ในวิชาภาษาไทย คำ ๆ หนึ่งที่มีผู้สะกดผิดเป็นประจำก็คือคำว้าอนุญาต โดยมักจะสะกดเป็นอนุญาติ แม้ว่าผู้ที่สะกดจะเป็นคนเรียนจบสูง เป็นคนฉลาด และทำงานเก่ง แต่เขาก็อาจจะสะกดคำนี้ผิดได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหลาย ๆ คน ถ้าคนที่สะกดผิดมีฐานะด้อยกว่าเรา เราก็จะกล้าตักเตือนเขา แต่ถ้าเขาเป็นคนที่ฐานะเหนือกว่าเรา เช่น เป็นเจ้านายเรา หรือพ่อแม่เรา เราก็จะไม่กล้าเตือนเขา แต่ตามหลักเหตุผลแล้ว เราควรจะเตือน เพราะถ้าหากเราไม่กล้าเตือนเขา เขาก็อาจจะไปหน้าแตกกับคนอื่น ซึ่งไม่เป็นผลดี เราจึงควรรวบรวมความกล้า บอกอย่างสุภาพว่าเขาสะกดผิด เพื่อให้เขาสะกดได้ถูกต้องคำนี้มีผู้สะกดผิดเยอะมาก จนทำให้ผู้เขียนต้องมาคิดว่าเพราะอะไร เมื่อวิเคราะห์ออกมาก็พบว่าคำว่า"อนุญาต" มีส่วนที่เป็นพยางค์ว่า "ญาต" ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า"ญาติ"ที่หมายถึงคนในวงศ์ตระกูลเดียวกันหรือคนที่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด สมองของมนุษย์มักจะเชื่อมสิ่งที่คุ้นเคยกันเข้าด้วยกัน จึงเชื่อมโยงไปด้วยสามัญสำนึกว่าคำนี้น่าจะเติมสระอิตรง ต. เต่า ไปโดยปริยาย และมีเมื่อผู้แย้งว่าตนเองเขียนผิด มักจะต่อต้านหัวชนฝาและอาจจะมีเรื่องกันได้ ในรายที่หัวแข็งและอีโก้สูงคนที่ไม่มีอีโก้สูงและมีความรู้ค่อนข้างดี จะรับฟังและแก้ไขได้ง่ายกว่าคนที่อีโก้สูงเมื่อตนเองสะกดผิด แต่อย่างไรก็ดี ผู้เขียนไม่คิดว่าคนที่สะกดผิดนั้นโง่หรือไม่มีความรู้แต่อย่างใด เพราะคำนี้เป็นคำที่กำหนดขึ้นมาไม่ค่อยตรงกับสามัญสำนึกในสมองของคนทั่วไป ในสมัยเด็ก ๆ ผู้เขียนก็คิดว่ามีสระอิ ตรง ต. เต่า เหมือนกัน แต่เพราะอาจารย์สอนหน้าชั้นจึงจำได้ ทำให้สะกดไม่ผิดการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ผู้ที่สร้างภาษากำหนดอย่างซับซ้อนเลยทำให้การสะกดคำศัพท์ผิดมีอยู่ทั่วไป มีหลายคำอีกเหมือนกันที่เป็นไปในทำนองเดียวกัน คือในสามัญสำนึกน่าจะสะกดแบบนี้ แต่กลับสะกดอีกอย่าง เช่น คำว่า"กราฟิก" ที่หมายถึงการออกแบบงานศิลป์ คนทั่วไปมักสะกดเป็น"กราฟฟิค" ตามภาษาอังกฤษ รวมทั้งคำว่า"แอปเปิล" ที่คนทั่วไปมักสะกดผิดเป็น "แอ๊ปเปิ้ล"ก็เช่นกัน คำเหล่านี้สะกดที่ตรงกับความคุ้นชินและภาพที่จดจำของมนุษย์ จึงทำให้มีการสะกดผิดเป็นประจำนั่นเอง ไม่ใช่ว่าคนที่สะกดผิดเป็นคนไม่เก่งแต่อย่างใด แต่มันเป็นเรื่องของอารมณ์และความคุ้นชิน ซึ่งทางแก้ไขสำหรับการใช้ภาษาเหล่านี้คือการสร้างสื่อการสอนที่ปรับโครงสร้างจิตใต้สำนึกให้ผู้เขียนหลักภาษาเข้าใจลึกซึ้งถึงแก่นของมันอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้การสะกดผิดลดลง และปัญหาในการใช้สื่อขององค์กรต่าง ๆ จะลดลง ประสานงานกันได้ง่ายขึ้น ทางโรงเรียนและผู้สอนภาษาไทยจำเป็นต้องหาวิธีการสอนให้นักเรียนจำตัวสะกดที่ถูกต้องเข้าไปในโครงสร้างของสมองระดับจิตใต้สำนึก และบอกที่มาที่ไปของคำศัพท์แต่ละคำ ด้วยวิธีการสอนที่น่าสนใจ รวมทั้งทำสื่อเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจได้ง่าย ๆ ด้วย จึงจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรทำได้แล้วในยุคสื่อออนไลน์เป็นใหญ่ ก่อนที่การใช้ภาษาจะผิดเพี้ยนไปมากกว่านี้และก่อให้เกิดความเสียหายด้านโครงสร้างของภาษาไทยอันเป็นสมบัติเก่าแก่โบราณของบรรพบุรุษไทย การแก้ไขในเรื่องนี้ไม่น่าจะยากเกินไปนัก สำหรับโลกดิจิทัล เพียงแต่ว่าเราจะต้องสร้างวิธีการถ่ายทอดที่น่าสนใจและดึงดูดให้คนจดจำ โครงของสมองคนจึงจะลบภาพความคุ้นชินนั้น และใส่ความจำที่เหมาะสมเข้าไปแทน อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย ก็จะสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องทำอย่างซีเรียส เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง เพียงแต่ถ้าสามารถแก้ไขได้ก็ควรแก้ไขจะดีกว่านั่นเองเครดิตภาพหน้าปก https://pixabay.com ดินสอภาพ1 การเรียนการสอน https://pixabay.com การฝึกอบรมภาพ2 คุณครูhttps://pixabay.com นักธุรกิจภาพ3 ตำรา https://pixabay.com หนังสือภาพ4 นก https://pixabay.com การศึกษาภาพ5 เวลา https://pixabay.com การทำงาน