ประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา และ ประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งที่สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย แต่ความเข้าใจในรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองอาณาจักรนั้น ยังเป็นเรื่องราวที่ถูกกล่าวถึงน้อยมากนะครับสำหรับในที่สาธารณะหรือธรรมดาที่ประชาชนควรได้รู้นอกจากสงครามกับพม่าของอยุธยา ซึ่งต้องบอกเลยครับว่า ในช่วงที่อยุธยาสถาปนาอาณาจักรขึ้นมานั้นมีรายละเอียดมากมายที่เป็นท่าทีที่สำคัญของอยุธยา ที่พยายามจะ "รวมอำนาจ" กับกลุ่มบ้านเมืองต่างๆในตอนกลางของลุ่มเจ้าพระยาและเมืองอื่นๆโดยรอบ เพื่อแสดงความเป็น "ศูนย์กลาง" ไม่ว่าจะแสดงผ่านการแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ทางเครือญาติ และการทูตหรือการทหารต่างๆ โดยสุโขทัย คือหนึ่งในเมืองที่ อยุธยา ต้องการจะแผ่ขยายอำนาจขึ้นให้ถึงแน่นอนครับ โดยผมจะขอสรุปบริบททางการเมืองแบบรวดรัดให้ทุกท่านได้อ่านและเข้าใจง่ายกันนะครับว่า อยุธยา เขามีท่าทีกับสุโขทัยแบบไม่ได้เป็นมหามิตร แต่เป็นการต้องการเอามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรแต่แรก โดยผมนั้นจะไม่เน้นเรื่องตัวเลข พ.ศ. มาก เพราะเชื่อว่ามีหนังสือของเหล่าอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิให้ได้อ่านกันและเข้าใจดีแล้ว ผมจึงจะขอนำเสนอเรื่องราวภาพรวมแบบเล่าเรื่องให้ฟัง แต่จะเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เชิญรับชมและอ่านกันได้เลยครับ โดยในช่วงแรก หลังสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเมื่อปี พ.ศ.1893/ค.ศ.1351 โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) ในตอนนั้น กรุงศรีอยุธยาได้มีอำนาจเพราะความร่วมมือกันช่วยสถาปนาอำนาจของ 2 ราชวงศ์ จากรัฐทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างละโว้ และรัฐทางตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสุพรรณบุรี ทำให้มหาอำนาจที่กุมอำนาจอยุธยามี 2 ตระกูล (อารมณ์เหมือนกลุ่มทุนธุรกิจใหม่ 2 กลุ่มนายทุนในปัจจุบัน)โดยทางฝั่งของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 นั้น มีหลายทฤษฎีก็จริงครับถึงที่มาที่คลุมเครือของพระองค์ แต่ในที่นี้ผมขอใช้ทฤษฎีที่ว่า พระองค์เป็นเชื้อสายละโว้นะครับ โดยในรัชกาลของพระองค์นั้น ท่าทีการขยายอำนาจของอยุธยา มีท่าทีมุ่งไปทางฝั่งนครวัด (เขมร) โดยให้ตัวของอีกราชวงศ์หนึ่งจากสุพรรณบุรี ดูแลความสัมพันธ์กับ สุโขทัยไป (ให้ขุนหลวงพะงั้วจากสุพรรณบุรีดูแล) และพระเจ้าอู่ทองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางสุโขทัยอยู่เพราะอะไรหน่ะหรอครับ ?? ....ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นครับว่า อยุธยากำลังพุ่งเป้าไปยังฝั่งตะวันออกของตัวเอง คือ นครวัด แต่ถามว่า สุโขทัยอยู่ในแผนที่อยุธยาอยากจะขยายอำนาจไปหรือไม่ ต้องบอกว่า ผมเชื่อครับว่าอยู่ในแผนการเช่นกัน แต่แค่ว่าอยุธยาก็คงไม่อยากเปิดศึกหลายด้านไปพร้อมกันครับ และอำนาจอยู่ที่ราชวงศ์อู่ทอง(สายละโว้) ดังนั้นจึงต้องดำเนินนโยบายตามแต่ที่ราชวงศ์นี้กำหนด แต่หลังการสวรรคตของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) สมเด็จพระราเมศวรผู้เป็นพระราชโอรส ก็ทรงเสด็จลงมาจากเมืองละโว้และเข้าครองราชย์สืบต่อ แต่ได้ไม่นานครับ ราว 1 ปี ขุนหลวงพะงั้วซึ่งมีฐานะเป็นพี่เขยของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) ก็ได้เข้ามาครองย์กรุงศรีอยุธยาแทน โดยสมเด็จพระราเมศวรได้เสด็จกลับไปครองย์เมืองละโว้ (ลพบุรี) ดั่งเดิม แต่....นั้นไม่ได้สำคัญสำหรับบทความนี้ครับ เพราะผมกำลังจะบอกว่า...นโยบายการเมืองเปลี่ยนครับหลังการเข้ามาครองราชย์ในอยุธยาของขุนหลวงพะงั้ว หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 นโยบายการขยายอำนาจไปทางนครวัด เปลี่ยนมาเป็นไปทางเหนือ ขึ้นไปทางสุโขทัย โดยตั้งแต่ก่อนขึ้นครองราชย์แล้วครับที่ขุนหลวงพะงั้วจากราชวงศ์สุพรรณบุรีมีความคิดนี้ โดยได้ไปรบกับสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชที่ 1 (ลิไท) และเหตุประการหนึ่งที่ทำให้พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ของสุโขทัยต้องย้ายเมืองหลวงใหม่มายัง พิษณุโลกนั้น ก็ด้วยเหตุของการขยายอำนาจจากอยุธยาและล้านนาที่กำลังเข้าข่มเหงสุโขทัยอย่างหนักนี้แหละครับ วัดมหาธาตุ อยุธยา สร้างในรัชสมัยขุนหลวงพะงั้วแห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ https://pixabay.com/th/photos/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4-1552897/ ที่ผมกล่าวให้เห็นเช่นนี้ เพราะจะเริ่มเห็นแล้วว่า ราชวงศ์เปลี่ยนสาย การเมืองเปลี่ยน จากที่ดีดีๆไม่คุกคามกันมากมายในสมัยราชวงศ์อู่ทอง พอมาในราชวงศ์สุพรรณบุรีเป็นใหญ่ สุโขทัยก็โดนอยุธยารุกคืบอย่างหนักจนแทบจะหายใจรดต้นคอเลยหล่ะครับ จนสุโขทัย กลายเป็นหนึ่งในเมืองขึ้นของอยุธยาในที่สุด ในช่วงราชวงศ์สุพรรณภูมินี่แหละที่เป็นรูปธรรมอย่างมาก และอยุธยาก็พยายามแทรกแซงการเมืองสุโขทัย โดยพยายามกลืนสุโขทัยที่ละเล็กละน้อย แต่แน่นอนครับว่าก็เจอปัญหาอยู่เช่นกัน เพราะทางเหนือของสุโขทัยก็มีอาณาจักรล้านนาที่กำลังรุ่งเรืองเช่นกัน ก็ต้องการพื้นที่ของสุโขทัย ทำให้ลุกลามกลายเป็นสงคราม อยุธยา vs ล้านนา โดยมีสุโขทัยเป็นพื้นที่สมรภูมิ และเป็นนางเอกที่ทั้งสองอยากได้ไปครอบครองเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นมาเรื่อยครับ กษัตริย์สุโขทัยเองก็รู้ตัวดีว่าสู้บารมีอยุธยาไม่ได้ เพราะแพ้ในทุกกำลัง แต่ก็ต้องการดำรงมีอำนาจต่อไป ในท้ายที่สุดนั้น แม้ว่าเหตุการณ์ในกรุงศรีอยุธยาจะมีการแย่งชิงอำนาจกันแทบจะทุกรัชกาล แต่ในท้ายที่สุด ราชวงศ์สุพรรณภูมิก็ได้ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในอยุธยาสำเร็จ นั้นก็หมายถึง จุดจบของสุโขทัยต้องมาถึงเช่นกันครับ.................................................................................................................ในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระราชโอรสในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ซึ่งก็ตรงกับรัชกาลของพระมหาธรรมราชาธิราชที่ 4 (บรมปาล) ของสุโขทัย ต้องบอกครับว่า ตอนนั้นในกรุงศรีอยุธยามีความวุ่นวายยุ่งเหยิงมากมายเกิดขึ้นและตัวของพระบรมไตรโลกนาถก็ได้เห็นและทราบ ทรงเข้าใจถึงบริบทเหตุการณ์ครับว่า อยุธยาต้องได้รับการจัดระบบเสียใหม่ และจัดการระบบหัวเมือง และอำนาจให้มีรายละเอียดมากขึ้น เนื่องจากสมัยนั้น อยุธยาเติบโตจากการค้าและการสงครามมาก มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาอาศัย กฏหมายเดิมที่ตราขึ้นสมัยพระเจ้าอู่ทอง ไม่เพียงพอต่อการควบคุม และการส่งโอรสไปหรือเชื้อพระวงศ์ไปครองเมืองลูกหลวง ก็กลายเป็นปัญหาที่บ่อนทำลายเสถียรภาพอยุธยาเสียเหลือเกิน และมีศึกกับล้านนาอีก ทำให้รัชกาลพระบรมไตรโลกนาถ จึงต้องจัดการแบบจริง ๆ จัง ๆ หนึ่งในนั้นคือ อำนาจสุโขทัยวัดราชบูรณะ สร้างในรัชกาลเจ้าสามพระยาแห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ พระบิดาในพระบรมไตรโลกนาถ https://pixabay.com/th/photos/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4-1552901/ เนื่องจากสมัยพระบรมไตรโลกนาถ อำนาจกษัตริย์สุโขทัยไม่ได้มีแล้ว และอยู่ในความเห็นชอบของอยุธยา ที่มีสิทธิ์ชี้ว่า ใครจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นกษัตริย์สุโขทัย การจัดอำนาจใหม่ของพระบรมไตรโลกนาถ คือการตรากฏมณเฑียรบาลและกฏหมายต่างๆให้มีความละเอียดมากขึ้น และจัดการจัดลำดับหัวเมืองต่างๆ และเข้าใจว่า พระบรมไตรโลกนาถก็คงจะมองว่า ถึงเวลาเสียที ที่ต้องจัดการรวมเอาพื้นที่ในอำนาจของสุโขทัยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยา เพื่อที่จะได้จัดการเปิดศึกกับล้านนาได้แบบถนัด จึงทำให้ เดิมที่ตัวของพระมหาธรรมราชาธิราชที่ 4 (บรมปาล) จะต้องได้รับความเห็นชอบให้เป็นกษัตริย์จากพระบรมไตรโลกนาถแห่งอยุธยา ก็กลายเป็นว่าพระองค์ทรงให้การยอมรับอำนาจเป็นเพียงเสมือน "เจ้าเมือง"แน่นอนครับว่า พระมหาธรรมราชาธิราชที่ 4 (บรมปาล) ไม่พอใจ จึงนำกำลังคนหนีไปเข้ากับตัวพระเจ้าติโลกราช และเปิดศึกกับอยุธยาเพื่อหวังอำนาจคืน และก็กลายเป็นสงครามยืดเยื้อระหว่างอยุธยาและล้านนาตลอดรัชกาลพระเจ้าติโลกราชแห่งล้านนา กับ พระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา แต่ ตรงนี้ผมจะไม่ขอกล่าวถึงอีก เพราะสิ่งสำคัญที่จะบอกก็คือ....การกระทำของพระบรมไตรโลกนาถบอกออกมาได้อย่างเต็มปากว่า คือการรวบเอาสุโขทัยเขามาเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอยุธยาแบบ 100% เต็มแล้วครับ เพราะ ถ้าเป็นเมืองประเทศราช ก็จะมีกษัตริย์หรือเจ้าของเดิมปกครองตนเอง แต่การแต่งตั้งคนไปครองย์เมืองหรือให้ยศเป็นเพียงเจ้าเมืองนั้น สื่อถึงการเป็น หนึ่งในดินแดนของอาณาจักรอยุธยาแบบเต็มรูปแบบครับ จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ อาจจะยาวมากหน่อยก็จริงครับ แต่รายละเอียดเบื้องลึกและอีกหลายด้านนั้นยังมีอีกมากมาย ที่อยู่ในบทความนี้เป็นการสรุปแบบพยายามให้สั้นที่สุดแล้วครับ เพื่อให้เห็นว่า อยุธยานั้น มีท่าทีอยากจะได้สุโขทัยเป็นเมืองในดินแดนของตนเองแต่ไหนแต่ไรอยู่ก่อนแล้ว เพียงแค่ดำเนินนโยบายแบบเนียนๆ และขึ้นอยู่กับกษัตริย์แต่ละรัชกาลด้วยว่าจะให้ความสำคัญหรือมีนโยบาลขยายอำนาจอย่างไร แต่ท้ายที่สุดแล้ว ปัจจัยทางการเมืองภายในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาและอำนาจที่อยุธยามีสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ก็เป็นตัวบีบให้พระบรมไตรโลกนาถทำการจัดระบบสังคมและอำนาจใหม่ ทำให้สุโขทัยถึงการต้องเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยาไปอย่างเต็มรูปแบบครับวัดพระศรีสรรเพญ์ เป็นการถ่ายแบบศิลปะเจดีย์แบบสุโขทัยมายังกรุงศรีอยุธยาในรูปแบบหนึ่ง https://pixabay.com/th/photos/thai-temple-archaeological-site-3098198/ อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนหนังสือ อยุธยา ประวัติศาสตร์และการเมือง : ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เครดิตภาพหน้าปก : นาย สรวิชญ์ ขุนเศรษฐ์