ผมมีโอกาสได้ เยี่ยมชมโรงงานผู้ผลิตแพ็กเกจจิ้ง สินค้าด้านอุปโภค ที่ลือกันว่า ในโรงงานมีกิจกรรมเด่นด้านคุณธรรม ในมิติ คนทำงานกับการใกล้ชิดธรรมะ เราเคยได้ยินบ่อย ๆ ว่า การทำงานคือ การปฏิบัติธรรม ส่วนมากก็จะได้ยินจากในวัดหรือพระท่านเทศน์ให้ฟัง แต่ต้นเสียงธรรมนั้นหากจำไม่ผิด คือ วาทธรรมของหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุก่อนเข้าสู่เรื่องของบ้านใจในโรงงาน หรือ วัดใจในโรงงานที่ผู้เขียนอยากเล่าให้ฟัง เรามำทำความรู้จักกับเจ้าของพื้นที่กันสักหน่อยบริษัทสตาร์เฟล็กซ์ จำกัด [มหาชน] แห่งนี้ ตั้งอยู่บางบ่อ สมุทรปราการ สตาร์เฟล๊กซ์ ประกอบธุรกิจด้านการจัดทำบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน เพื่อบรรจุสินค้าอุปโภคบริโภคที่คุ้นตาหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น ซองผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นต้น ด้วยการยื่นจดทะเบียนมากกว่า 400 ล้านในตลาดหลักทรัพย์เรื่องราวน่าสนใจที่ทำให้ทีมงานแมวมองจาก สสส. และองค์กรคุณธรรม [องค์การมหาชน] ถึงกับต้องจูงแขนมาดูงานกันแบบจะ ๆ มิใช่ความโอ่อ่าของธุรกิจว่าด้วยเงินทุนที่จดทะเบียน แต่ทว่า เรามาเพื่อเสริมพลังปรารภปรารถนาจะเชิดชูเกียรติองค์กรที่มีความโดดเด่นด้านคุณธรรม ที่สำคัญให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนให้เป็นสุขในที่ทำงานเมื่อกล่าวถึงความสุขของคนทำงานในองค์กร สสส. ให้ความสําคัญกับคนทำงาน ใน 8 ด้าน คือสุขกาย Happy Bodyสุขผ่อนคลาย Happy Relaxสุขสมอง Happy Brainสุขสังคม Happy Society สุขการเงิน Happy Money สุขครอบครัว Happy Familyสุขใจ Happy Hearts สุขวิญญาณ Happy Soulอย่างที่ 8 นี่ล่ะครับจัดว่าเป็นไฮไลต์ของโรงงานแห่งนี้..คนทำงานที่นี่ส่วนมากมาจากต่างจังหวัด วิถีชีวิตของพวกเขาสัมพันธ์กับวัดและมีความคุ้นเคยกับวิถีของชาวพุทธ ผมว่า กิจกรรมบุญที่บริษัทจัดบ่อย ๆ มันดีเสียอีก เราได้ทำงาน ได้บุญ อีกอย่างไม่เสียงานและเสียเงิน ความสัมพันธ์ระหว่างกันดีขึ้นอีกด้วย ก็ต้องขอบคุณผู้บริหารที่ทำให้เกิดสิ่งดี ๆ ขึ้นมา..ท่านอดีตมหาปรีดา ซึ่งเป็นทีมงานของบริษัทหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนโครงการเล่าสู่กันฟังหากหันหลังมาดูสังคมในภาพรวม ๆ ของเราที่มุ่งทำธุรกิจเพื่อการเอาชนะกัน ท่ามกลางคอรัปชั่นของคนมักได้ในสังคม บางครั้งกฏหมายเอาผิดไม่ได้เสียทั้งหมด เหตุนี้ ศีลธรรมทางใจพื้นฐาน เช่น หิริ โอตตัปปะ จึงถูกหยิบยกมาพัฒนาคนทำงานโรงงานแห่งนี้ การจะหล่อหลอมให้คนหมู่ใหญ่เข้าใจถึงหิริ โอตตัปปะ แบบภาษาธรรมะได้ตรงกันคงจะเป็นเรื่องยากและยากกว่านั้น คือ ทำอย่างไรเมื่อเข้าใจแล้วสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้จริง นี่คือคำถามที่ผู้บริหารได้ขบคิดมาตลอด และวัดใจกันไปเลยว่า พนักงานต้องการสิ่งใด จึงจะเป็นสุขในที่ทำงานและใช้ทักษะการทำงานอย่างเต็มศักยภาพไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า พนักงานลงความเห็นว่า ต้องการให้บริษัทจัดมุมสงบที่สามารถพึ่งพิงพักผ่อนและอยู่ใกล้ชิดกับธรรม ซึ่งนั่นก็คือ อยากให้โรงงานจัดให้มีห้องพระเพื่อทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน ซึ่งจริง ๆ แล้ว Happy Soul ที่ว่าก็มีที่มาจากจุดเล็ก ๆ จุดนี้ในมุมมองคนนอกเมื่อได้นั่งฟังเรื่องเรา ของคนธรรมงานที่นี่อารมณ์เหมือนอยู่ในวัด มันมิใช่ว่าจะเกิดปิติเอาเสียง่าย ๆ นะครับ ในโลกทำงานที่ต้องเค้นศักยภาพออกมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลายคนทั่วไปก็ถึงกับตะบะแตกเหมือนกันเมื่อถูกกดดันในที่ทำงานแต่ต้องยอมรับเลยว่า ท่านผู้บริหารที่นี่ใจใหญ่ที่ให้กิจกรรมดี ๆ เกิดควบคู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ผู้เขียนมองว่าการศึกษาดูงานด้าน Soul Happy ที่น่ายินดีและควรค่าต่อการแบ่งปันกับสังคมเช่นนี้ น่าจะเป็นจุดวัดใจให้หลาย ๆ องค์กร ได้ร่วมทบทวนและนำไปปะติดปะต่อในบริบทของการจัดการองค์กรที่โดดเด่นเน้นคนทำงานให้เป็นสุขทุกมิติในแบบของตน และการบริหารแบบไม่ทิ้งธรรมเช่นนี้ จะเป็นฐานรากขององค์กรที่พัฒนาตัวเองไปสู่ความยั่งยืนในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะเมื่อคนสำราญ งานจึงเป็นสุข นั่นเองขอบคุณบทเรียนจากสตาร์เฟล็กซ์ ครับ ภาพถ่ายทั้งหมด :โดยผู้เขียน