ขอต้อนรับเข้าสู่เรื่องเล่าแห่งถิ่นนี้ ถิ่นบางกระเจ้า นะครับ สำหรับหลาย ๆ คนคงจะคุ้นหูอยู่บ้างกับชื่อคุ้งบางกระเจ้า หรือบาง คนอาจเคยรู้จัก “ตลาดบางน้ำผึ้ง เกาะกระเพาะหมู นครเขื่อนขันธ์” หรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกถึงบริเวณพื้นที่ทรงกระเพาะหมูแห่งนี้ครับเรื่องแรกที่เราอยากเล่าคือ เรื่องบ้าน ๆ แบบมอญ ๆ หลากหลายแง่มุมที่น่าสนใจของดินแดนที่ขึ้นชื่อได้ว่า เป็นผืนแผ่นดิน แหล่งพำนักใหม่ของชาวมอญสังขละบุรีในอดีต“ถิ่นบางกระเจ้า เล่าเรื่องมอญ”ศิลป์และศาสน์ที่แทรกอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของที่แห่งนี้ ยังคงหลงเหลือให้เราได้สัมผัสผ่านวิถีชีวิตของผู้คน รวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขาด้วยมุมมองผ่านวัดมอญที่มีเอกลักษณ์แปลกตาไปจากวัดพุทธ์ธรรมดา ๆ แฝงความเชื่อคติชนที่ว่าด้วยการนับถือสิ่งเหนือธรรมชาติ อย่าง “ผี”เสาหงส์และธงตะขาบ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกตัวตนความเป็นมอญของวัดในแถบนี้ครับ โดยธงตะขาบนี้จะถูกทำขึ้นในช่วงก่อนสัปดาห์วันสงกรานต์โดยการร่วมมือของชาวบ้านและพระสงฆ์ที่ได้ทำสืบทอดกันมาจนปัจจุบันครับ โดยธงจะถูกชักขึ้นยอดเสาในช่วง เทศกาลสงกรานต์ เพื่อเป็นการประกาศต่อทั้งคนและสิ่งที่ไม่ใช่คนถึงงานบุญที่กำลังมาถึงและก็เหมือนกันทุกที่ ที่จะต้องมีตำนาน เรื่องเล่าลี้ลับที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมและสถานที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีประวัตินับร้อยปีแห่งนี้ ความเชื่อยังคงหนั่งรากลึกมาเสมอ อย่างวัดมอญในแถบนี้ทั้งหมดจะมีธรรมเนียมทางศาสนาที่ต่างไปจากพื้นที่อื่น อย่างที่ วัดทรงธรรมรวิหาร วัดมอญเก่าแก่ของที่นี่ ก็ได้บอกเล่าว่า หากจะทำพิธีศพของผู้ตายที่ลาโลกไปอย่างผิดธรรมชาตินั้น ไม่สามารถทำได้อย่างขั้นตอนปกติ หากแต่ต้องเก็บร่างไร้วิญญาณนั้นไว้ถึง 3 ปีเต็มก่อนนำมาทำพิธี(การตายผิดธรรมชาติหรือตายโหง เช่น การเกิดอุบัติเหตุ การฆาตกรรม การฆ่าตัวตาย) เพราะเชื่อว่าหากไม่ทำอย่างนั้นแล้ว วิญญาณจะเฮี้ยนมาก และคนตายจะไม่ไปไหน)แต่นอกจากความเชื่อ วัฒนธรรมมอญเองยังมีความสวยงามแบบเฉพาะตัวหลายอย่าง ที่เป็นเสนห์ให้ทุกคนตามไปสัมผัสกันการตกแต่งโบถส์แบบมอญโดยการติดกระเบื้องเคลือบอย่างประณีต ทำให้ผนังมีความสวยงาม สีสันสดใสสะดุดตาเป็นอย่างมากครับ การตกแต่งทางเข้าวัดด้วยสิงห์ ซึ่งเป็นศิลปะที่เราพบเห็นได้จากทางกรุงหงสาวดีในอดีต ก็เป็นภาพที่แปลกตาไปจากทางเข้าของวัดไทยมากหรือจะเป็นโบถส์แบบเก่าแก่ ที่ให้บรรยากาศเหมือนกับไปเที่ยวชมโบราณสถานที่เมืองทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ก็ให้อารมณ์ย้อยยุคกลับไปในอดีตอีกแบบดีครับจะเห็นได้ว่าอิทธิพลของศิลปะ วัฒนธรรม และความเชื่อต่าง ๆ ในบริเวณพระประแดงนี้ ได้มาจากการอพยพเข้ามาของชนชาติมอญในอดีต ซึ่งนอกจากจะแปลกตาไปจากศิลปะ วัฒนธรรมไทยแบบที่เราคุ้นเคยแล้ว ยังทำให้เห็นถึงรากเหง้าที่ชาวบ้านได้รักษาไว้ และยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันเรื่องเล่าจากเจ้าถิ่นมอญ ยังคงมีอีกหลายแง่มุมให้เราเข้าไปสัมผัส ซึ่งนอกจากเรื่องของวัดและความเชื่อแล้ว ย่านพระประแดงนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่โดดเด่น และรอการเล่าขานในโอกาศต่อไปครับโปรดติดตามตอนต่อไป