วันนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์มาแนะนำผู้ที่หาที่เที่ยวแบบเดินทางสะดวกต่อรอไฟฟ้าได้ง่าย ไม่ต้องตั้งงบประมาณการเที่ยว จะเที่ยวเช้าก็ดีสำหรับสายตื่นเช้า แดดดี ท้องฟ้าเปิด ถ่ายรูปชัดแต่จะร้อนถ้าเวลาสายหน่อย หรือจะออกไปเที่ยวบ่ายเย็นก็ได้แนวแดดร่มลมตกแต่คนจะเยาะมากหน่อย หลังจากที่หยุดเชื้อเพื่อชาติมาเกือบสามเดือนจนมาถึงการประกาศคลายล๊อกเฟส 4 ได้แล้วก็อยากจะออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างแต่ยังคงต้องดูแลตัวเองหน้ากากห้ามขาด ไม่ประมาทการ์ดอย่าตกก็ได้เวลาออกเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ถ้าบอกชื่อสถานที่เที่ยวหลายคนคงเคยได้ยินได้หรือเคยได้ไปมาแล้วคือ วัดพระสมุทรเจดีย์ ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ แต่ที่จะแนะนำเพิ่มคือชวนไปไหว้พระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ 120 ปี เสด็จนิวัตมาตุภูมิ ถ้าใครที่ยังไม่เคยไปวัดพระสมุทรเจดีย์ก็ขอแนะนำการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ให้ไปลงที่สถานีปากน้ำแล้วลงตามทางเรียบฝากแม่น้ำเจ้าพระยา เดินเพื่อหาทางไปเรือข้ามฝาก หาไม่ยากถามคนแถวนั้นก็ได้ใจดี มาถึงท่าเรือข้ามฝากค่าเรือคนละ 5 บาท 50 สตางค์จ่ายก่อนลงเรือ พอข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปสู่ฝากอำเภอพระสมุทรเจดีย์ก็เดินผ่านตลาดออกไปเลี้ยวขวามือเดินไปอีก 100 เมตร ก็จะเห็นวัดที่เขียนว่า วัดพระสมุทรเจดีย์ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าไปกราบพระในโบสถ์ก่อนแล้วออกมาถ่ายรูปรอบวัดที่่มีอายุเกินร้อยปีและเห็นเรือขนส่งสินค้าจากริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลมเย็นสบาย ใกล้กันนั้นก็สามารถเห็นสะพานข้ามไปเกาะกลางได้และสามารถเดินได้ไม่ลำบาก แต่ต้องเดินขึ้นไป 3 ชั้นก่อนแล้วก็ข้ามสะพานลงไปสู่เกาะกลาง เดินตามทางในเดาักลางไม่ไกลมากจนไปถึงป้อมผีเสื้อสมุทรแล้วเลี้ยวซ้ายจะเห็นเป็นกำแพงโบราณมีตัวอักษรคำว่าป้อมผีเสื้อสมุทร และระหว่างทางเดินก่อนเข้าไปด้านในป้อมจะมีร้านขายน้ำเล็กๆ และใกล้กันนั้นจะมีพิพิธภัณฑ์ ป้อมผีเสื้อสมุทร พอออกจากพิพิธภัณฑ์ป้อมผีเสิ้อสมุทรถัดต่อไปจะเจออาคารเก่าอิญแดงมีป้ายเขียนไว้คือ คลังทุ่นระเปิด แต่ข้างในไม่มีระเปิดแล้วนะ เป็นอาคารกว้างโล่งแต่จะมี โขนเรือ เจ้าแม่ปาราวา ตั้งให้สักการะอยู่ด้านใน เรื่องนี้ยังไม่ขอขยาย แต่ถ้าใครได้ไปเที่ยวแล้วต้องไปอ่านประวัติและศึกษากันตามศรัทธาและความเชื่อของแต่ละบุคคลกันเอง และใกล้อาคารคลังทุ่นระเบิดก็จะเห็นสะพานปูนที่เดินไปหาแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะเห็นอนุสาวรีย์พระรูปองค์บิดาของทหารเรือไทย หันหน้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และหลังองค์พระรูปจะมีซุ้มไม้ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารเรือที่คอยดูแลดอกกุหลาบให้บุคคลทั่วไปสักการะพร้อมมีกล่องบริจาคค่าดอกไม้ตามศรัทธา แต่จากคำแนะนำของนายทหารฝ้าดอกกุหลาบแจ้งว่าคนจะมาเที่ยวช่วงเย็นเสาร์และอาทิตย์มากกว่าปกติ ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมและรายละเอียดโครงการสร้างพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ค้นหาได้จากเฟสบุคของกองทัพเรือไทย Royal Thai Navy ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์และได้ทำพิธีเชิญพระรูปปั้นประดิษฐานเรียบร้อยแล้วภายใต้โครงการ 120 ปี เสด็จนิวัติมาตุภูมิ พร้อมได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมมาตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 มาแล้วและมีผู้ที่รู้ทางประวิติศาสตร์เขียนเรื่องของพระองค์ท่านอยู่บนกูเกิลจากหลายแหล่งด้วยความเคารพ วันนี้ในฐานะผู้แนะนำที่เที่ยวเดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพ ฯ แถมงบน้อย เลยอยากแนะนำคนที่ชอบเที่ยวแนวประวิติศาสตร์แถมสภาพธรรมชาติ พร้อมได้ไหว้พระทำให้จิตใจสบาย อยากให้ได้เที่ยวเช่นกัน ข้อมูลเบื้องต้นจากใจของผู้เขียนวัยกลางคน