อื่นๆ

เจอดีเพราะมีบุญ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เจอดีเพราะมีบุญ

วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ‘วิสาขบูชาที่ไม่มีวันลืม’

วันวิสาขบูชาผู้ที่นับถือพุทธศาสนาย่อยรู้ซึ้งถึงความสำคัญของวันนี้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากทำบุญตักบาตรฟังเทศน์ฟังธรรมที่บ้านแล้ว  ยังมีบางคนที่ถือโอกาศรักษาศีล 8 อยู่วัดเพื่อปฏิบัติธรรม ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ครั้งนี้พระ

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน


หญิงสาวคนนี้เลื่อมใสในพระธรรมของพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว  ยิ่งวันสำคัญทางพุทธศาสนาแบบนี้ด้วยเมื่อน้องสาวของเธอชวนไปปฏิบัติธรรมจึงไม่แปลกที่เธอจะตกปากรับคำอย่างง่ายดาย  วัดที่น้องสาวของเธอพาไปนั้นเรียกได้ว่าติดกับชายแดนพม่าก็ว่าได้  เพียงข้ามทิวเขาไปก็เป็นดินแดนของประเทศเพื่อนบ้านแล้ว  น้องสาวของเธอเองก็ไม่เคยไปยังวัดแห่งนี้มาก่อน  เพียงแต่เคยได้ยินคนอื่นเล่าว่าวันแห่งนี้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สงบ  เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม

Advertisement

Advertisement

ในช่วงกลางวันเหตุการณ์เป็นไปอย่างปกติ  มีผู้ปฏิบัติธรรมมากหน้าหลายตามไม่ใช่เพียงแค่คนในพื้นที่เท่านั้นแต่วัดแห่งนี้แม้แต่คนที่อยู่ไกล ๆ ต่างจังหวัดก็ดั้นด้นจมมาถึง  หญิงสาว 2 พี่น้องปฏิบัติตัวด้วยความสำรวมเพราะหวังในบุญกุศลของการปฏิบัติธรรม  แต่เมื่อถึงเวลาใกล้จะเข้านอนคำพูดประโยคหนึ่งของผู้ที่เคยมาบวชที่นี่กลับทำให้หญิงสาวทั้ง 2 คนเกิดความระแวง  “ถ้าไปไหนตอนกลางคืนหรือจะเข้าห้องน้ำพาเพื่อไปด้วยนะลูกอย่าไปคนเดียว” แต่ความกลัวที่เกิดขึ้นภายในจิตใจไม่ได้มีความกลัวเรื่องผีเลยสักนิด  ด้วยบรรยากาศรอบด้านที่เต็มไปด้วยป่ารกทึบทำให้หัวใจสองสาวกลัวคนมากกว่า เที่ยงคืนกว่าน้องสาวของเธอเกิดอยากเข้าห้องน้ำจึงปลุกหญิงสาวให้ไปเป็นเพื่อน  ครั้นจะเรียกคนอื่นให้ไปด้วยก็เกรงใจคนอื่นที่กำลังนอน  ภายในศาลาที่พักปิดไฟหมดแล้วจะเหลือเพียงไฟไม่กี่ดวงที่เปิดทิ้งไว้ตามทางเดินให้ผู้คนได้มองเห็นเวลาจะออกนอกศาลาที่พัก  หญิงสาวทั้งสองคนเดินไปตามทางด้านข้างศาลาเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำ  ซึ่งไม่ได้ไกลจากตัวศาลาที่พักมากนักเมื่อน้องสาวเข้าห้องน้ำไปเธอจึงเลือกออกมายืนด้านนอกห้องน้ำแหนงหน้ามองท้องฟ้าซึ่งวันนี้พระจันทร์ดูงดงามกว่าปกติ นอกจากจะส่องสว่างสดใสเต็มดวงแล้วยังเปล่งรัศมีทรงกลดอย่างสวยงาม  ความสว่างจากแสงจันทร์ทำให้บรรยากาศรอบข้างไม่น่ากลัวนักเพราะสามารถมองเห็นต้นไม้ใบหญ้าได้อย่างชัดเจน  สายตาที่มองออกไปอย่างไม่มีจุดหมายของเธอนั้นก็ต้องสะดุดกับต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งที่กำลังเอนลำต้นไหวลู่ลมประหนึ่งว่าอยู่ภายใต้ลมพายุที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง หญิงสาวไม่ได้ตาฝาดแน่นอนเพราะระยะห่างไม่เกิน 100 เมตร  แต่………ในเมื่อต้นไม้ต้นนั้นไม่ได้ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่ทำไมตรงที่เธออยู่นี้ถึงไม่มีสายลมพัดผ่านมาเลยสักนิด  แม้จะไม่ได้ร้อนอบอ้าวแต่ก็ไม่มีลมแรงขนาดนั้นแน่นอน  ซึ่งต้นไม้ต้นอื่นไม่ไหวติงเลยสักนิดกริยาการไหวเอนประหนึ่งว่าจะโอนอ่อนติดดิน  จู่ ๆ เส้นขนทุกเส้นในร่างกายก็ลุกชันนับตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้าจากความสงสัยเริ่มกลายเป็นความกลัว  หญิงสาวรีบเคาะประตูห้องน้ำเรียกน้องสาวให้ออกมาเร็วๆ เมื่อน้องสาวเปิดประตูมาหญิงสาวรีบชี้ไปยังสิ่งที่เธอเห็น  ซึ่งปกติแล้วเวลาคนเจอผีมักเจอเหตุการณ์เพียงคนเดียว แต่น้องสาวเธอนั้นต้องตาค้างด้วยความกลัวเช่นกันภาพที่น้องสาวเธอเห็นกันภาพที่เธอเห็นไม่ได้แตกต่างกัน ต้นไม้กำลังไหวเอนอย่างบ้าคลั่ง หญิงสาวทั้งสองคนหันหน้ามาสบตากันแล้วรีบจูงมือเดินกลับศาลาที่พักทันที ต้นไม้

