อื่นๆ

มรดกเลือด

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
มรดกเลือด

สมพรอาศัยอยู่กับแม่สองคนอย่างยากจนที่หมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากตัวเมือง  วันหนึ่งได้มีไปรษณีย์มาส่งจดหมายให้เขาหนึ่งฉบับ   เขาแกะเปิดอ่านดู ในจดหมายได้เขียนว่า ให้เขาเดินทางไปรับมรดกในฐานะลูกชายของเศรษฐีคนหนึ่ง  ที่เสียชีวิตไปและได้เขียนพินัยกรรมไว้  สมพรจึงนำจดหมายนี้มาให้แม่ของเขาดู

แม่ของเขาได้เล่าว่า  “พ่อของลูกเป็นเศรษฐ์ใหญ่ของจังหวัด  แต่เมื่อแม่ตั้งท้องลูกได้เพียงสามเดือน พ่อของลูกพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในบ้าน แม่จึงหนีมา  พ่อของลูกก็พยายามตามหาเราสองแม่ลูกตลอด แต่แม่ไม่ยอมกลับไป เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พ่อของลูกได้ทำลง นี่เวลาก็ผ่านมาได้ 20 ปีแล้ว”

สมพรจึงถามแม่ว่า  “แล้วแม่คิดว่าผมต้องไปตามที่จดหมายบอกหรือป่าวครับ”

แม่จึงตอบว่า “ลูกควรไปใช้สิทธิ์ของลูก อย่างน้อยก็จะได้แสดงตัวว่าลูกเป็นลูกคนหนึ่งของพ่อ  การที่พ่อของลูกยกมรดกให้ก็แสดงว่าเขาอยากชดใช้สิ่งที่ทำไว้กับเราสองคน”

Advertisement

Advertisement

เมื่อสมพรได้ยินดังนั้นจึงตอบแม่ไปว่า “ครับแม่ผมจะทำตามที่แม่บอก ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันครับว่าพ่อของผมหน้าตาเป็นยังไง”

วันต่อมาสมพรได้ออกเดินทางไปรับมรดกตามที่อยู่ที่จดหมายบอก  ปกติแล้วสมพรไม่ค่อยได้ออกไปไหนการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขา แต่เขาก็มาถึงบ้านตามที่บอกไว้ในจดหมายจนได้ เขายืนอยู่หน้าบ้านและคิดในใจว่า “บ้านหลังนี้ช่างใหญ่โตเสียจริงๆ สมกับเป็นบ้านของเศรษฐี”  ขณะที่เขากำลังยืนอยู่ที่หน้าบ้านอยู่นั้น ก็มีคนเดินออกมาจากตัวบ้านแล้วถามว่ามาหาใคร สมพรจึงยื่นจดหมายให้คนในบ้านดู  เมื่อคนที่เดินออกมาเห็นจดหมายก็ได้พูดขึ้นว่า  “อ่อ สมพรหลานของลุงนั่นเองกำลังรออยู่พอดี คิดว่าจะไม่มาเสียแล้ว  ลุงคือลุงกล้าเป็นพี่ชายของพ่อเธอเองและเป็นผู้จัดการมรดกของพ่อเธอด้วย ยังไงเราเข้ามาคุยกันในบ้านก่อน” จากนั้นลุงกล้าก็พาสมพรเข้ามานั่งในบ้าน

Advertisement

Advertisement

สมพรก็ได้ถามลุงกล้าว่า “บ้านหลังนี้อยู่ใหญ่โตแต่ทำไมดูเงียบเชียบจังเลยครับ คนอื่นๆ ไปไหนกันหมดหรอครับ”

ลุงกล้าจึงตอบว่า “ตั้งแต่พอเธอเสียก็มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นหลายๆ อย่าง คนที่เคยอยู่บ้านนี้ก็เลยย้ายออกไปอยู่กันที่อื่น มีแค่ลุงที่คอยแวะเวียนมาที่บ้านหลังนี้เพราะเผื่อว่าสมพรมาจะได้มีคนต้อนรับ”

สมพรจึงถามลุงกล้าต่อว่า “แล้วพ่อของผมมีลูกทั้งหมดกี่คนหรอครับ”

ลุงกล้ายังไม่ทันจะตอบก็เดินไปหยิบรูปพ่อของสมพรมาให้ดู และพูดว่า “พ่อเธอมีลูกทั้งหมดสามคน มีเธอเป็นลูกคนโต  และเธอก็มีน้องชายคนหนึ่งและน้องสาวอีกคนหนึ่ง”

สมพรก็ถามว่า “แล้วเขาไปอยู่ไหนกันหรอครับ”

ลุงกล้าได้ตอบไปว่า “เสียไปแล้ว หลังจากที่พ่อเธอเสียไปไม่นานก็เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิตทั้งคู่”

สมพรนั่งนิ่งและรู้สึกได้ถึงความวังเวงขึ้นมาจึงไม่ถามอะไรต่อ  สักครู่ลุงกล้าก็หยิบซองเอกสารสีน้ำตาลที่ใส่พินัยกรรมออกมาให้กล้าดู เมื่อกล้าเห็นทรัพย์สินและตัวเลขในพินัยกรรมแล้วก็ทำให้เขาถึงกับตะลึง เพราะมันมีมูลค่ามหาศาล เขาคิดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับมรดกก้อนโตขนาดนี้

