"มีคำกล่าวที่ว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ อดีตกาลก็เป็นหน้าต่างของปัจจุบันเช่นกัน" วันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ย้อนเวลากลับไปในสมัยกรุงศรีอยุธยา ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่เคยเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยในสมัยนั้น ที่นี่ไม่ใช่ตึกสูงมุมมอง 360 องศา และก็ไม่ใช่ภัตตาคารหรูระดับ 5 ดาว แต่ที่นี่คือวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา นั่นก็คือวัดพระงาม ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอยุธยานั่นเองครับ และสถานที่นี้ที่ผมพูดถึงก็คือ "ประตูแห่งกาลเวลา" นั่นเองครับ แล้วทำไมถึงเรียกว่าประตูแห่งกาลเวลา และสถานที่แห่งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่วัดแห่งนี้กันครับ วัดพระงามนั้น ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตามประวัติแล้ววัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และถูกทิ้งร้างหลังจากเสียกรุงศรีครั้งที่ 2 ในปีพุทธศักราช 2310 วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือนอกเกาะเมืองอยุธยา ตัวของวัดหันไปทางทิศตะวันออก บริเวณด้านฐานของวัดมีเจดีย์ 8 เหลี่ยม ด้านหน้าของอุโบสถมีกำแพงและคูน้ำ ล้อมอยู่รอบบริเวณวัด สิ่งก่อสร้างในวัดถูกบูรณะมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีภิกษุมาประจำพรรษาที่นี่ วัดแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้างไว้มาโดยตลอด จุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คือ ซุ้มประตูทางเข้า ที่ยังคงสภาพเดิมอยู่บางส่วน โดยเฉพาะบริเวณซุ้มประตู นั่นก็เพราะว่ามีต้นโพธิ์อายุหลายร้อยปี เติบโตขึ้นมาบริเวณด้านข้างของซุ้มประตูทั้งซ้ายและขวา ซึ่งการเติบโตในลักษณะนี้ รากของต้นโพธิ์นั้นจะโอบอุ้มโครงสร้างของประตูเอาไว้ เพื่อไม่ให้ประตูนั้นผุพังและสลายไปตามกาลเวลา ทนต่อแรงลมและน้ำกัดเซาะ นี่จึงเป็นเหตุให้ต้นโพธิ์คู่นี้ ถูกเรียกว่าประตูแห่งกาลเวลา เมื่อเพื่อน ๆ มองเข้าไปจากบริเวณด้านหน้าประตู จะเห็นวิวทิวทัศน์ของวัดลอดผ่านซุ้มประตูเข้ามาอย่างลงตัว โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน แสงจากดวงอาทิตย์ทำมุมกับพระอุโบสถ ทอแสงเป็นประกายรอดผ่านมายังประตู ทำให้ผมจินตนาการ เห็นภาพอุโบสถกำลังเรืองแสง อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง ผ่านซุ้มประตูแห่งกาลเวลา ซึ่งเป็นภาพที่งดงามอย่างมาก แต่เดิมภายในบริเวณวัดแห่งนี้ จะไม่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ แต่ปัจจุบันมีการนำพระพุทธรูปมาประดิษฐาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชา ขอพร ตามความเชื่อของบุคคล และนี่ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของวัดแห่งนี้ก็ว่าได้ครับ ด้านหน้าซุ้มประตูจะมีศาลไม้ตั้งอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นศาลไม้ที่ชาวบ้านแถวนี้ได้นำมาตั้งไว้เพื่อขอโชคขอลาภก็เป็นได้ครับ ต้นโพธิ์ต้นนี้มีอายุหลายร้อยปี ซึ่งชาวบ้านที่นี่ช่วยกันดูแลรักษาเป็นอย่างดี เมื่อเพื่อน ๆ มาเยี่ยมชมแล้ว ก็เดินด้วยความระมัดระวังนะครับ เพราะรากของต้นโพธิ์ต้นนี้ ค่อนข้างจะกินพื้นที่บริเวณทางเข้าพอสมควร เพื่อน ๆ อาจจะเหยียบย่ำโดยไม่ได้ตั้งใจ การทำให้รากนั้นเสียหายได้นะครับ ส่วนบริเวณด้านหน้าวัด จะมีคุณป้าท่านหนึ่ง นำขนมครกไทยโบราณมาขายในราคาถูก ซึ่งปัจจุบันผมแทบจะหาทานไม่ได้แล้วในกรุงเทพฯ เลยช่วยอุดหนุนคุณป้ามา 2 ชุด หลังจากลองชิมดูแล้วขอบอกเลยครับว่ารสชาติของน้ำกะทินั้นเข้มข้นมาก ถ้าเพื่อน ๆ มาเที่ยวที่วัดแห่งนี้ก็อย่าลืมอุดหนุนคุณป้ากันด้วยนะครับ เป็นอย่างไรบ้างครับกับสถานที่แห่งนี้ ประตูแห่งกาลเวลา แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไป แต่ความงามในสมัยอดีตกาลยังคงจารึกอยู่ ภายในภาพของประตูแห่งนี้ ผมขอเชิญชวนเพื่อน ๆ มาถ่ายรูปสวย ๆ ที่วัดแห่งนี้ แล้วอย่าลืมแบ่งปันภาพเหล่านั้น ให้พวกเราได้ดูด้วยนะครับ และขอให้เพื่อนๆเดินทางด้วยความปลอดภัย แล้วพบกันใหม่ทริปต่อไป สำหรับวันนี้สวัสดีครับ เวลาทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ตั้ง : 24 หมู่ที่ 4 ถนน ซอยสลักหิน ตำบลคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000 แผนที่นำทาง : https://goo.gl/maps/MHarY7rHPkmcUVxC7 ประตูแห่งกาลเวลา ความสวยงามที่จะคงอยู่ตลอดไป ภาพประกอบบทความทั้งหมดโดย เจ้าของบทความครับ