วัดลิเจีย อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ในประเทศไทยของเรา มีสถานที่ท่องเที่ยวและโบราณสถานที่สวยงามมากมาย ทั้งที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เช่น น้ำตก ภูเขา ถ้ำและโบราณสถานที่มนุษย์เราสร้างขึ้นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน อย่างเช่น เมืองเก่า โบราณสถาน วัด ที่มีมากมายในบ้านเราแม้บางสถานที่อาจจะเหลือแต่ซากปรักหักพัง แต่ก็ยังคงความงดงามแบบธรรมชาติ ทำให้เราได้รู้ถึงความเจริญทางวัฒนธรรมในยุคนั้นๆมากเพียงใด ซึ่งก็ยังได้มีการบูรณะบำรุงรักษาไว้สืบมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเที่ยวชม ผู้เขียนได้มีโอกาสไปทำบุญและท่องเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆ มากมาย ทำให้ได้เจอหลากหลายประสบการณ์ที่อยากจะแบ่งปัน ซึ่งมันถือว่าคุ้มมากๆ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยล่ะค่ะ จึงเป็นที่มาของคำว่า " ท่องเที่ยว ท่องธรรม " อย่างเมื่อครั้งที่ผู้เขียนกับเพื่อนๆได้มีโอกาสไปทำบุญกับคณะพระธุดงค์ 500 กว่ารูปได้เดินธุดงค์ผ่านสถานที่เหล่านั้นและท่านได้แวะพักจำวัดและทำภัตกิจ เช่นเมื่อครั้งที่ วัดลิเจีย อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นสถานที่เพื่อการเคารพบูชาและปฏิบัติธรรม ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.ปรังเผลอ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี บนถนนเลี่ยงเมืองบ้านโป่ง สาย 323 เป็นวัดที่สวยงามเมื่อมองเห็นพระเจดีย์สีทอง อร่าม ท่ามกลางขุนเขาสูงตระหง่าน รวมไปถึงวัดภูเขาทองและอุทธยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัดภูเขาทอง พระนครศรีอยุธยา วัดภูเขาทองพระนครศรีอยุธยาหรือที่ทราบกันอีกในชื่อวัดสระเกศวรมหาวิหาร มีจุดเด่นคือเจย์ดีภูเขาทองนั่นเอง ตั้งอยู่ห่างจากพระราชวังหลวงประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งวัดที่ได้เข้าไปทำบุญกับคณะพระธุดงค์ เมื่อครั้งที่ท่านได้จาริกธุดงค์ผ่านแวะพักจำวัดและทำภัตกิจก่อนออกจาริกต่อไป ภาพพระสงฆ์หมู่ใหญ่รวมตัวกันในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เสียงสวดมนต์ดังกึกก้อง ทำให้ย้อนนึกถึงสมัยพุทธกาล มันน่าตื้นตันใจจริง ๆ ค่ะ วัดภูเขาทองเป็นวัดโบราณแบบผสม ตั้งอยู่ห่างจากพระราชวังหลวงประมาณ 2 กิโลเมตร ตามประวัติศาสตร์ถูกสร้างขึ้นเมือ พ.ศ 2212 คราวที่พม่ารบชนะไทย แต่สร้างได้เพียงรากฐานของเจดีย์เท่านั้น ต่อมาเมื่อสมเด็จพระราเมศวร ได้ทรงกอบกู้เอกราชคืนมาได้ จึงได้โปรดให้สร้างเจดีย์แบบไทยขึ้นไว้เหนือฐานพระเจดีย์นั้นและได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเพื่อเป็นที่ระลึกและสักการะบูชา จึงจะสังเกตว่าฐานจะใหญ่กว่ายอดพระเจดีย์ อุทธยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อุทธยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นอีกหนึ่งโบราณสถานที่ได้ถูกบันทึกไว้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมหรือมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ภายในอุทธยานมีอาณาเขตกว้างใหญ่มากพื้นที่คลอบคลุมราว 3,000 ไร่ ซึ่งมีหลายวัดหลายสถานที่ที่ได้ถูกบันทึกไว้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมในเขตอุทธยานแห่งนี้ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน การเดินทางสะดวกมาก ๆ ค่ะ เพราะอยู่ใกล้ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านประตูน้ำพระอินทร์แยกไปทางหลวงหมายเลข 32 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้างทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสูพระนครศรีอยุธยาเลยค่ะ หากมีโอกาสต้องแวะไปเที่ยวชมโบราณสถานแห่งนี้นะคะและยังได้ทำบุญไปด้วย อิ่มบุญ อิ่มใจ อย่างน้อยก็ได้ระลึกถึงคุณของบรรพบุรุษ ที่ได้กอบกู้และรักษาบ้านเมืองให้คงอยู่จนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญเมื่อมาเห็นแล้วต้องประทับใจกับคงามงดงาม ความอัศจรรย์กับโบราณสถานแห่งนี้แน่นนอนค่ะ ครั้งแรกที่เห็นยังทำให้ต้องเกิดปีติ ตื้นต้นเลยค่ะ เมื่อคิดถึงว่าเมื่อก่อนบ้านเมืองเราจะรุ่งเรืองและงดงามขาดไหน ภาพประกอบ : โดยผู้เขียน, Amulet Academy, Relaxtrip 2018. com และ painaidii. com #กาญจนบุรี @พระนครศรีอยุธยา