อื่นๆ

ศพในพงหญ้า

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ศพในพงหญ้า

โต้งกับตาลสองผัวเมียทำชีพรับจ้าง ทั้งสองพากันซ้อนมอเตอร์ไซค์ออกไปทำงานกันประจำทุกวัน บนเส้นทางเล็กๆ ผ่านป่ารกริมเขา  เพื่อเลาะเข้าไปรับจ้างทำสวนในหมู่บ้าน  พวกเขาขยันช่วยกันทำงาน  เพื่อเก็บเงินไว้เป็นทุนให้ลูกของเขาเรียนหนังสือ  บางวันถ้าตาลต้องทำงานที่สวนของตนเอง โต้งก็จะออกมาจับจ้างคนเดียว  ซึ่งเขาก็จะรับงานรับจ้างทุกประเภทไม่เคยเกี่ยง ทำให้เขามีงานรับจ้างอย่างไม่ขาดสาย

วันหนึ่งตาลต้องทำสวนอยู่กับบ้าน โต้งจึงต้องออกมารับจ้างคนเดียว และวันนั้นเขาทำงานเสร็จช้าจึงกลับบ้านค่ำ ระหว่างทางกลับบ้านเมื่อเขาขับผ่านทางแคบตรงแนวช่องภูเขา ที่เป็นป่ารก เขามองเข้าไปตรงที่เป็นพงหญ้าตรงป่าไผ่ข้างทาง เขาเห็นมีผู้หญิงนั่งอยู่ใต้โคนไผ่ ก็ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ เพราะค่ำมืดขนาดนี้ไม่น่าจะมีใครอยู่แถวนี้  อีกอย่างเขาขับผ่านทางนี้ทุกวัน ก็ไม่คุ้นหน้าหรือเคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน  เมื่อกลับไปถึงบ้านเขาก็รีบเล่าให้ตาลเมียของเขาฟัง  เมื่อได้ฟังที่โต้งเล่าตาลก็ตอบไปว่า “เค้าคงเป็นคนที่อื่นมานั่งรอเพื่อนมารับมั้ง ก็ไม่เห็นมีอะไรให้น่าเก็บมาคิดเลย”    เมื่อฟังดังนั้นโต้งก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ และพากันกินข้าวอาบน้ำนอน

Advertisement

Advertisement

วันรุ่งขึ้นทั้งสองก็พากันออกไปทำงานตามปกติ  โต้งก็ไม่ลืมที่จะชี้ให้ตาลดูว่า “นี่ไงตาลเมื่อวานพี่เห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งตรงโคนไผ่ในป่านั่น”

ตาลจึงตอบว่า “ยังไม่ลืมอีกหรอพี่ อย่าไปสนใจเลยรีบไปทำงานเถอะเดี๋ยวสาย”

โต้งก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปต่อ และเมื่อพวกเขาทำงานกันเสร็จตอนเย็นก็พากันกลับบ้านเช่นเคย  เมื่อถึงป่ารกตรงช่องเขา โต้งกับตาลเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินสวนมาโต้งก็ได้บอกกับตาลว่า “ตาลๆ คนนี้แหละที่พี่เห็นเมื่อวาน ทำไมมาเดินค่ำๆ แบบนี้เปลี่ยวจะตาย”

ตาลก็มองผ่านไปอย่างไม่ได้ติดใจอะไรเพราะคิดว่า  ผู้หญิงคนนั้นก็แค่เดินผ่านมาเฉยๆ คงจะเป็นคนจากที่อื่นมาเดินเล่น เมื่อถึงบ้าน โต้งก็พูดขึ้นว่า “พี่ว่าผู้หญิงคนนั้นดูแปลกๆ นะ ชอบไปอยู่แถวนั้นค่ำๆ มืดๆ “

ตาลจึงบอกว่า “พี่ก็อย่าไปสงสัยเรื่องของเขาเลย กินข้าวกันดีกว่า”

Advertisement

Advertisement

จากนั้นทั้งสองก็พากันกินข้าวนอนพักผ่อน  และเมื่อตื่นเช้ามาพวกเขาก็พากันไปทำงานเหมือนเดิม  แต่วันนี้พวกเขาได้กลิ่นเหม็นตุๆ ออกมาจากข้างทางที่เขาผ่าน  โต้งก็พูดขึ้นว่า “ต้องมีหมามาตายแถวนี้แน่เลย เหม็นเน่าเชียว”

ตาลก็ตอบว่า “พี่รีบขับไปเถอะเหม็นมากเลย”   โต้งก็รีบบิดมอเตอร์ไซค์ให้พ้นจากตรงนั้นไป

ตกเย็นเมื่อพวกเขาขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านก็เห็นผู้หญิงคนนั้นที่จุดเดิน แต่วันนี้ยืนกลางถนน  และพอโต้งขี่มอเตอร์ไซค์ไปใกล้ๆ ก็ทำท่าเหมือนวิ่งหนีเข้าไปให้ป่า แล้วหายไปในเงาสลัว  พร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่าที่โชยมา  ตาลบอกให้โต้งรีบขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านเพราะรู้สึกว่ามันแปลกๆ  เมื่อถึงบ้านพวกเขาก็คุยกันต่อโต้งก็พูดขึ้นว่า “พี่ว่ามันแปลกมากเลยนะผู้หญิงคนนั้นน่ะ  พรุ่งนี้ถ้าเจออีกว่าจะถามซะหน่อยจะได้รู้ว่าเธอมาทำอะไรแถวนี้”

Advertisement

Advertisement

ตาลก็นิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนั้นมาจากไหน

เช้าวันต่อมาทั้งสองก็ขับรถออกมาทำงานอีก เมื่อถึงปากรกที่เดิมก็ได้กลิ่นเหม็นมาก จึงตัดสินใจจอดเดินตามหาที่มาของกลิ่นดู โดยให้ตาลรออยู่ที่รถ โต้งเดินไปจนเกือบถึงป่าไผ่ เขาก็ต้องตกตะลึง เมื่อเห็นร่างคนถูกยัดไว้ในกระสอบ ในสภาพเน่าอืด เขารีบวิ่งออกมาแล้วพาตาลขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามผู้ใหญ่บ้านมาดูทันที

เมื่อผู้ใหญ่บ้านมาถึงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ได้เปิดกระสอบออกดูก็เป็นร้างของหญิงสาวสภาพเน่าอืด สันนิฐานว่าน่าจะตายมาไม่น้อยกว่า 5 วัน เมื่อโต้งกับตาลเห็นชุดที่ศพใส่อยู่ ก็จำได้ว่าเป็นชุดเดียวกับที่หญิงสาวที่เขาเห็นทุกวันใส่อยู่  เขาจึงรู้ทันทีว่า คนที่เขาเห็นทุกวันนั้น คือวิญญาณของหญิงสาวคนนี้นั่นเอง  ทำให้เขาทั้งสองกลัวมาก และหลังจากนั้นมาพวกเขาก็ไม่กล้ากลับบ้านในเวลาค่ำอีกเลย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์