น้ำตาลสารให้ความหวาน ที่ถูกนำไปใส่ในอาหารเกือบทุกชนิด ทั้งคาวหวาน เป็นที่รู้กันดีว่าคนไทยเสพติดการทานหวานมาก จากการสำรวจของกรมอนามัยพบว่าคนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึงวันละ 20 ช้อนชา! บางคนเป็นถึงขนาดที่ว่า ต้องเติมน้ำตาลลงในอาหารทุกมื้อ ไม่หวานคือไม่อร่อย กินผลไม้ต้องจิ้มพริกเกลือ หรือแม้กระทั่งดื่มนมก็ยังต้องเป็นรสหวาน คุณกำลังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่รึเปล่า ? การทานน้ำตาลมากเกินไปมีผลเสียอย่างไร ? ใน 1 วัน เราทานน้ำตาลได้มากแค่ไหน ? ไปดูกันเลยครับ 1. น้ำตาลให้พลังงาน แต่ไม่ให้คุณค่าโภชนาการ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าน้ำตาลเป็นสารให้ความหวานที่ให้พลังงานกับร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่น อารมณ์ดีทำงาน ทำงานคล่อง ก็มีประโยชน์นี่หน่าแล้วทำไมต้องจำกัดการกินล่ะ ? นั่นก็เพราะน้ำตาลให้แค่พลังงาน แต่ไม่ได้ให้คุณค่าทางโภชนาการใดๆ เลยครับ แล้วปกติร่างกายเราก็ได้รับน้ำตาลจากธรรมชาติอยู่แล้วจากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่เรากินอยู่ทุกวัน เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ผัก ผลไม้ ซึ่งการทานน้ำตาลเพิ่มเข้าไป ทั้งที่ร่างกายได้รับเพียงพออยู่แล้ว อาจส่งผลเสียให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมาอีกด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ 2. ปริมาณน้ำตาลที่ควรกินใน 1 วัน องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าไม่ควรกินน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา ซึ่งใน 1 ช้อนชา มีน้ำตาล 4 กรัม = ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกินวันละ 24 กรัม ฟังตัวเลขก็ดูเหมือนเยอะนะวันละ 24 กรัม แต่ ๆๆ รู้มั้ยว่าอาหาร เครื่องดื่มที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้มีน้ำตาลเท่าไหร่กัน ? ถ้ายังไม่รู้ วันนี้เรามีให้ดู 1. ชานมไข่มุก 1 แก้ว : น้ำตาล 11 ช้อนชา = 44 กรัม 2. กาแฟเย็น 1 แก้ว : น้ำตาล 11 ช้อนชา = 44 กรัม 3. ชาเขียวเย็น 1 แก้ว : น้ำตาล 11 ช้อนชา = 44 กรัม 4. น้ำส้ม 1 ขวด : น้ำตาล 11 ช้อนชา = 44 กรัม 5. นมถั่วเหลือง 1 ขวด : น้ำตาล 6 ช้อนชา = 24 กรัม จะเห็นว่าเครี่องดื่มยอดฮิตทั้งหลายมีน้ำตาลเกินกว่าที่ร่างกายต้องการทั้งนั้น ใครไม่อยากเป็นเบาหวาน แนะนำให้งดดื่ม ชา กาแฟ หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็สั่งหวานน้อย หรือดูข้อมูลโภชนาข้างกล่องก่อนซื้ออาหารมารับประทาน ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราคำนวณปริมาณน้ำตาลที่ทานเข้าไปได้ครับ Source : https://www.thaihealth.or.th/Content/ https://health.mthai.com/howto/health-care/24283.html https://www.doctor.or.th/article/detail/1147 Cr. ภาพประกอบ https://www.pobpad.com/ https://www.honestdocs.co/how-to-consume-sugar-safely https://www.google.com/search?