“เปตอง..กีฬาฝึกจิต” ที่ผมใช้คำๆ นี้ ก็เพราะว่า กีฬาเปตอง เป็นกีฬาที่ใช้ความคิด ใช้ทักษะ ใช้สมาธิ ใช้ความอดทน ใช้ความนิ่ง ความสุขุม ในการเดินเกมระหว่างการแข่งขันตั้งแต่ต้นเกมจนจบเกม และใช้เทคนิคส่วนตัวของผู้เล่นหลายๆ อย่างรวมกันในระหว่างเล่น กีฬาเปตอง นอกจากจะเป็นกีฬาที่เราได้ออกกำลังกาย แขน และขาแล้ว ออกกำลังกายขา คือ ตอนที่เราเล่นเปตองในสนาม ถ้าเราเล่นใน 3 เกม ชนะ 2 ใน 3 ซึ่งในแต่ละเกมก็จะใช้เวลาไม่เท่ากัน อยู่ที่รูปแบบของเกมหรือรูปแบบการเล่นหรือแต้มของในแต่ละเกม ว่าแต้มไหลไหม ซึ่งในแต่ละเกมนั้นบางเกมอาจจะใช้เวลาแค่ 10 - 20 นาที แต่บางเกมก็อาจจะยื้อกันใช้เวลาครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงก็มี เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายขา ก็คือการที่เราได้เดินวนไปวนมาในสนามตั้งแต่เริ่มเกมจนจบในแต่ละเกม ออกกำลังของแขน คือ ลูกเปตอง ที่มีน้ำหนักพอสมควรนั้น การที่เรายกขึ้น ยกลง โยน ก็เป็นการบริหารกล้ามเนื้อนิ้ว ข้อมือ ข้อแขน และของลำแขนอย่างหนึ่ง กีฬาเปตอง นอกเหนือจากการออกกำลังกายทั้งแขนและขาแล้ว การเล่นเปตองคือการฝึกความอดทน ฝึกมีสมาธิ ฝึกการคิดวิเคราะห์ การประสานของทีมที่ช่วยกันคิดช่วยกันวางแผนในการที่จะโยนลูกให้แม่นเข้าเป้าให้มากที่สุดและการโยนลูกเพื่อตีลูกของต่อสู้อีกฝ่ายหนึ่งให้กระเด็นหรือให้กระจายจากจุดเป้าหมายให้มากที่สุด เพราะผู้ชนะก็คือคนที่ทำให้ลูกเปตองอยู่ใกล้จุดหมายที่กำหนดไว้ให้มากที่สุด ก็จะได้แต้มในแต่ละเกมนั้นไป เล่นไปจนถึงคะแนนที่เรากำหนดเป้าหมายไว้ร่วมกันว่ากี่แต้มถึงจะชนะในแต่ละเกม ภาพโดย ครูชอวร์ กวีหลังบ้าน กีฬาเปตอง เกิดขึ้นในประเทศไทยประมาณปี 2518 โดยการริเริ่มของนายจันทร์ โพยสาร ร่วมกับ นายศรีภูมิ สุขเนตร เป็นอดีตนักเรียนเก่าฝรั่งเศส ที่นำมาเผยแพร่ในประเทศไทย แต่ระยะแรกก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก จนต่อมาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ช่วยส่งเสริมและเผยแพร่โดยรับสั่งให้จัดการแข่งขันเปตองชิงชนะเลิศภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ซึ่งพระองค์ท่านและสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ได้ทรงลงร่วมแข่งขันในครั้งนี้ด้วย และอีกหลายๆ รายการ จึงเป็นสมญานามกีฬาเปตองว่า ”กีฬาสมเด็จย่า” ในปี 2527 สมเด็จพระศรีนครินทรทราบบรมราชชนนี ทรงพระกรุณา โปรดเกล้า ฯ ให้รับสมาคมเปตองและโปรวังซาล แห่งประเทศไทย ไว้ในพระอุปถัมภ์ฯ และวันที่ 22 เมษายน 2530 จึงเปลี่ยนชื่อสมาคมเปตองฯ เป็น สหพันธ์เปตอง แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ ภาพโดยครูชอวร์ กวีหลังบ้าน จุดเด่นของเปตอง คือการเสริมสร้างแนวคิด หลักความคิดสติปัญญาของผู้เล่นด้านการวางแผน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ และยังทำให้เราได้ออกกำลังกาย แขน นิ้วมือ ข้อมือ ข้อแขน ข้อศอก และหัวไหล่ โดยมีความสัมพันธ์รวมกันเกือบทั้งร่างกายเลยก็ว่าได้ การเล่นเปตองซึ่งเราต้องใช้ความคิด สติปัญญา กันเป็นทีม เมื่ออยู่ในสนามเปตอง ลูกเปตองก็ใช่ว่าคุณจะโยนแบบมั่วๆ เพื่อให้จบเกมไปก็หาใช่ไม่ เพราะก่อนที่คุณจะโยนคุณก็ต้องมีการวางแผนมีการพูดคุยกันในทีม ระดมความคิด การคาดคะเน การอ่านวิเคราะห์เกม ถึงจุดอ่อนจุดแข็ง ของตนเองและของฝ่ายตรงข้าม ว่าจะเล่นกับฝ่ายตรงข้ามยังไงให้เรามีชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้ เกมรุกเกมรับต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของในแต่ละเกมให้ทันท่วงที การพัฒนาทางด้านจิตใจ ซึ่งผู้เล่นต้องเข้าถึงจิตใจของผู้เล่นในทีมของตัวเองเป็นอย่างดี หรือที่เราเรียกว่าทีมเวิร์คนั่นเอง ต้องมีการปรึกษาหารือพูดคุยยอมรับฟังความคิดเห็นยอมรับการติชมของเพื่อนร่วมทีมว่าตัวของเราเองมีจุดอ่อนจุดแข็งยังไง เมื่อเพื่อนให้คำชี้แนะหรือให้คำติชม ควรจะรับฟังและโต้แย้งอย่างมีเหตุผล เพื่อการวางแผนไปสู่ชัยชนะของทีมร่วมกัน ผู้เล่นติดใจต้องสงบ ไม่วอกแวก มีสมาธิ กังวลให้น้อยที่สุด ถึงแม้เกมจะเสียเปรียบ เราก็ไม่เสียกำลังใจ ไม่ท้อถอย ไม่เสียขวัญ ต้องตั้งสติให้นิ่ง เพื่อ ให้ทีมคว้าชัยชนะมาให้ได้ การพัฒนาด้านสังคม กีฬาเปตองก็เป็นกีฬาที่เชื่อมสัมพันธ์ของคนในครอบครัว คนในชุมชน ในหมู่บ้าน หรือในสังคม เพราะเป็นกีฬาทีมที่เราจะต้องมีความปฏิสัมพันธ์ร่วมคิดร่วมวางแผนร่วมกับทีมของเรา ลูกเปตอง ต้องลวดลายที่ต่างกัน เพราะเวลาโยนในสนามจะได้ไม่เกิดความสับสนเข้าใจผิดว่าเป็นลูกของฝ่ายไหน ก่อนเล่นก็จะมีการเสี่ยงว่าใครจะเป็นฝ่ายโยนก่อน - หลัง โดยจะมีจุดเริ่มต้นเป็นวงกลมที่พื้นสนาม ห่างจากเส้นสนามประมาณ 1 เมตร ให้ฝ่ายชนะที่เสี่ยงทายโยนลูกเป้าไปในสนามให้ห่างจากจุดเริ่มต้นตามระยะ ดังนี้ - เด็ก 4 เมตร ไม่เกิน 8 เมตร - เยาวชน 5 เมตร ไม่เกิน 9 เมตร - ผู้ใหญ่หรือคนทั่วไป 6 เมตร ไม่เกิน 10 เมตร ก่อนจะเล่นกีฬาเปตองหรือกีฬาประเภทอื่นๆ ทุกๆ ครั้งที่เราต้องทำเหมือนๆ กันคือการวอร์มร่างกายให้พร้อมก่อน ก่อนที่เราจะเล่นกีฬานะครับ เพื่อความผ่อนคลาย ยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อฉีกไม่อักเสบในเวลาขณะที่เราเล่น ภาพโดยครูชอวร์ กวีหลังบ้าน เพื่อนๆ ที่ยังพอมีเวลาว่างในตอนเย็นๆ หรือ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือไม่ได้ไปไหนไกลๆ หรือเบื่อสังคมเมืองที่สับสนวุ่นวายที่คนส่วนมากก็จะไปเดินห้างดูหนังหรือเล่นเกมหรือทำอะไรอย่างอื่นกันในเมืองหลวง ถ้าเพื่อนๆ คนไหนชอบความสงบ ได้ออกกำลังกาย ได้ฝึกสมาธิได้เข้าร่วมสังคม ได้ฝึกจิตให้นิ่งสมาธิ กีฬาเปตอง ถือว่าเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่จะทำให้เราได้ออกกำลังกาย อย่างสงบ มีสติ มีสมาธิ และทำให้ร่างกายเราแข็งแรงด้วยนะครับ ภาพโดยครูชอวร์ กวีหลังบ้าน