“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” วันนี้วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563 ชิล ๆ ตามสไตล์ หนุ่ม-สุทน คนรักบ้านเกิดเมืองแม่กลองหรือสมุทรสงครามตามชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ วันนี้จะพาไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวเลหรือชาวประมงพื้นบ้านตำบลคลองโคน แม่กลองเมือง 3 น้ำ 3 อำเภอ “ท่องเที่ยว 3 ฟาร์มหอย นอนโฮมสเตย์” การไปเที่ยวที่คลองโคนจะให้ถึงแก่นแท้ได้ ก็ต้องกินนอนซึมซับรับบรรยากาศวิถีชีวิตชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวประมงเลี้ยงเก็บหอยในทะเลกัน ที่โฮมสเตย์ของลุงป้าน้าอาคนที่นี่กันดูสักครั้ง ฮ่า ๆ ๆ ส่วนว่าจะเป็นโฮมสเตย์ที่ไหน !!! ก็สุดแล้วแต่รสนิยมความชื่นชอบ ว่าอยากได้แบบหรูนิด ๆ หรือเอาแบบบ้าน ๆ หน่อย ก็พอไหวเพราะเน้นเที่ยวไม่เน้นนอน สามารถเลือกกันได้หลากหลายรูปแบบ เพราะมีหลายโฮมสเตย์ ส่วนทริปนี้เลือกไปเลือกมา หรือจะเลือกมาเลือกไปก็มาจบที่ “เรือนริมเลโฮมสเตย์” ผมติดต่อนัดหมายกับพี่สุภาพเจ้าของเรือนริมเลฯ เสร็จสรรพ จัดแจงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อม ขับรถยนต์ส่วนตัวไปถึงคลองโคนแบบง่ายดายราว ๆ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ แบบไม่หลงทิศหลงทางเพราะมีเนวิเกเตอร์เป็นกูเกิลแมพคู่ใจ ถึงจุดจอดรถค้างคืนไว้อีกฟากฝั่งหนึ่งของเรือนริมเลฯ ไม่นานนัก เรือเร็วของโฮมสเตย์ที่พักก็มารับพากันเฮฮาตื่นเต้น นั่งเรือเห็นวิวธรรมชาติสองฟากฝั่งคลอง สุดแสนจะเบิกบานใจในวันท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เรือนักท่องเที่ยวลำแล้วลำเล่าแล่นสวนไปมา ก็พากันแจกยิ้มโบกมือทักทายคล้ายคนรู้จักกันเลยทีเดียว เข้าใจอารมณ์คนมาเที่ยวที่เดียวกันแล้วเจอกันเลยล่ะ เหลือบแลบ้านช่องสองฝั่งคลองโคนแล้วก็มีความสุขจริง ๆ เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านชาวประมงของจริง แถมมีสีสันให้ได้ทักกันตลอดทางว่า เอ๊ะ! บ้านนั้นสีฟ้า อ๊ะ! บ้านนี้สีเขียว แถมบ้านอีกหลังนะ แหม ! ไม่ธรรมดาเพราะพี่แกเล่นมุงหลังคาด้วยเมทัลชีท เอาแถบสีธงชาติไทยแลนด์ชัดแจ้ง ถามไปได้ความว่า เจ้าของบ้านเขาเป็นคนหนุ่มวัยสะรุ่น เลือดรักชาติเต็ม ๆ และแน่นอนว่าบ้านเรือนริมน้ำของคนที่นี่เขามีเรือแขวนโยง เทียบผูกไว้กับเสาลอยหน้าบ้านแทบทุกหลัง เพราะต้องใช้เรือสัญจรไปไหนมาไหน ออกเรือทำประมงฟาร์มหอย เรียกว่านั่งเล่นชมวิวหน้าที่พัก ก็จะเห็นเรือแล่นฉิวไปมาขวักไขว่กันทั้งวัน เสียงเรือที่ว่าดังในตอนแรก กลายเป็นเสียงคุ้นหูพออยู่ได้ สักวันสองวันเริ่มชินกลายเป็นเสียงปกติของคนแถวนี้ไปเลยครับ ตกบ่ายทางโฮมสเตย์เขาก็มีบริการพาล่องเรือไปชมการทำประมงพื้นบ้าน คือการไปดูฟาร์มเลี้ยงหอย 3 ชนิด คือ หอยแครง หอยแมลงภู่ และหอยนางรม ซึ่งเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนคลองโคน ในการทำประมงทะเลพื้นบ้านแบบที่ได้รับสัมปทานมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย และทำกันแบบตามธรรมชาติแท้ ๆ ไม่ทำลายระบบนิเวศในทะเล อาชีพทำฟาร์มหอยนี้เป็นอาชีพหลักของชาวบ้านย่านนี้ เมื่อภาครัฐส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเที่ยววิถีธรรมชาติ ชาวบ้านก็หันมาทำบ้านเรือนเป็นโฮมสเตย์เปิดรับนักท่องเที่ยวกันมากขึ้น มีรายได้เพิ่มอีกทางแถมยังดีตรงที่เที่ยวแบบนี้ โฮมสเตย์ก็มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวทำกันไม่เบื่อไม่เหงา โดยเฉพาะการล่องเรือออกปากอ่าวไทยเมืองแม่กลอง ชมการเลี้ยงหอยแครง หอยแมลงภู่และหอยนางรม เป็นเขตแดนรอยต่อถึงปากแม่น้ำบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี สำหรับการเลี้ยงหอยแมลงภู่นั้น ในเขตปากอ่าวคลองโคน เลี้ยงแบบธรรมชาติ เอาไม้ไผ่มาปักหลักไว้ในทะเล จะใหญ่เล็กก็ไม่ว่ากัน มัดรวมกันบ้าง ปักเดี่ยว ๆ ก็มี ทำเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ ใครที่ไม่เคยเห็นว่าเขาเลี้ยงหอยกันอย่างไรก็ต้องมาดูให้เห็นนะ เป็นภาพที่สวยงามตื่นตาตื่นใจมากครับ ได้เห็นว่าการเลี้ยงหอยแต่ละชนิดนั้นไม่เหมือนกัน พอเรือจะเข้าเทียบใกล้ ๆ ให้เห็นกันแบบชัด ๆ ทุกคนก็รัวกล้องถ่ายรูปหรือยกมือถือกันจนฉ่ำใจ เรือไม่ไปก็ไม่หยุดถ่ายกันเลยครับ พูดถึงเรื่องการเลี้ยงหอยนี่ก็ได้ความรู้จากคนเรือที่เป็นชาวประมงเองด้วย และจากที่ผมเป็นคนแม่กลองของแท้ ก็พอจะรู้มาเหมือนกันล่ะครับว่า เริ่มต้นเดือนที่ 1 เชื้อหอยแมลงภู่จะมาเกาะผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ เมื่อครบกำหนด 8-9 เดือน ชาวเลจะมาชักหลักขึ้นซึ่งเต็มไปด้วยตัวหอยแมลงภู่ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ ส่วนหอยนางรมก็เห็นทำเป็นพวง ๆ ห้อยระโยงระยางยาวเหยียด หอยนางรมจะมาเกาะจนโตเต็มที่ ชาวเลก็ออกเรือมาเก็บไปเต็มลำเรือ เอาไปส่งขายในตลาด สำหรับหอยแครงอันนี้ต้องซื้อพันธุ์มาแล้วเลี้ยงในปากอ่าวดินโคลน จนโตเต็มที่ค่อยจับหอยแครงขาย กิโลกรัมละ 200 บาท แต่กว่าจะเก็บหอยได้เต็มลำเรือ ก็หนักหนาสาหัส ยิ่งวันนี้ฝนตกพรำ ๆ มาทั้งวัน ก็ทำเอาเปียกปอนม่อล่อกม่อแลกกันสนุกสนาน แหม ! ได้บรรยากาศเที่ยวหน้าฝนจริง ๆ สิ่งสำคัญที่สุดของการเลี้ยงหอยนี่คือ เจ้าของฟาร์มหอยทุกที่ต้องไปสร้าง “กระเตงเฝ้าหอย” เอาไว้ที่กลางทะเลในที่ของเขา เอาไว้เฝ้าจับขโมยที่จะมาลักลอบเก็บหอย บางกระเตงถึงกับติดกล้องวงจรปิดไม่รู้กี่ตัวเลย เรียกว่าของใครของมัน เป็นกระเตงที่ดูไฮเทคมาก ฮ่า ๆ ๆ ดูหอยกันถึงฟาร์มหอยใหญ่สุดลูกหูลูกตาถึงปากอ่าวกันแล้ว ก็ลองเลือกอีกสักกิจกรรมสุดท้ายดูสักตั้งดีไหม คือการปลูกต้นไม้ป่าชายเลน ซึ่งทางโฮมสเตย์เขามีต้นกล้าไม้โกงกางต้นเล็ก ๆ เอาไว้ให้ไปปลูกลงลุยโคลนกันหน่อยจ้า หรือถ้ากล้าหน่อยก็ให้อาหารลิงป่าแสมดำที่มีอยู่มากมาย เดี๋ยวนี้พี่ลิงเขาฉลาด รู้ว่ามีนักท่องเที่ยวมาและชอบให้อาหารเป็นพวกขนมกรุบกรอบ เขาจะมานั่งเสนอหน้าทำตาละห้อยน่าสงสงสารเฝ้ารอ ให้ไปก็เสร็จเขาล่ะ กินข้าวไปก็คอยไล่ลิงไป ขอกระซิบดัง ๆ ข้างหูกันต่อท้ายด้วยว่า แพ็คเกจเที่ยวคลองโคลนแบบที่เล่าแจ้งแถลงไขมาชักชวนนี้ เขาขายทัวร์เป็นแพ็คเกจ ราคาที่พักของบ้านเป็นหลัง ๆ บวกกิจกรรมล่องเรือดูฟาร์มหอย ปลูกป่าชายเลน บวกอาหารอร่อยสุดใจในเมนูพื้นบ้าน คุ้มค่ามาก ๆ ครับชาวแฟนเพจ อาหารมื้อเย็นหน้าบ้านพักติดริมคลอง พลบค่ำมันช่างแสนสุขใจ แว่บ ๆ มีพี่จ๋อเยี่ยมหน้ามาทักทายด้วยหน่อย ๆ แนวป่าโกงกางข้างโฮมสเตย์ ยิ่งนั่งแช่นานเท่าไหร่ก็จะได้เห็นน้ำทะเลขึ้นมาเรื่อย ๆ ขึ้นสูงจนหวั่นใจ ว่านี่พวกเราจะตื่นเช้ามาแล้วพบว่ากำลังนอนลอยคออยู่กลางทะเลหรือเปล่านะเนี่ย... ฮ่า ๆ บรรยากาศแบบนี้ได้นั่งชิล ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ริมน้ำ นั่งหน้าเรือนชาน เรือนริมเลโฮมสเตย์ ช่วงเวลาค่ำ ๆ ด้วยอาหารมื้อค่ำฝีมือคนท้องถิ่นแท้ ๆ มันสุดยอดแบบชาวบ้านตำบลคลองโคนแท้จริง มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา มาให้กินอิ่มครบจบกันทุกมื้อ ขาดไม่ได้คือน้ำพริกกะปิคลองโคน พร้อมด้วยผักชะครามมีมากขึ้นเองตามธรรมชาติ เด็ดยอดอ่อน ๆ ลวกน้ำอุ่น ๆ บีบเค้นเอาความเค็มที่มีอยู่ในชะครามให้หมด แล้วนำไปต้มน้ำร้อนอีกครั้ง เสร็จแล้วราดกะทิเคี่ยวข้น รสชาติออกเค็ม ๆ มัน ๆ แกล้มด้วยน้ำพริกกะปิคลองโคนของแท้สีดำ ๆ อู้ฮู ! ใครไม่เคยกิน ได้กินแล้วรับรองติดใจทุกราย หนุ่ม-สุทน ขอแนะนำให้ไปลองเปลี่ยนรสชาติชีวิต ไปเที่ยวปากอ่าวคลองโคนเมืองสมุทรสงครามแบบที่เล่าสู่กันฟังให้กับชาวแฟนเพจได้ทดลองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ กิจกรรมใหม่ ๆ กันดูนะครับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089-9327193 วันนี้ขอบคุณและสวัสดีครับ เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5 fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน