid.net/post/197223 สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี รูปภาพประกอบสวยๆ ขอขอบคุณนางแบบ และนายแบบ คุณพรทิภา รปม.จุฬา รุ่น 39 และสามี รูปปก : ถ่ายโดยผู้เขียน รูปที่ 1 - 10 : ถ่ายโดยผู้เขียน วันลาเหลือใช่ไหมหรืออยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !