อื่นๆ

วันวานกับยุทธจักรช่างตัดผม

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
วันวานกับยุทธจักรช่างตัดผม

"รองทรงสูงครับ" ผมบอกทรงผมที่ต้องการกับช่างร่างยักษ์ อายุราว 50 กว่าๆ เขาชี้มือไปที่เก้าอี้ตัดผมสีแดง ท่าทางค่อนเก่ามากกว่าใหม่ เชื้อเชิญให้ผมขึ้นนั่ง ผมทำตามเหมือนโดนสะกดจิต หลังจากนั้นหัวผมก็อยู่ในมือช่างที่ยืนตระหง่านอยู่ข้างหลัง

ร้านตัดผมนี้อยู่ภายในหมู่บ้าน ห่างจากบ้านผมหลายซอยอยู่ ผมซัดเซพเนจรมาที่นี่ได้ ก็เพราะว่าร้านประจำในตลาดปิด ส่วนร้านที่เหลือก็แน่นเอี๊ยดเลย จำต้องฝากหัวไว้ที่นี่อีกสักครา

ี้้รัานตัดผมในหมู่บ้านตลาดนิคมบางปู มีร้านตัดผมชายใหญ่ๆ อยู่ สองสามร้านแค่นั้น นอกนั้นเป็นร้านเล็กๆ เราจะนับว่าร้านไหนเล็กใหญ่กว่ากัน ก็ดูจำนวนเก้าอี้ตัดผมนั่นเอง ถ้ามี 4 โต๊ะขึ้นไปก็เรียกได้ว่าร้านใหญ่แล้ว

ร้านใหญ่จับกลุ่มลูกค้าใหญ่ ราคาหัวไม่เกิน 100 บาท ร้านเล็ก ร้านน้อยที่เกิดใหม่ บางร้านก็เลือกเดินตามร้านใหญ่ บางร้านประกาศตัวตนชัดเจนว่าเป็นแนวแฟชั่นจ๋าเลย ราคาต่ำสุด 200 บาท เรียกว่าอยู่คนละชั้นเลย

Advertisement

Advertisement

ผมเคยเป็นมือกระบี่ให้หนึ่งในสามเจ้าถิ่นของตลาดนิคมบางปูฯ รับเป็นงานนอกเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ฝีมือระดับมัธยมปลายเท่านั้น มีโอกาสได้เรียนรู้กับบรรดาบรมครูหลายคน ช่างแต่ละร้านก็พอรู้จักกันอยู่บ้าง เพราะยุทธจักรนี้ไม่ได้กว้างขวางอะไรนัก

ช่างไก่ หนุ่มใหญ่วัย 40 ปลายๆ เป็นครูคนแรกของผม แกมีร้านเล็กๆ อยู่ข้างตลาด ผมมีโอกาสฝากตัวเข้าเป็นศิษย์ฝึกงานในร้าน จุดเด่นของช่างไก่ คือฝีมือการตัดที่เนียนและเฉียบขาดมาก วินเทจ หรือรองทรงทั่วไป ไม่เกินมือแกหรอก ให้บริการในราคา 80 บาท หนุ่มๆ กัมพูชา หลายคนเอาหัวมาให้แกจัดทรงให้ หน้าเสียดายเจ้าของที่สั่งรื้อตึกเก่าออกเพื่อทำตึกใหม่ แกจึงระเห็ดไปอยู่อีกฟากถนนโดยที่ผมไม่ได้ตามไปด้วย

พี่หวังเพื่อนสนิทของพี่ไก่ แต่แนวทางและวิธีคิดต่างกันอยู่บ้าง เป็นครูคนที่สองของผม ฝีมือทั้งสองคนไม่ต่างกันเลย แต่ทรงผมที่พี่หวังตัดจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ เลียนแบบยากสุดๆ

Advertisement

Advertisement

ภาพชินตาของหนุ่มๆ เวลาที่เดินเข้าร้านตัดผม"ร้านตัวเองก็เคยมีแล้ว" พี่หวังมักจะเปรยขึ้นเวลาที่ดีกรีได้ที "ทำแล้วเจ๊ง ทำไปทำไม รับจ้างเขาแบบนี้แหละดีแล้ว ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร"

เรื่องส่วนตัวของแกที่ผมรู้มา แกเคยเปิดร้านของตัวเองจริง ด้วยฝีไม้ลายมือเข้าขั้นกระบี่มือหนึ่งในยุทธจักรย่านนั้น แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบร่ำสุราอยู่เป็นเนื่องๆ นานวันเข้าร้านตัดผมก็ไม่ใส่ ภรรยาก็เอือมระอาเต็มที บทสรุปสุดท้าย เสียร้าน เสียภรรยา เหลือลูกชายคนหนึ่งไว้ให้

แกโยกย้ายข้ามถิ่นมาหากินแถวตลาดนิคมฯ เข้าร้านใหญ่หน้าปากซอย ผมยังเคยเป็นลูกค้าแก ก่อนผมจะเข้ายุทธจักรด้วยการเป็นศิษย์ช่างไก่ด้วยซ้ำ  คงเป็นวาสนาครั้งเก่าก่อน เราจึงมาเจอกันอีกครั้งในฐานะลูกจ้างเหมือนกันในร้านตัดผมใหญ่อีกหนึ่งร้านของตลาด ร้านนี้อยู่ลึกเข้าไปเกือบกลางซอย

"ตั้งแต่หวังมาอยู่ด้วย ลูกค้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว" พี่ยา ช่างหนุ่มใหญ่วัย 52 ปี เจ้าของร้านเปรยให้ผมฟัง พลางบ่น "เสียดาย เวลามันเมาที เป็นหายหัวไปสองถึงสามวัน"

Advertisement

Advertisement

พี่หวังอยู่กับพี่ยาได้สามปี แกก็กลับไปตายที่รังเก่า ร้านใหญ่หน้าปากซอยอีกครั้ง แต่อยู่ได้ไม่นานแกก็หายตัวไปเฉยๆ ไม่ปรากฎตัวอีกเลย

พี่ยาเป็นครูคนสุดท้ายในยุทธจักรนี้ของผม ไม่มีความสงสัยใดๆ ในฝีไม้ลายมือของแก แม้จะไม่โดนเด่นเหมือนช่างไก่ และช่างหวัง ถึงกระนั้นลูกค้าของร้านก็แน่นตลอด

ผมเคยได้รับค่าแรงต่อวันมากสุดเกือบ 2 พันบาท แต่นั้นก็ต้องแลกมากับการทำงานแบบไม่ได้นั่งเลยตั้งแต่ร้านเปิดแปดโมงเช้ายันร้านปิดตอนสามทุ่ม แต่หลังๆ มากิจการซบเซาหนัก

เหตุก็มาจากพฤติกรรมของพี่ยาเอง ร่ำสุราเป็นน้ำ พอดีกรีได้ที่ก็ออกลาย อาละวาดทั่วร้าน หาเรื่องทะเลาะกับใครต่อใครไปทั่ว มาประจวบกับที่เสียลูกน้องมือหนึ่งอย่างพี่หวังไปอีกคน ลูกค้าที่เอือมระอาอยู่ก็พลอยหายไปด้วย

ผมอยู่กับพี่ยาต่อไปได้เพียงอีกไม่กี่เดือน ก็ตัดสินใจล้างมือจากอ่างทองคำ ออกจากยุทธจักรอย่างสิ้นเชิง

ร้านตัดผมประจำของผมที่ตลาดครั้งหลังสุดผมได้ข่าวว่าแกทะเลาะกับภรรยาอย่างหนัก แล้วก็ทิ้งร้านไปเลย ปล่อยให้ลูกเขยเป็นคนดูแลต่อ เช้านี้ตอนผมผ่านหน้าร้านแก ผมเห็นยังมีป้ายติดประกาศรับสมัครช่างตัดผมอยู่ ไม่ต่างจากตอนที่ผมเดินออกมาคราวนั้นเลย

"เรียบร้อยครับ" ช่างร่างยักษ์ปลุกผมหลังจากเขานวดไหล่นวดแขนจนผมเกือบจะเผลอหลับจริงๆ

ผมสำรวจความเรียบร้อยของทรงผมกับกระจกบานใหญ่ตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย ฝีมืออาจไม่โดนเด่นเป็นหนึ่งในยุทธจักร แต่ก็ไม่เลวร้ายอะไร ผมจ่ายเงิน 80 บาท แล้วก็เดินออกจากร้าน.

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์