Advertisement

Advertisement

ลุงกล้าบอกกับสมพรว่า “บ้านหลังนี้ก็เป็นของเธอนะ คืนนี้นอนพักที่นี่ก่อนก็ เดี๋ยวลุงก็จะมานอนเป็นเพื่อน เสร็จแล้วพรุ่งนี้ก็จะให้ญาติๆ มารับฟังเรื่องมรดกกัน”

จากนั้นลุงกล้าได้พาสมพรไปที่ห้องนอนชั้นสองที่สวยงามและใหญ่โต เขารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เขากำลังจะได้รับ ซึ่งจะทำให้เขากับแม่สุขสบายไปทั้งชีวิต  พอถึงตอนค่ำลุงกล้าได้พาคนสวนที่ชื่อมิตรมาแนะน้ำให้สมพรรู้จัก พร้อมกับบอกว่ามิตรเป็นคนเก่าแก่ของที่นี่ มีอะไรก็เรียกใช้ได้เลย  จากนั้นลุงกล้าก็เข้าไปพักผ่อนในห้องชั้นล่าง ส่วนสมพรก็นั่งเล่นอยู่สักพักและกำลังจะเดินขึ้นห้องนอน ก็เห็นเหมือนมีใครเดินออกไปทางประตูหลัง  สมพรจึงเดินตามลงมาดูก็เห็นเหมือนผู้หญิงเดินออกไปทางสวนหลังบ้าน  แต่ยังไม่ทันจะเดินตามก็มีมือมาคว้าไหล่ของเขาจากข้างหลัง พร้อมกับพูดว่า “คุณสมพรจะไปไหนหรอครับดึกแล้วผมว่าขึ้นไปอยู่บนห้องดีกว่าครับ “

เมื่อสมพรหันมาก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “พี่มิตรนั่นเอง พอดีผมเห็นเหมือนผู้หญิงเดินอยู่ตรงนั้นน่ะครับจึงจะเดินไปดู”

มิตรจึงตอบว่า “บ้านหลังนี้ไม่มีใครหรอกครับมีแต่พวกเรา ผมว่าคุณสมพรขึ้นห้องนอนล๊อคประตูให้แน่นดีกว่าครับ ถ้าได้ยินเสียงอะไรก็ไม่ต้องออกมา”

สมพรก็ทำหน้างงๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และเดินกลับขึ้นไปบนห้อง เมื่อเขาเข้าไปในห้องได้สักพักเขาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากชั้นล่างเหมือนคนทะเลาะกัน  เขาจึงแง้มประตูออกมาแล้วมองลงไปที่ชั้นล่าง  เขาเห็นคนห้าคนยืนทะเลาะกันอยู่ซึ่งในนั้นมีลุงกล้าอยู่ด้วยต่างคนต่างเสียงดัง ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทุกคนนอนจมกองเลือด มีเพียงลุงกล้าเท่านั้นที่เป็นคนยิงปืนยืนอยู่ท่ามกลางศพที่นอนอยู่กับพื้น

ทันใดนั้นสมพรได้สะดุ้งตื่นจึงรู้ว่าสิ่งที่เห็นคือความฝัน  ขณะนั้นก็ได้มีเสียงคนมาเดาะประตูห้อง เมื่อสมพรเปิดห้องออกมาก็ไม่เห็นมีใคร  จึงจะเดินไปที่ห้องของลุงกล้า  พอเดินไปถึงชั้นล่าง เขาก็ต้องตกใจจนแทบช็อค เมื่อเห็นร่างของคนสี่คนยืนเลือดท่วมมองมาที่เขา เขาจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องทันที ขณะที่อยู่ในห้องก็ได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงทะเลาะกันโวยวายสลับกันไปมา  เขามารู้สึกตัวอีกทีในตอบเช้าเขาค่อยๆ เปิดประตูออกมามองลงไปที่ชั้นล่างเห็นลุงกล้านั่งอยู่ จึงรีบเดินไปถามลุงกล้าถึงสิ่งที่เขาได้เจอเมื่อคืน

ลุงกล้าจึงเล่าว่า “ลุงได้รับปากกับพ่อของเธอไว้ว่าจะจัดการกับมรดกที่พ่อเธอฝากไว้ให้เธอให้ได้ แต่ญาติพี่น้องคนอื่นรวมถึงน้องของเธอทั้งสองคนไม่ยอม และตกลงกันไม่ได้ จึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง เพราะพวกเขาไม่อยากแบ่งมรดกให้เธอทั้งที่พ่อของเธอก็จัดสรรให้อย่างเป็นธรรมแล้ว  ลุงโดนกดดันหนักมากขู่ว่าจะฆ่าลุง ลุงจึงตัดสินใจ ยิ่งพวกเขาตายหมดและให้มิตรนำศพไปฝังไว้ในสวนหลังบ้าน  และรอให้จัดการมรดกให้เธอเสร็จแล้วลุงก็จะมอบตัวกับตำรวจ”

สมพรรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่กล้าที่จะรับมรดกเลือดนี้มา แล้วด้วยเป็นสิทธิ์ของเขาที่เป็นทายาทคนเดียวที่เหลืออยู่ จึงยอมรับมรดกนั้นมา เขาแบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้แก่พ่อและญาติของเขาที่ตายไปถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยรู้จักกันก็ตาม

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์