มาถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ยอมรับเท่าไหร่ว่า เราเป็นนักวิ่ง เพราะรู้ตัวยังไม่แข็งแกร่งพอ ยังไม่อดทนพอ คิดว่า เรายังคงต้องรู้จักอดทน ขยันซ้อม มีวินัยให้มากกว่าตอนนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่า เรามีกลุ่มเพื่อนสนิทที่ไม่เที่ยวด้วยกันบ่อยๆอยู่ 5 คน เพื่อน 4 คน ก็ส่งภาพเข้าในอัลบั้มกลุ่ม มันเป็นภาพในงานวิ่ง ภาพ 4 คนชูเหรียญ เราก็งงว่า มันคืออะไร แล้วเหรียญอะไร ปรากฏว่า พวกมันไปวิ่งกัน บอกตรงๆ ว่าตอนนั้น รู้สึกเฉยมาก เพราะเราไม่เล่นกีฬาทั้งสิ้น ไม่ชอบทรมานร่างกาย อยู่เฉยมีความสุขกว่า เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. แต่มาวันหนึ่ง เพื่อนบอกว่า เฮ้ย! ไปวิ่งกัน วิ่งใกล้ๆบ้านก็พอ วิ่งเพื่อพ่อหลวง เอาที่สมุทรสาคร ลง 10K นะ เราบอกว่า ยังงัยก็ได้ ลงไปสิ ตามนั้นเลย ไม่พอ เพื่อนบอกทิ้งท้ายก่อนแยกย้ายว่า ซ้อมด้วยนะ เราก็งงว่าให้ซ้อมอะไร ซ้อมวิ่งหรอ ไม่เอาหรอก มากสุด 10 นาทีก็เหนื่อยสุดขีดละ ขอนอน เจอกันวันวิ่งเลย เครดิตภาพ : Th G จาก Pixabay และแล้ววันลงสนามก็มาถึง เราต้องตื่นตั้งแต่ตีสามสี่สิบห้า เราพูดกับตัวเองว่า ตื่นมาทำไม ตื่นมาทำอะไร ทรมานตัวเองเพื่อให้ได้วิ่งเหรอ ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย พอเพื่อนมารับ ขึ้นรถปุ๊บ เราหลับทันที ไปถึงวัดประมาณ ตีสี่ครึ่ง เราไม่ลงรถ เราบอกว่า ปล่อยตัวตีห้าครึ่ง เดี๋ยวตีห้าสิบห้าลงไปหา พอเดินไปถึงจุดปล่อยตัว โห เราว่ามันน่าตื่นเต้นชะมัด คนเยอะมาก บางคนก็วิ่งก่อนลงแข่งจริงจนเปียกทั้งตัว แล้วก็คุยกันแต่เรื่องวิ่ง ซึ่งเราก็ยังงงอยู่ เค้าคุยอะไรกัน เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. พอเริ่มปล่อยตัว เพื่อนสองคนวิ่งประกบเราเลย มันบอกว่า ไม่ต้องเร่งไม่ไหวก็เดิน เราวิ่งไปได้น่าจะประมาณ 1 กิโลเมตร เรารู้สึกหน้าร้อน ใจเต้น อยากเดิน แต่เพื่อนบอก เพื่อพ่อท่องไว้ เอาให้ได้ 5 กิโลเมตร แล้วค่อยเดิน เราวิ่งไป บ่นไป อยากร้องไห้ด้วย มันไม่ไหวแล้ว แต่ก็วิ่งบ้างหยุดบ้าง จนเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 44 นาที พอเข้าเส้นแล้วได้รับเหรียญ มันเป็นอะไรที่ เฮ้ย!เราก็ทำได้นี่ เราภูมิใจมาก หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน เราก็เริ่มซ้อมวิ่งอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าตอนเริ่มซ้อมครั้งแรก แค่ 10 นาที เราก็หมดแรง ไม่คุ้มค่าซักผ้าแบบที่ใครเค้าแซว เราก็พยายาม และพยายาม เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. ... 10K ที่ยอมทำเจ้าของบทความ sakanaj.รอบนี้ ขอบอกเลย เพื่อพ่อหลวงที่เรารัก เครดิตภาพปก : เจ้าของบทความ sakanaj.