Advertisement

Advertisement

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน


รุ่งขึ้นหญิงสาวจึงได้คุยกันว่าสิ่งที่พบเห็นเมื่อคืนคืออะไร  แต่ในขณะที่หญิงสาวกำลังคุยกันอยู่นั้นมีคนอื่นได้ยินในสิ่งที่ 2 สาวพูดกันทำให้หญิงกลางคนผู้หนึ่งเอ่ยปากเล่าขึ้นมาว่า  บริเวณวัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเมืองลับแล  วันสำคัญเช่นนี้มักจะมีผู้คนที่มาปฏิบัติธรรมเห็นคนใส่ชุดขาวเดินเวียนเทียนรอบพระอุโบสถด้วยความสงบสำรวมท่ามกลางแสงจันทร์ของคืนวันพระใหญ่ ซึ่งไม่แปลกที่หญิงสาวจะพบเจอเหตุการณ์มหัศจรรย์เช่นเมื่อคืนนี้  อีกทั้งสิ่งที่หญิงสาวเห็นหญิงสูงวัยกล่าวว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของพญานาคที่เฝ้าถ้ำบริเวณนี้มาแสดงให้เห็นว่าท่านยังคงปกปักษ์รักษาบริเวณนี้อยู่ 'คนมีบุญเท่านั้นถึงจะได้เห็นเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้'

โบสถ์

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน


ไม่รู้ว่าสิ่งที่พบเจอคืออะไรกันแน่จะใช่อิทธิฤทธิ์ของพญานาคหรือไม่  แต่ที่แน่ ๆ เหตุการณ์เหนือธรรมชาติครั้งนี้ทำให้หญิงสาวและน้องสาวรู้ว่าสิ่งเหนือธรรมชาติยังมีอยู่จริง

Advertisement

Advertisement

หมายเหตุ:ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใด

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์