สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ วันนี้ดิฉันจะพาทุกท่านไปท่องโลกแห่งประวัติศาสตร์กันอีกเช่นเคย สำหรับใครที่เป็นสายชิล สายสืบ สายสำรวจ ต้องไม่พลาดสถานที่ท่องที่ยวในวันนี้นะคะ เพราะมีความพิเศษและมีเรื่องราวที่น่าหลงใหลอยู่มาก ที่จะทำให้พวกเราทึ่งไปกับร่องรอยทางโบราณสถาน ที่สะท้อนอดีตที่แสนรุ่งเรืองของอาณาจักรนามว่า อยุธยา ที่สำคัญถูกยกให้เป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม และโด่งดังจากละครแนวประวัติศาสตร์ อย่าง บุพเพสันนิวาส อีกด้วย และถ้าทุกท่านพร้อมจะไปท่องโลกกว้างกับดิฉันแล้วเราไปกันเลยค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวในวันนี้ ก็คือ วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นั่นเองค่ะ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฝั่งเดียวกับวัดพุทไธสวรรค์ แต่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะเมือง เปิดให้เข้าชมทุกวันค่ะตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น. มีอัตราค่าเข้าคนไทย 10 บาท ต่างชาติเด็ก 30 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท การเดินทางมาวัดแห่งนี้ก็ง่าย และสะดวกมาก ท่านจะขับรถมาที่อยุธยาเองก็ได้ หรือนั่งรถไฟแล้วต่อรถสองแถวมาวัดแห่งนี้ก็ได้เหมือนกันค่ะ ดิฉันเชื่อว่าหลาย ๆ ท่าน อาจจะรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อวัดแห่งนี้กันมามาก เนื่องจากในช่วงปีที่แล้วมีกระแสละครมาแรง เรื่องบุพเพสันนิวาส ได้มีการถ่ายทำและจัดทำ CG ให้วัดแห่งนี้มีความรุ่งเรือง และสวยงามเหมือนครั้งในอดีต ทำให้หลาย ๆ ท่านอาจจะได้เห็นภาพ ๆ นี้ออกไป และอยากที่จะมาสัมผัสด้วยตาของท่านเอง ประกอบกับทางอยุธยาได้จัดการท่องเที่ยว ย้อนรอยตามละคร คือ แต่งชุดไทยมาเที่ยวอยุธยานั่นเองค่ะ และถ้าใครไม่มีชุดไทยฝั่งตรงข้ามกับวัด มีชุดไทยให้เช่าด้วยนะไม่ต้องห่วง เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากย้อนรอยประวัติศาสตร์แบบเจ๋ง ๆ ต้องมาที่นี่เลย ในเรื่องราวของความเป็นมาของวัดแห่งนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ วัดไชยวัฒนาราม มีความหมายว่า ที่แห่งชัยชนะ หรือ สถานที่ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ วัดแห่งนี้ถูกสร้างโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เชื่อกันว่าสาเหตุที่สร้างมาจาก 2 สาเหตุที่สำคัญ คือ 1. สร้างเป็นที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพให้แด่แม่ คือ นางอออิน และ 2. สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ในตอนที่พระองค์รบชนะ ก่อนอื่นดิฉันจะขอท้าวความไปถึงประวัติของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ว่าท่านเป็นลูกของใคร สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เป็นบุตรของสมเด็จพระเอกาทศรถ และนางอออินหญิงสาวชาวบ้าน เชื่อกันว่าท่านอาจจะเป็นลูกที่เกิดแบบลับ ๆ ท่านเติบโตและเข้ารับราชการในวังตั้งแต่ตำแหน่งเล็ก ๆ ไปจนถึงตำแหน่งใหญ่ ๆ และสุดท้ายท่านก็ได้ปราบดาภิเษกขึ้นครองราช และสถาปนาราชวงศ์ใหม่ นามว่า ราชวงศ์ปราสาททอง หลังจากท่านขึ้นครองราชได้ไม่นาน ก็ได้มีการทำนุบำรุงศาสนา สร้างวัดหลายแห่ง รวมไปถึงวัดแห่งนี้ วัดไชยวัฒนาราม ภายในวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปมากมาย แต่พระพุทธรูปที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงโปรดให้สร้าง ก็คือ พระพุทธรูปทรงเครื่องแบบกษัตริย์ ถ้าหากท่านมีโอกาสเข้าไปในวัด ท่านจะเห็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะ ทรงเครื่องแบบกษัตริย์อยู่มาก นั่นก็เพราะสมเด็จพระเจ้าปราสาททองท่านทรงโปรดนั่นเองค่ะ ในส่วนของสถาปัตยกรรม ที่บ่งบอกความเป็นอยุธยามากที่สุด คือ พระปรางค์เป็นแบบทรงฝักข้าวโพด ซึ่งเป็นแบบเฉพาะของอยุธยา เจดีย์พระประธานสูงสง่า มีเจดีย์ทิศรายล้อมรอบพระปรางค์ บ่งบอกให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในยุคของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ที่สันนิษฐานกันว่าอาจจะเป็นเจดีย์ของเจ้าฟ้ากุ้ง หรือเจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ กับ เจ้าฟ้าเจ้าสังวาลย์ สนมเอกของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ที่ถูกทำโทษถึงแก่ความตายด้วยเรื่องลักลอบเป็นชู้กัน แต่เรื่องราวในความเป็นจริงนั้นใครจะรู้ได้ว่าแท้จริงเป็นอย่างไร กระดูกของทั้งคู่ได้ถูกนำมาฝังและสร้างเจดีย์เล็ก ๆ ครอบทับไว้บริเวณวัดแห่งนี้ด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งถ้าท่านไม่สังเกตท่านเองก็จะไม่รู้เลย ฉะนั้นถ้าท่านได้มีโอกาสกลับไปสถานที่แห่งนี้ใหม่ ก็อย่าลืมแวะไปดูเจดีย์แห่งนี้กันนะคะ วัดไชยวัฒนาราม ยังมีความสวยงามหลังท้องฟ้าลับ ที่ผู้คนต่างอยากมาดู เพราะในอดีตด้วยสถานที่แห่งนี้อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บวกกับพระปรางค์สีทองเหลืองอร่าม ทำให้ผู้คนที่พายเรือไปมาในสมัยนั้นต่างเล่าลือกัน ถึงความสวยงามของวัดแห่งนี้ สถานที่แห่งนี้ยังแอบแฝงความโรแมนติกไว้ด้วยนะคะ ถ้าใครมาช่วงเย็น ๆ คงได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินและแสงไฟที่ทางอยุธยาได้จัดให้มีแสงสะท้อนไปยังเจดีย์ในยามค่ำคืน ทำให้วัดแห่งนี้มีความขลังมากขึ้นไปอีก ในฐานะเด็กที่เรียนท่องเที่ยวมา ดิฉันขอยกให้เรื่องราวของวัดไชยวัฒนารามเป็นที่ 1 ในด้านสถานที่ที่สะท้อนเรื่องราวทางอดีตได้ดีที่สุดอีกแห่งค่ะ และสุดท้ายดิฉันหวังว่า เรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวในวันนี้ จะทำให้ทุกท่านได้ออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง แล้วพบกันที่วัดไชยวัฒนาราม เครดิตภาพปกโดย pixabay.com ภาพที่ 1 โดย pixabay.com ภาพที่ 2 โดยผู้เขียน ภาพที่ 3 โดย pixabay.com ภาพที่ 4 โดยผู้ขียน