สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคนที่ค่อยติดตามผลงานของผมมาตลอด วันนี้ผมจะมาแนะนำหรือบอกเคล็ดลับดีๆ ด้วยการเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตของเราโดยที่เพิ่งพาลูกหลานให้น้อยที่สุด เพราะเราจะต้องเตรียมตัวไว้ก่อนและวางแผนไว้แล้วว่าในอนาคตเราจะใช้ชีวิตแบบไหน เพราะมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ต้องอาศัยสวัสดิการของนายจ้าง เพื่อให้มีฐานะที่ดีขึ้นครับ ทำงานมาทั้งปีเงินเก็บก็ไม่มี คุณเป็นแบบนี้บางไหมครับ ถึงเราจะมีเงินเข้าบัญชีทุกเดือนและเงินโบนัสทุกปี แต่กลับมานั่งย้อนดูสมุดบันชีเงินเดือนของเรากลับเห็นว่าไม่มีเงินงอกเงยขึ้นมาเลย เพราะกลายเป็นว่าในยามที่เราจำเป็นต้องใช้เงินกลับไม่มีเลย หลายๆคนก็พยามยามหา เทคนิคที่จะเก็บเงิน ทางอินเตอร์เน็ตบ้าง เพื่อที่จะมีเงินเก็บบ้างไว้ใช้ในอนาคตบ้าง ถ้าคุณเห็นบทความนี้แล้ว อยากให้คุณได้อ่านจนจบครับ เพราะในนี้จะมี เคล็ดลับการออมเงินมาฝากครับ กับ 5วิธีการออม ที่มนุษย์เงินเดือนใช้ ไปดูกันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง1.ทำประกันสังคมภาพถ่ายโดย Serpstat จาก Pexels เป็นเงินที่ถูกหลังจากบัญชีของเราทุกคนอยู่แล้วนะครับสำหรับคนทำงานทั้งในเอกชนและก็รัฐบาลนะครับทุกสิ้นเดือนทางบริษัทก็จะโอนเงินในบัญชีเราให้กับทางบริษัทประกันสังคมครับ ถามว่าเป็นเงินเก็บยังไง ตอบเลยครับว่าเป็นเงินเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นครับ เช่น เมื่อเรา ป่วยหรือเข้าโรงพยาบาลครับ เราก็สามารถนำเงินที่อยู่กับประกันสังคมมาเป็นค่ายาค่ารักษาต่างๆโดยที่เราไม่ต้องจ่ายเงินเองครับ แล้วก็เวลาเราเกษียณเราก็สามารถรับเงินเป็นก้อนจากประกันสังคมด้วยครับ สำหรับผู้เขียนเองนี่ก็เป็นวิธีการออมอีกแบบนะครับ2.เข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ภาพถ่ายโดย Michael Steinberg จาก Pexels กองทุนนี้เหมาะมากกับคนทำงานอย่างเราๆ ทุกคนครับ คนที่ทำงานออฟฟิศหรือทำงานโรงงานมีสวัสดิการ กองทุนนี้ไว้ให้เพื่อให้พนักงานออมเงินไปในตัว (ส่วนข้าราชการจะเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญ) โดยกองทุนเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ให้พนักงานออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณหรือออกจากงานครับ ส่วนทางบริษัทผู้เขียนเองได้กำหนดกองทุนนี้ไว้ว่า ถ้าพนักงานเข้าร่วมครบ 2ปี บริษัทจะจ่ายเงินให้เราเท่ากับที่เราฝากเข้าทุกเดือนครับ เช่น 2ปี ฝากเข้าเดือนละ 1,000บาทคูณ 2ปี เราก็จะได้เงินของบริษัท 1,000บาทคูณ 2ปีครับเท่ากับ48,000บามครับ (ผมแนะนำผู้เข้ามาอ่านทุกท่านนะครับถ้าบริษัทท่านมีกองทุนนี้อยู่ให้เข้าร่วมทันทีครับ)3.