ตามหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ไทยที่เราเรียนกันมา มีพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ครับ ที่สร้างคุณงามความดีไว้ให้แผ่นดิน หนึ่งในนั้น คือพระมหากษัตริย์สมัยอยุธยาพระองค์หนึ่ง นามว่า "พระบรมไตรโลกนาถ" ที่ปฏิรูปกฏหมายในสมัยอยุธยา กำหนดตำแหน่งศักดินา และออกกฏมณเฑียรบาลทั้งหมดเหล่านี้คือสิ่งที่เราทราบกันดีครับ แต่...เราเคยลองตั้งคำถามกันไหมครับว่า เหตุใดต้องปฏิรูป ? การปกครองแบบเดิมมีปัญหาหรือไม่ดีพออย่างนั้นหรือ ? ทั้งหมดเหล่านี้ ผมจะมาชำแหละให้ทุกท่านได้ลองมาอ่านกันดูครับว่า เหตุใด สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ จึงต้องปฏิรูปการปกครองอโยธยาศรีรามเทพนคร หรือ กรุงศรีอยุธยาของพวกเรานั้นเอง ภายในหัวข้อบทความที่ว่า "มองพระบรมไตรฯ เหตุใดต้องปฏิรูปอโยธยา" ต้องเกริ่นให้ฟังก่อนครับว่า ก่อนการปฏิรูปในสมัยพระบรมไตรโลกนาถนั้น อยุธยามีกฏหมายอยู่แล้วครับ ซึ่งตราขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทองแรกสถาปนาพระนคร เมื่อ พ.ศ.1983 ซึ่งต้องมองภาพรวมว่า กฏหมายนั้น ตราขึ้นแรกสถาปนาพระนคร....แล้วมันต่างกับสมัยพระบรมไตรโลกนาถอย่างไร.......ประการหนึ่งคือ สังคมในสมัยพระเจ้าอู่ทองกับพระบรมไตรโลกนาถต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยครับ ในเรื่องของความเป็นพหุวัฒนธรรม...เพราะอะไรหน่ะหรอครับ เพราะสมัยแรกสถาปนา แม้ว่าอยุธยาจะเป็นพื้นที่แหล่งค้าขายที่สำคัญ เป็นเมืองท่าก็จริง แต่แรกสถาปนามีปัจจัยหลายอย่างที่เพิ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัวไงครับ เหมือนกับท่านเริ่มเก็บเงินจากหลักสิบ ไปหลักร้อย จากร้อย ไปพัน แรกสถาปนาอยุธยาสังคมประชากรในอยุธยายังไม่ได้มีความหลากหลายมาก หากเทียบกับสมัยพระบรมไตรโลกนาถครับแล้วเหตุใด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มีหลักฐานอะไรรองรับ ต้องบอกว่า มีครับ สังคมของอยุธยาขยายตัวอย่างรวดเร็วครับ เพราะการมีศูนย์กลางย่อมดึงดูดทั้งทรัพยากรและผู้คนให้เข้ามาอยู่ที่อยุธยามาขึ้นอยู่แล้วครับ และที่สำคัญ "สงคราม" ที่อยุธยาไปตีเมืองต่าง ๆ มาและหลังได้ชัยชนะก็กวาดต้อนคนของเมือง ๆ นั้นมา เช่น อย่างในรัชกาลพระบิดาของพระบรมไตรโลกนาถ ได้ชัยชนะเหนือเมืองพระนคร หรือเขมรในปัจจุบัน ก็มีการกวาดต้อนคนจากเมืองพระนครมายังอยุธยาร่วมแสนคน....นี่แค่ในรัชกาลเดียวนะครับ ไม่รวมรัชกาลก่อนหน้า หรือปัจจัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะจากการค้าขายที่ดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาในอยุธยามากมายอีกนะครับ วัดมหาธาตุ สร้างสมัยพระบรมราชาธิที่ 1 ขุนหลวงพงั่ว ราชวงศ์สุพรรณภูมิพระองค์แรกที่เข้ามาครองอยุธยา https://bit.ly/3a48y0X ดังนั้นจากที่กล่าวไปทั้งหมดนี้เพื่อจะมีสรุปประเด็นแรกให้ฟังว่า กฏหมายสมัยพระเจ้าอู่ทองมีจริง แต่ในสมัยพระบรมไตรโลกนาถนั้น มันไม่ครอบคลุมผู้คนที่มีอยู่ในอยุธยาอีกแล้ว มันเกิดช่องว่างทางสังคม มันมีช่องโหว่ จากกฏหมายที่มีการออกมารองรับคนแค่ 5 แต่ในสมัยพระบรมไตรมันมีคนเป็น 10 - 20 คน ดังนั้นต้องแก้ไขและปรับปรุงให้มองเห็นบทบาทหน้าที่ของทุก ๆ คนในสังคมอยุธยา เพื่อการใช้ประโยชน์และดึงศักยภาพมาใช้กับราชสำนักให้ได้มากที่สุดไงครับ และประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งที่จำต้องตรากฏมณเฑียรบาลขึ้นมาเพราะ "ความไม่มั่นคงในราชบัลลังก์ อันมาจากความไม่เข้มงวดในการควบคุมพระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นปัญหาอยุธยาในรัชกาลก่อนหน้ามาอย่างยาวนาน" สังเกตได้เลยครับว่า รัชกาลก่อนหน้าพระบรมไตรโลกนาถนั้น แย่งชิงบัลลังก์กันอย่างดุเดือดมาก ไม่ว่าจะระหว่าง ราชวงศ์สุพรรณภูมิกับราชวงศ์อู่ทอง หรือจะพี่น้องเดียวกันแย่งบัลลังก์กัน เช่นในกรณีของ เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา โอรสในสมเด็จพระนครินทราธิราช แย่งชิงกันขึ้นครองบัลลังก์อยุธยา โดยการชนช้างยุทธหัตถี