เมื่อฉันต้องถูกประเมินภาวะซึมเศร้าการเจ็บป่วยที่เรื้อรังของฉัน ส่งผลให้ตัวฉันเองและคนรอบข้างวิตกกังวล เครียด เนื่องจากต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเครียดสะสมเนื่องจากความสามารถในบทบาทหน้าที่ที่เคยทำได้ลดลง ความสามารถในการคิดตัดสินใจลดลง คนที่อยู่รอบข้างบางครั้งก็ปรับตัวได้บางครั้งก็ปรับตัวไม่ได้เครียดไปด้วยกัน จึงคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องไปหาจิตแพทย์เพื่อประเมินภาวะซึมเศร้า เพื่อหาสาเหตุและป้องกันรักษาต่อไปเมื่อไปหาจิตแพทย์ ได้แบบประเมินภาวะซึมเศร้าแบบแรกเป็นคำถามมา 2 ข้อ คือ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาคุณรู้สึกหดหู่ เศร้า หรือท้อแท้สิ้นหวังหรือไม่ และ คุณรู้สึกเบื่อ ทำอะไรไม่เพลิดเพลินหรือไม่ ซึ่งคำตอบของฉันก็คือ มีทั้ง 2 ข้อ ซึ่งแปลผลได้ว่า ฉันมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้า ดังนั้น ฉันจึงถูกส่งให้ไปประเมินแบบประเมินภาวะซึมเศร้า 9 คำถามคำถามล้วนเกี่ยวกับอาการของคนที่เป็นโรคซึมเศร้า โดย มีคำถามเกี่ยวกับ ใน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา คุณมีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยเราต้องให้คะแนนแต่ละข้อแล้วนำมารวมกัน จึงจะแปรผลได้ มีคำถามเกี่ยวกับ ความเบื่อ ไม่สนใจอยากทำอะไร ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้ หลับยาก หรือหลับมากเกินไป เหนื่อยง่าย หรือ ไม่ค่อยมีแรง เบื่ออาหาร หรือ กินมากเกินไป รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่า ตัวเองล้มเหลว หรือ ทำให้ตนเองหรือครอบครัวผิดหวัง สมาธิไม่ดีเวลาทำกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้ความตั้งใจ พูดช้า ทำอะไรช้าจนคนอื่นสังเกตเห็นได้ หรือกระสับกระส่ายไม่สามารถอยู่นิ่งได้เหมือนที่เคยเป็น และ คิดทำร้ายตนเอง หรือคิดว่าถ้าตายไปคงจะดี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นอาการที่ฉันเป็นอยู่ปรากฏว่า ฉันได้คะแนน รวมถึง 18 ซึ่งเป็น ภาวะซึมเศร้าระดับกลาง เกือบจะรุนแรง ซึ่งจากจุดนี้ฉันจะสามารถพัฒนาอารมณ์ซึมเศร้ารุนแรงขึ้นได้ จนมีผลกระทบต่อชีวิตครอบครัวและการงาน แต่ยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้แต่อาจจะไม่สมบูรณ์ อาการเหล่านี้มักเป็นมากในช่วงเช้า คือ รู้สึกไม่มีความสุข เบื่อหน่ายต่อสิ่งต่าง ๆ อ่อนเพลีย รู้สึกตนเองไร้ค่า ตำหนิตนเอง หงุดหงิด ร้องไห้ง่าย โกรธง่าย กังวลกับสุขภาพ หลีกหนีสังคม แยกตัว อาจคิดอยากตาย ไม่อยากอาหารและน้ำหนักลดลงหมอแนะนำให้ทำการค้นหาและประเมินปัญหาด้านจิตสังคม พูดคุยเปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึก และให้คนรอบข้างให้กำลังใจ แนะนำวิธีการคลายเครียดด้วยตนเอง เช่น การพูดคุยระบายความรู้สึก การนวด การฟังเพลง การทำสมาธิ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และแพทย์จ่ายยาให้ฉันมาส่วนหนึ่ง พร้อมทั้งฝึกปฎิบัติตามที่แพทย์แนะนำ หลังจากนั้นอาการของฉันก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนนิ่งคงที่ ฉันจึงอยากแนะนำให้คนที่สงสัยว่าตนเองมีอาการดังกล่าวข้างต้น ให้มีโอกาสไปทำการประเมินภาวะซึมเศร้า เพื่อจะได้รู้ผลว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ หรือถ้าเป็น มีอาการอยู่ในระดับไหน ซึ่งผลการตรวจประเมินก็จะทำให้แพทย์สามารถรักษาได้ตรงตามอาการต่อไป ขอบคุณภาพประกอบจาก www.pixabay.com ภาพประกอบที่ 1/ภาพประกอบที่ 2/ ภาพประกอบที่ 3/ ภาพประกอบที่ 4