ป่าโกงกาง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง เนื่องด้วยระบบนิเวศน์ของป่าโกงกางที่ติดริมชายฝั่งทะเลนั้น เต็มไปด้วยระบบนิเวศน์ที่หลากหลาย การเดินทางไปเที่ยวเชิงอนุรักษ์ครัั้งนี้ของผู้เขียน ผู้เขียนขอบรรยายถึงบรรยากาศการเดินทางไปยังป่าโกงกาง คลองโคน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวป่าโกงกางครั้งแรกของผู้เขียนค่ะ ป่าโกงกางแห่งนี้ เป็นป่าโกงกางที่ประกอบไปด้วยต้นไม้นานาชนิด อาทิ ต้นแสมทะเล ต้นแสมขาว เขียวขจีไปทั่วป่าโกงกางแห่งนี้ สภาพอากาศโดยรวมถือว่าอากาศเย็นสบาย ไม่มีฝุ่นควันมารบกวนการเที่ยวชมธรรมชาติในครั้งนี้ ผู้เขียนได้เริ่มเดินทางจากการเยี่ยมชมต้นไม้ใบหญ้าทั้งสองข้างทาง โดยเดินไปตามทางเดินไกลสุดลูกหูลูกตา ตลอดข้างทางจะมียุงบินมารบกวนตลอดทาง ผู้อ่านอาจจะต้องเตรียมใส่เสื้อผ้าแขนขายาวไปสักนิด เพื่อป้องกันยุงที่อาจจะรบกวนผู้อ่านในขณะเดินเที่ยวชมระบบนิเวศน์ป่าโกงกาง นอกจากผู้เขียนจะพบต้นไม้ที่หลากหลายแล้ว สิ่งที่น่าสังเกตเห็นและชวนให้คิดคือ การพบขยะมูลฝอยตามบริเวณแหล่งน้ำ ทำให้ทัศนียภาพในการเที่ยวชมป่าโกงกางเสียไป ประกอบกับการที่มีขยะมูลฝอยในสถานที่แห่งนี้ยังทำให้น้ำเกิดการเน่าเสียบางส่วน และส่งผลทำให้ระบบนิเวศน์ของป่าโกงกางเสียสมดุลย์ด้วยเช่นกัน ผู้เขียนได้เดินไปสุดทางของสะพาน ได้พบกับน้ำทะเลสีครามของป่าโกงกาง มีเสาไม้ไผ่วางเรียงเป็นแนวเพื่อลดแรกัดเซาะชายฝั่งของคลื่นทะเล ผู้เขียนได้เดินเที่ยวในป่าโกงกางแห่งนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง พบสัตว์น้ำที่มหัศจรรย์ของป่าโกงกางแห่งนี้คือ ปลาตีน (Mudskipper) ปลาชนิดนี้มีลักษณ์ที่แปลกไปจากปลาทั่วไปตามท้องตลาด หัวของมันใหญ่ ลำตัวยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัด (30 เซนติเมตร) มีพันแบบมีเขี้ยว และมันยังเป็นปลาที่วิ่งได้อย่างรวดเร็วบนผิวน้ำอีกด้วย ความสามารถของปลาตีนทำให้ผู้เขียนตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นปลาที่มีแปลกตา และมากด้วยความสามารถเช่นนี้ ปลาตีนจึงทำให้ผู้เขียนใช้เวลาไล่ตามปลาตีนในป่าโกงกางแห่งนี้อยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว จากการไปเที่ยวป่าโกงกาง คลองโคน จังหวัดสมุทรสาครแห่งนี้ ผู้เขียนมีความประทับในการร่วมมือร่วมใจของกลุ่มคนส่วนหนึ่งที่ยังคงทำกิจกรรมปลูกป่าโกงกางในพื้นที่แห่งนี้ แม้ว่าการมาเที่ยวของผู้เขียนในครั้งนี้จะไม่ได้พบกับกิจกรรมดังกล่าวก็ตาม แต่ร่องรอยของการทำกิจกรรมก็ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความหวงแหนและอนุรักษ์พื้นที่ป่าโกงกางของพื้นที่นี้ได้เป็นอย่างดี จากการท่องเที่ยวครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ความตื่นเต้นโลดโผนเฉกเช่นกิจกรรมอื่นๆที่เคยไปก็ตาม แต่การมาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ครั้งนี้ก็ทำให้ผู้เขียนได้รับความรู้เรื่องการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต หรือที่เรียกว่าระบบนิเวศน์ มนุษย์เราเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ หากเรายังคงทำลายระบบนิเวศน์ด้วยการทิ้งขยะ การบุกรุกพื้นที่ป่าโกงกาง การล่าสัตว์ในป่าโกงกาง การไม่ช่วยกันปกป้อง ดูแลรักษาระบบนิเวศน์ที่ของป่าโกงกางนี้ ก็อาจจะทำให้ในอนาคตข้างหน้าไม่มีระบบนิเวน์แห่งนี้ให้ลูกหลานเราได้ใช้ประโยชน์และเที่ยวชมต่อไปก็เป็นได้