เมื่อหลายปีก่อน จุเคยดั้นด้นมาปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ ถนนยังเป็นดินลูกรังแดง ๆ โดยเดินทางจากถนนสายเอเชีย เลี้ยวเข้าตัวเมืองอยุธยา พอมาถึงเจดีย์วัดสามปลื้ม เลี้ยวขวาอ้อมวงเวียน เข้าแยกไปทางตลาดน้ำ ระยะทางประมาณกิโลเมตรเศษ ๆ ก็จะถึงทางเข้าวัดมเหยงคณ์ ซึ่งมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน โดยในส่วนของสถานปฏิบัติธรรมนั้นอยู่บริเวณวัดมเหยงคณ์ที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ด้านใน ส่วนด้านหน้าทางเข้าวัดสองข้างทางเป็นวัดสีกาสมุด ( ร้าง ) และวัดมเหยงคณ์ ( ร้าง ) ขณะที่ปฏิบัติธรรมนั้น จุก็อยู่แต่ในส่วนของวัด ไม่เคยย่างกรายออกมานอกวัดเลย กระทั่งวันที่จะกลับ จึงได้แวะเข้าไปเดินเที่ยวภายในวัดมเหยงคณ์ร้าง ซึ่งพบว่าด้านในมีความน่าสนใจอยู่มาก แต่เวลามีน้อยเกินไป จึงบอกกับตัวเองว่า จะขอกลับมาอีกครั้ง ปัจจุบันนี้ วัดมเหยงคณ์เจริญมากขึ้น และจุก็เดินทางมาที่วัดมเหยงคณ์บ่อยขึ้น แต่ไม่ได้มาปฏิบัติธรรมนะคะ มาเที่ยวที่โบราณสถานวัดมเหยงคณ์ เพื่อเดินคุยกับเศษซากความเจริญ และอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวัดนี้ จนพบว่า วัดมเหยงคณ์ มีความทับซ้อนทางประวัติความเป็นมาอย่างน่าสนใจ จากข้อมูลพงศาวดารเหนือ บันทึกไว้ว่า พระนางกัลยาณี มเหสีของพระเจ้าธรรมราชา ในสมัยอโยธยา ( ก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยา) เป็นผู้สร้างขึ้น แต่สำหรับพงศาวดารของไทย ฉบับหลวงประเสริฐ ระบุว่า สมเด็จพระบรมราชาธิราช หรือเจ้าสามพระยา เป็นผู้สร้าง อย่างไรก็ตามความขัดแย้งนี้ สรุปได้จากการขุดค้นของกรมศิลปากร พบว่าโครงสร้างชั้นในของพระเจดีย์ สร้างขึ้นก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า วัดมเหยงคณ์ ได้รับการสร้างขึ้นในสมัยอโยธยา แต่ในสมัยเจ้าสามพระยามีการบูรณะและสร้างเพิ่มเติมจากโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แล้ว และต่อมาในปลายกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระก็ทรงบูรณะวัดมเหยงคณ์ ไปพร้อม ๆ กับพระอนุชา ( พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ) ที่ทรงบูรณะวัดกุฎีดาว ก่อนที่วัดจะร้างไปหลังกรุงแตก ความน่าสนใจที่ทำให้จุเดินทางไปที่วัดนี้บ่อยครั้ง คือ เจดีย์ที่มีช้างล้อม! เจดีย์แห่งนี้ เรียกกันว่า “เจดีย์ช้างล้อม วัดมเหยงคณ์” รูปแบบของเจดีย์เป็นทรงระฆังกลม มีช้างจำนวน 80 เชือกอยู่รอบองค์เจดีย์ มีการสันนิษฐานว่า น่าจะได้แนวคิดมาจากเจดีย์ชัย ของพระเจ้าทุษฐาคามินีมหาราชในประเทศศรีลังกา ซึ่งในประวัติของท่าน คือ ท่านชนช้างกับพวกทมิฬที่เข้ามารุกรานเกาะลังกาจนได้รับชัยชนะ หลังจากนั้นจึงโปรดให้สร้างเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาขึ้น โดยมีการสร้างช้างทรงของพระองค์ที่เจดีย์ด้วย สำหรับเมืองไทย มีการสร้างเจดีย์ที่มีช้างล้อมรอบ หลงเหลืออยู่ให้เห็น 3 แห่ง 3 จังหวัด คือ วัดมเหยงค์ จ.อยุธยา, วัดช้างล้อม ที่ จ.สุโขทัย และวัดช้างรอบที่ จ.กำแพงเพชร ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาทางรูปแบบการก่อสร้างเพียงเท่านั้น ส่วนช้างที่ล้อมรอบ จุเชื่อว่าเป็นปริศนาธรรมที่มากกว่าชัยชนะของพระเจ้าทุษฐาคามินีมหาราช เพราะช้าง ก็คือ สัตว์สำคัญและยิ่งใหญ่ตัวหนึ่งที่ค้ำจุนพระพุทธศาสนา รูปแบบศิลปกรรมที่พ้องกัน เป็นไปได้ว่าได้รับอิทธิพล แต่สิ่งที่ซ่อนไว้ในศิลปกรรมคือปริศนาธรรมของแต่ละพื้นถิ่น และนี่คือเสน่ห์ของวัดมเหยงคณ์ ที่จุไปเที่ยวซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง เพราะแค่เจดีย์ร้างของวัด ก็มีเรื่องเล่ามากมายให้เราทำความรู้จักผ่านการกัดเซาะของกาลเวลาแล้วค่ะ เครดิตภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน