กรุงศรีอยุธยา เมืองหลวงแห่งแรกของประวัติศาสตร์ประเทศไทย สถานที่ที่กำเนิดแผ่นดิน กำเนิดบรรพบุรุษ กำเนิดเรื่องราวและสะท้อนอดีตได้ดีที่สุด ดิฉันเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ อยุธยา เพราะเป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน แต่คุณรู้ประวัติศาสตร์อยุธยาได้ดีแค่ไหนกัน คนส่วนมากรู้จักอยุธยาในฐานะแหล่งท่องเที่ยว ไปถ่ายรูปลงรูปเพราะมันสวยดีแค่นั้น แต่หากคุณอยากรู้ประวัติศาสตร์อยุธยาแบบเข้าใจและลึกซึ้งจริงๆคุณต้องไม่พลาดที่จะอ่านบทความนี้ และหากคุณเป็นบุคคลที่หลงใหลในอยุธยาคุณก็ต้องไม่พลาดเช่นเดียวกัน ดิฉันเชื่อว่าถ้าคุณอ่านบทความนี้จบ คุณจะต้องได้เห็นอยุธยาอีกมุมหนึ่งที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ กรุงศรีอยุธยา ราชธานีที่เกิดขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักประวัติศาสตร์ แผ่นดินกรุงศรีอยุธยานั้นมีการผลัดแผ่นดินกันไปมาแล้วแต่ราชวงศ์ ซึ่งราชวงศ์ในอยุธยานั้นมีราชวงศ์ที่สำคัญอยู่ 5 ราชวงศ์อันได้แก่ อู่ทอง สุพรรณภูมิ สุโขทัย ปราสาททอง บ้านพลูหลวง ทั้ง 5 ราชวงศ์นี้ล้วนแต่มีส่วนช่วยให้กรุงศรีอยุธยามีความเจริญรุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์ จนปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนั้นกรุงศรีอยุธยาร่ำรวยมากในด้านการค้าขายเป็นอันดับต้นๆของแผ่นดินในยุคนั้น ซึ่งถ้าหากพูดถึงทำเลที่ตั้งที่พระเจ้าอู่ทองทรงเลือกนั้นต้องบอกว่าเป็นที่ตั้งราชธานีที่ชาญฉลาดที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องด้วยล้อมรอบด้วยคูน้ำ ติดเส้นทางเดินเรือ กำแพงเมืองหนาแน่นและสูงชันยากต่อการโคนล้มของฆ่าศึก แต่ที่ใดมีความเจริญที่นั้นย่อมมีการรุกราน ในยุคนั้นการทำศึกสงครามคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะทุกฝ่ายต่างก็ต้องการล่าอนานิคมเพื่อสร้างฐานเมืองของตัวเองกันทั้งนั้น แต่กรุงศรีอยุธยามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงปกครองเมืองอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ลูกหลานได้มีแผ่นดินยืนต่อไปในอนาคต และแม้จะมีสงครามที่กรุงแตกถึง 2 คราว (พ.ศ.2112 และ พ.ศ. 2310 ) แต่สุดท้ายพระมหากษัตริย์ของเราก็ทรงรบทวงคืนแผ่นดินได้ทุกครั้ง ดังชื่ออยุธยา เมืองของเทพผู้ไม่เคยแพ้ และถึงแม้ในปัจจุบันกรุงศรีอยุธยาจะไม่ใช่เมืองหลวงแล้วเนื่องจากถูกทำลายไปมาก แต่ยังคงเป็นพื้นแผ่นดินแห่งอดีตที่สะท้อนปัจจุบันได้ดีที่สุดอีกแห่ง เป็นเรื่องเล่าที่เล่ากี่ครั้งเราก็ยังรู้สึกภูมิใจกับความเสียสละและกล้าหาญของพระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์เสมอ ตอนนี้ทุกท่านคงพอรู้ประวัติของกรุงศรีอยุธยาอย่างพอเข้าใจแล้ว และหากทุกท่านสนใจที่จะเดินทางมาชมความสวยงามและความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยา สามารถเดินทางมาได้ทั้งรถส่วนตัวและรถไฟ สถานที่ใกล้กรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง และหากท่านได้มีโอกาสมาดิฉันของแนะนำสถาที่แห่งแรกก่อนเข้าชมโบราณสถาน เพราะท่านจะสามารถเข้าใจกรุงศรีอยุธยาได้ดีกว่าเดิมนั้นก็คือ พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา สถานที่ที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปและชิ้นส่วน ของมีค่า ที่อยู่ภายในโบราณสถานของกรุงศรีอยุธยา จากนั้นให้ท่านเดินทางเข้าสู่เขตพระราชวังโบราณของกรุงศรีอยุธยา ที่เป็นเขตพระราชฐานชั้นใน ท่านจะพบกับพระที่นั่งที่มีการบูรณะใหม่และของเก่า รวมถึงวัดในวังที่สำคัญในครั้งกรุงศรีอยุธยาไม่ว่าจะเป็น วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือที่รู้จักในชื่อวัดที่มีเจดีย์ 3 องค์ ที่บรรจุพระบรมอัฐฐิของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ อันได้แก่ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และชมวัดที่ยังคงมีความสมบูรณ์ที่สุดในครั้งอยุธยารุ่งเรืองจนถึงอยุธยาล้มสลายเป็นวัดที่อยู่นอกเขตพระราชฐาน คือ วัดหน้าพระเมรุ ที่พม่าใช้เป็นฐานในการจู่โจมอยุธยา จึงเป็นวัดเดียวที่ยังคงสมบูรณ์และไม่ถูกทำลาย นอกจากนี้ยังมีวัดที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันดีจากละครบุพเพสันนิวาส วัดไชยวัฒนาราม ที่ถูกสถาปนาโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง นอกจากนี้ยังมีวัดที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ วัดราชบูรณะ ที่สร้างโดยเจ้าสามพระยาถวายแด่สมเด็จพระอินทราชาหรือเจ้านครอินทร์พระราชบิดา และเป็นกรุสมบติที่มีโจรลักลอบเข้าไปขุด แต่สุดท้ายสมบัติทั้งหมดก็กลับคืนสู่แผ่นดินและถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา และสุดท้ายก่อนเดินทางกลับอย่าลืมแวะชม วัดมหาธาตุ แห่งกรุงศรีอยุธาที่ยังคงความสมบูรณ์และมีเศียรพระพุทธรูปที่อยู่ใต้ต้นไม้ สุดท้ายนี้ดิฉันหวังว่าหากทุกท่านได้มีโอกาสเดินทางไปใหม่ ทุกท่านจะเดินทางไปด้วยความประทับใจและภูมิใจในแผ่นดินเกิดและเรื่องราวของเมืองแห่งนี้จะถูกบอกเล่าไปอีกนาน กรุงศรีอยุธยาเมืองที่ไม่เคยแพ้. ภาพปกและภาพถ่าย:โดยผู้เขียนทั้งหมด