กำหนดเป้าหมายของตัวเองภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexels หลังจากที่เรามีกองทุนประกันสังคมและก็กองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วเราก็จะมาตั้งเป้าการออมของเราอีกครับ การที่เรานั้นมีเป้าหมายเราจะรู้ว่าเราจะไปทางไหนดี เราจะทำมันไปเพื่ออะไร แต่เราตั้งจัดลำดับให้ถูกต้องและชัดเจนมีวินัยต่อตนเอง เช่นตั้งเป้าไว้ว่าจะมี บ้าน มีรถ และมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง มีความสามารถในการดูแลผู้มีพระคุณของเราหรือมีเงินใช้ยามที่เราเกษียณแล้ว ว่า มูลค่าประมาณเท่าไร ปีไหน และจะเก็บเงินอีกเท่าไร เขียนไว้ในสมุดเล่มโปรดของเราครับ4. ทำบัญชีฝากประจำภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexels สำหรับเพื่อนๆ ที่คิดว่าตัวเองเพิ่งจะเริ่มต้นออมเงิน ผมอยากจะแนะนำวิธีนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งไว้เป็นทางเลือก คือ การสร้างวินัยให้กับตัวเองโดยการเปิดบัญชีฝากประจำในทุกๆ เดือนครับวิธีนี้จะช่วยให้เพื่อนออมเงินได้ในทุกๆ เดือนง่ายๆ เพียงแค่การตัดผ่านบัญชีเงินเดือนของเราในทุกๆ เดือนเพื่อสะสมไปเรื่อยๆ โดยมี 2 กลุ่มที่จะแนะนำครับ นั่นคือ ฝากประจำโดยไม่เสียภาษี กับ กองทุนตราสารหนี้ต่างๆครับสำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่รู้หรือไม่เข้าใจว่า 2 กลุ่มที่ผมแนะนำไปข้างต้น คืออะไร ของบอกว่ามันคือเงินฝากที่ไม่เสียภาษี คือ เงินฝากประจำประเภทหนึ่งที่กำหนดให้เราฝากประจำทุกเดือนเป็นจำนวนเงินที่เท่าๆ กัน คล้ายๆ กับที่เพื่อนผ่อนสิ้นค้าครับ ต้องจ่ายทุกเดือนครับ เช่น เดือนละ5,000บาท ติดต่อกัน 24เดือนครับโดยที่เราจะได้สิทธิ์พิเศษคือ ยกเว้นภาษีได้ครับ และจะไม่ถูกหักภาษีด้วย กองทุนตราสารหนี้ คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาท พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ เป็นต้นบัตรเงินฝากของธนาคาร ตั่วสัญญาใช้เงิน ตั่วแลกเงิน หุ้นกู้ต่างๆ เป็นต้นครับ (เพื่อนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้กับทางธนาคารครับ)5.ออมเงินในรูปแบบการออมหุ้นภาพถ่ายโดย Burst จาก Pexels สำหรับทางเลือกสุดท้ายนั้น ถือว่าเป็นการลงทุนและมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงเลยทีเดียว โดยหลักงานนั้นคือการเลือกออมหุ้นรายตัวครับ เริ่มที่ 1,000 บาท/เดือน ซึ่งตรงนี้แนะนำให้เลือกหุ้นให้ดีมองการเติมโตที่เหมาะสม และสมมารถถอนทุนเป็นระยะยาวได้ครับ และอย่าทุ่มเทลงทุนในหุ้นตัวเดียวมากเกินไปครับ เพราะถือว่ามี่ความเสี่ยงมากถึงมากที่สุดครับ เพื่อนที่เข้ามาอ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้างครับ เพื่อนๆ ที่คิดว่าตัวเองเหมาะกับข้อใหนก็ลองไปศึกษาเพิ่มเติมได้นะครับ ผ่านทางเน็ตหรือติดต่อคำปรึกษากับธนาคารได้เลยครับ เพราะทุกวันนี้มีความเจริญทางการสื่อสารต่างๆมากมายหลายช่องทาง สามารถเข้าถึงข้อมูลดีได้เร็วครับ ทั้งหมดที่เล่ามานะครับสำหรับคนทำงานควรเอาไปพิจารณาดูครับว่าตอนนี้เรามีอะไรบ้างแล้วและในยามที่เราเกษียณเราจะมีเงินก้อนเท่าไร เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรบทุกคนครับเราควรวางแผนไว้แต่เนินๆจะได้ไม่เสียดายในภายหลังครับ ทุกท่านลองไปปรับใช้กับชีวิตหรือกิจวัตรประจำวันของท่านดูนะครับเพื่ออนาคตของท่านเองครับขอบคุณภาพปกจาก@pexels