โดยประเด็นสำคัญที่ทำให้เกิดทั้งสองกรณีของการแย่งบัลลังก์กันนั้น คือ การที่แต่เดิมพระมหากษัตริย์ที่ครองอยุธยาจะส่งโอรสองค์โตไปครองยังเขตบ้านเมืองเดิมที่ตนเองมีอิทธิพลอยู่ โดยไม่มีการควบคุมอำนาจและกรอบเขตที่ดีพอ ทำให้เกิดการสร้างบารมีและสะสมกำลังคน ดังนั้น ถ้ากษัตริย์ที่อยุธยาไม่ว่าจะเป็นพ่อ หรือเจ้าต่างวงศ์สวรรคตเมื่อไหร่ โอรสหรือพระบรมวงศานุวงศ์ที่ถูกส่งออกไปครองเมืองยังเขตอื่น จะกลับมารบแย่งชิงบัลลังก์กันจนทำให้อยุธยาวุ่นวาย ไม่มีเสถียรภาพวัดราชบูรณะ สร้างสมัยเจ้าสามพระยา พระบิดาของพระบรมไตรโลกนาถ เพื่ออุทิศแด่พระนครินทราธิราชผู้เป็นบิดา และเจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยาผู้เป็นเชษฐาที่สู้กันจนสิ้นพระชนม์ https://unsplash.com/photos/CR00r_UrIIc ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงเล็งเห็นแล้วว่า เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกทั้งสองข้อ เพราะขนาดของคนมีจำนวนมากขึ้น แต่กฏหมายรองรับไม่พอ พระบรมวงศานุวงศ์ที่มีแต่จะแย่งชิงอำนาจกันเองเพราะไม่มีการคุมความประพฤติ ไหนจะศึกกับล้านนาทางเหนือที่จะเข้ามาประชิดอยุธยาอีก ทำให้หากพระบรมไตรโลกนาถไม่ทำให้อยุธยามีเสถียรภาพจากภายในให้ได้ ด้วยการ "จัดระเบียบ" ทั้งสังคม ผู้คน ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ ให้อยู่ใต้พระราชอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ มองเห็นหน้าคนทุกกลุ่มในสังคมอยุธยาได้ชัดเจน นี่จึงเป็นการปฏิรูปเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ให้อยุธยาอย่างแท้จริงครับ ด้วยการ เพิ่มขนาดของกรม และยศตำแหน่งขุนนางให้มากขึ้น จัดระเบียบการปกครองระดับหัวเมือง ไม่ว่าจะตั้งสมุหพระกลาโหมดูแลคุมทหาร และสมุหนายกดูแลราษฏร และตั้งระบบศักดินาเพื่อแบ่งชนชั้นให้ชัดเจน ว่าใคร มีฐานะอะไรในสังคม มีสิทธิ์มากน้อยเพียงไร และการตรากฏมณเฑียรบาลขึ้น โดยกำหนดบทบาทของพระบรมวงศานุวงศ์ว่ามีหน้าที่หรือสิทธิ์ในการขึ้นครองบัลลังก์เพียงไร โอรสของใครจะได้เป็นกษัตริย์ในอนาคตจะได้ชื่อว่าหน่อพุทธางกูร และที่สำคัญคือ พระบรมวงศานุวงศ์ต้องอยู่ในอยุธยาเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการออกไปซ่องสุมกำลังคนได้อีก มหาเจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ หนึ่งในสามนั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระบรมไตรโลกนาถ https://unsplash.com/photos/6dMtbq7iyYc จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือการมองอยุธยาในสมัยพระบรมไตรโลกนาถครับว่า ท่านมองเห็นว่าอยุธยานั้น มีปัญหาจากเนื้อในบางอย่าง อันเป็นผลมาจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของสังคมในอยุธยา จึงทำให้กฏหมายที่มีอยู่เดิมไม่สามารถรองรับหรือใช้ประโยชน์กับผู้คนเหล่านั้นได้เพียงพอ และอยุธยาที่มีปัญหาไม่มั่นคงอยู่ร่ำไป เพราะไม่มีการออกกฏควบคุมความประพฤติของพระบรมวงศานุวงศ์ที่เพียงพอ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ออกไปสร้างฐานกำลังคนได้ ทำให้สุดท้ายจะกลับมาทำลายอำนาจอยุธยาเอง ดังนั้น ทั้งหมดนี้จึงผลักดันให้พระบรมไตรโลกนาถ "ต้องแก้ไข'' และทำอย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ และพระองค์ก็ทรงทำได้สำเร็จจริง ๆ ดังที่เราได้เรียนกันมา ทำให้อยุธยาในรัชสมัยของพระบรมไตรโลกนาถมีเสถียรภาพมาก แม้ในภายหลังต่อมายาวจนถึงเสียกรุงศรีอยุธยาทั้งครั้งที่ 1 และ 2 สิ่งที่พระบรมไตรโลกนาถได้ทำไว้ ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการแย่งชิงบัลลังก์ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ในสมัยพระองค์ ทรงทำสำเร็จ และทำให้อยุธยามีเสถียรภาพในอำนาจมาอีกหลายรัชกาลเลยครับ ปล.เหตุของการใช้ชื่อหัวข้อว่า "อโยธยา" นั้นเพราะอิงตามหลักฐานชื่อเมืองอย่างเป็นทางการเดิมว่า สมัยพระบรมไตรโลกนาถนั้น ชื่อพระนครอย่างเป็นทางการของอยุธยาคือ อโยธยาศรีรามเทพนคร เครดิตภาพหน้าปก : https://pixabay.com/