มาอัมพวาทั้งที พักที่ไหนดี หลายคนที่ไปเที่ยวอัมพวาก็คงจะชอบสไตล์แบบโฮมสเตย์ ชมหิ่งห้อยสุดคลาสสิกยามค่ำคืน แต่เดี๋ยวนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์รักษ์โลกก็มาแรงเหมือนกัน ทำให้คนรุ่นใหม่คิดว่าจะเที่ยวอย่างไรให้ไม่รบกวนธรรมชาติ หรือไปอุดหนุนโรงแรมรีสอร์ทที่เขามีนโยบายประหยัดพลังงาน หรือใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่งโรงแรม แบบนี้ก็ได้รับความนิยม ย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 ฉันได้มีโอกาสไปสัมมนาที่อัมพวาและพักที่ "Asita Eco Resort" โรงแรมระดับ 3 ดาว แต่คุณภาพเกินดาวที่ได้รับมาก แค่ชื่อที่มีคำว่า Eco ก็ถือเป็นรีสอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ด้วยคอนเซ็ปต์ a touch of nature สอดคล้องกับบริเวณรีสอร์ทที่มีต้นไม้มากมาย ห้องพักและห้องจัดงานต่าง ๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งมีคลองไหลผ่านด้วย ซึ่งรีสอร์ทตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยหาด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม และแน่นอนว่าคอนเซ็ปต์ของรีสอร์ทดีขนาดนี้ ก็ไม่พลาดที่จะคว้ารางวัลสุดยอดโรงแรมบูติคไทย ประเภทอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่การตกแต่งแนวรักษ์ธรรมชาติเท่านั้นที่ทำให้คว้ารางวัลนี้ได้ แต่มีการจัดผังห้องพักที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างลงตัว และมีนโยบายช่วยลดโลกร้อนและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และทำอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน เดี๋ยวจะพาไปชมมุมต่าง ๆ ภายในรีสอร์ทว่าน่าอยู่แค่ไหน ตรงนี้เป็นเรือนไทย ทำจากไม้สวยงามมาก ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่สัมมนาของฉัน เนื่องจากมีช่วงพักเบรก จึงขอแอบมาดูหน่อย เพียงเดินผ่านสนามหญ้ามานิดเดียวถึงแล้ว เหมาะสำหรับจัดงานแต่งงานแบบไทย ๆ ส่วนเรามาถ่ายแบบคู่กับเรือนไทย ประหนึ่งกำลังถ่ายนิตยสารขวัญเรือนอยู่ ฮ่า ๆ ขอบอกว่าแม้มีแสงแดดสาดส่องลงมา แต่ไม่รู้สึกร้อน เพราะรอบ ๆ อาจจะมีต้นไม้เยอะ ทำให้มีลมพัดเป็นระยะ ๆ อากาศถ่ายเทได้ดี ซึ่งการจัดงานแต่งงานไม่ได้จำกัดแค่แบบไทย ทางรีสอร์ทมีบริการครบวงจร ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม จัดเตรียมสถานที่ และทีมงานคอยอำนวยความสะดวกในวันงาน จัดได้ทั้งแบบไทย เทศ ตามธีมที่ลูกค้าต้องการ ไปจนถึงวันจัดงาน ด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ทางโรงแรมจะจัดให้ มีโปรโมชั่นอยู่เรื่อย ๆ ใครมีแผนจะแต่งงานที่อัมพวาก็ลองดูที่นี่ไว้เป็นตัวเลือกได้ อีกหนึ่งไฮไลท์คือบริเวณสวน มีโต๊ะเก้าอี้ไม้สวยงามตั้งอยู่กลางสวน พร้อมร่มบังแดดให้ด้วย สามารถมองเห็นวิวคลองได้อย่างชัดเจน โล่งตาสบายดี ถ่ายภาพเก็บไว้ก็สวยงามใช่ย่อย ทำทีเป็นสูดกลิ่นดอกไม้ท่ามกลางธรรมชาติได้แบบไม่น่าเกลียด ซึ่งสามารถนำชาหรือกาแฟมานั่งดื่มได้ ก็จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมธรรมชาติมากขึ้น และบริเวณสนามหญ้ายังมีที่นั่งแบบอื่นให้ถ่ายภาพอีกด้วย เช่น เก้าอี้รูปกระเช้า ไม้กระดาน ซึ่งเป็นเครื่องเล่นคลายเหงาได้ดี มีซุ้มม่านตกแต่งกลางสนามหญ้าด้วย เหมือนเป็นซุ้มสำหรับจัดงานยามเย็น แต่ฉันและพี่อีกคนก็ตระเวนถ่ายภาพเก็บไว้มากมาย รีสอร์ทนี้มีมุมถ่ายรูปและกิจกรรมให้ทำได้อย่างไม่เบื่อ ปิดท้ายด้วยกิจกรรมที่ชอบที่สุด นั่นก็คือ พายเรือนั่นเอง เกิดมาครั้งหนึ่งได้พายเรือครั้งแรกที่นี่แหละ มีพี่พนักงานคอยดูแลเป็นอย่างดี แต่พี่อีกคนดันตกน้ำระหว่างลงเรือหลังจากต่อคิวถ่ายรูปจากฉัน โธ่ ทั้งตลกและสงสาร ฮ่า ๆ พวกเราเลยต้องจบการถ่ายภาพรอบรีสอร์ทไว้แต่เพียงเท่านี้ แต่เท่าที่เดินดูแล้วการตกแต่งโรงแรมใช้แต่ของธรรมชาติจริง ๆ เป็นรีสอร์ทที่ทำให้คุณดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ แม้จะมาสัมมนาแต่ก็เหมือนมาเที่ยวพักผ่อนมาก ราคาห้องที่นี่เริ่มต้นที่ 1,700 บาท แล้วแต่เว็บไซต์ที่ทำการจอง หรือใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Asita eco Resort หรือเว็บไซต์ Asita eco Resort ก็ได้เช่นกัน ถ้ามีโอกาสมาลองสัมผัสธรรมชาติในรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกันดูนะคะ พักรีสอร์ทสวย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม @Asita