กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของสยามประเทศอยู่ราว 417 ปี ตลอดระยะเวลานี้ กรุงศรีอยุธยาได้รังสรรค์ความยิ่งใหญ่ ทั้งทางการเมืองการปกครอง ศิลปะไทยต่าง ๆ ไว้มากมาย ความยิ่งใหญ่ของกรุงศรีอยุธยานั้นเป็นที่รับรู้กันไปทั้งโลก ดังจะปรากฏหลักฐานในเอกสารชาวต่างชาติมากมาย ที่เคยเดินทางเข้ามาในกรุงศรีอยุธยา และอยุธยาได้รับการขนานนามว่า "นครเวนิสแห่งตะวันออก" ซึ่งสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของกรุงศรีอยุธยาได้เป็นอย่างดีครับ แต่ในปี พ.ศ.2310 กรุงศรีอยุธยาต้องเสียเมืองแก่อังวะ และนับเป็นความพ่ายแพ้แบบสิ้นเนื้อประดาตัว และหยุดสถานะความเป็นเมืองหลวงของอยุธยาไปโดยบริยาย แต่...สิ่งที่ตายเป็นเป็นแค่สถานะครับ แต่จิตวิญญาณ และคนที่เคยเห็นความรุ่งเรืองครั้งมหานครแห่งนี้ยังมีชีวิตอยู่ จะรื้อฟื้นกลับมาทั้ง คติความเชื่อ และธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนกฏหมายต่างๆ ผ่านนามเมืองใหม่ว่า "กรุงรัตนโกสินทร์" หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2310 บ้านเมืองในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาเกิดภาวะสูญญากาศ เกิดการแบ่งก๊กแบ่งเหล่ากันมากมาย สะท้อนถึงการไม่มีศูนย์กลางทางอำนาจแบบครั้งที่มีกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ความวุ่นวายนี้ ได้รับการจัดการให้กลับมาเป็นระบบและสามารถควบคุมได้อีกครั้งในสมัยพระเจ้าตากสิน โดยสร้างกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทรเป็นราชธานีแห่งใหม่แทนกรุงศรีอยุธยาที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะบูรณะได้สำเร็จ แต่แผ่นดินกรุงธนบุรีนั้นก็มีอายุที่สั้นเหลือเกิน เพราะมีระยะเวลาเพียง 15 ปี 1 รัชกาล โดยในปี พ.ศ.2325 เกิดการปราบดาภิเษกหลังจัดการความวุ่นวายที่เกิดในธนบุรีได้สำเร็จ โดยสมเด็จเจ้าพระยาจักรี ได้มีการย้ายเมืองจากฝั่งธนมาฝั่งพระนครในปัจจุบัน แล้วโปรดเกล้าให้สร้างเมืองใหม่นามว่า กรุงรัตนโกสินทร์ขี้น โดยความเกี่ยวข้องกับกรุงศรีอยุธยาของรัตนโกสินทร์นั้น เกี่ยวข้องกันโดยตรงอย่างแท้จริงทั้งในทางการสร้างเวียงวัง และคติความเชื่อ เพราะตัวของรัชกาลที่ 1 หลังขึ้นครองราชย์แล้วนั้น ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะรื้อฟื้นขนบธรรมเนียมและความรุ่งเรืองแบบครั้งที่ยังมีกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธธานีให้กลับคืนมา ซึ่งตรงนี้ เป็นครั้งแรกที่มีการจะรื้อฟื้นการปกครองแบบอยุธยากลับมา เพราะหากย้อนไปในสมัยพระเจ้าตาก แม้จะรวบรวมอำนาจมาได้ แต่การปกครองยังปกครองแบบหลวม ๆ และไม่ได้สนใจขนบธรรมเนียมครั้งกรุงศรีอยุธยามากนัก แต่ต่างกับกรุงรัตนโกสินทร์อย่างยิ่ง ที่จุดประสงค์การสร้างพระนครและการปกครอง ล้วนถูกสร้างไปเพื่อ "ให้เป็นกรุงศรีอยุธยาแห่งใหม่" พระบรมมหาราชวังรัตนโกสินทร์ ยึดแบบขนบธรรมเนียมการสร้างพระราชมณเฑียรมาจากพระราชวังหลวงอยุธยา https://bit.ly/3a5e03y ข้อนี้พิสูจน์ได้จากการที่ รัชกาลที่ 1 ทรงชำระกฏหมายสมัยพระเจ้าอู่ทองของอยุธยาอีกครั้งแล้วตราขึ้นใหม่เป็น กฏหมายตราสามดวงแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ไม่รวมไปถึงการสร้างพระราชมณเฑียร กฏมณเฑียรบาลต่าง ๆ ที่ยึดอย่างกรุงศรีอยุธยามาแบบเป๊ะ ๆ ตลอดจนการที่สร้างเมืองรัตนโกสินทร์นั้นอิฐไม่พอ ก็ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการไปรื้ออิฐจากเมืองกรุงศรีอยุธยาเดิม มาสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ โดยจุดประสงค์ตรงนี้ อาจารย์สุเนตร ชุตินทรานนท์เคยพูดไว้ว่า สำหรับผู้นำในยุคต้นรัตนโกสินทร์นั้น การที่ทำเช่นนี้ ไม่ได้เป็นการทำลายอยุธยา แต่เป็นการรื้ออิฐจากอยุธยา เพื่อมาสร้างความเป็นอยุธยาเองนั่นแหละในที่แห่งใหม่เท่านั้นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว จำลองแบบมาจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ พระอารามหลวงใรพระราชวังหลวงอยุธยา https://bit.ly/3bbtYdU นี่ยังไม่รวมถึงการไปชะลอพระพุทธรูปจากวัดร้างต่างๆในกรุงศรีอยุธยาลงมายังกรุงรัตนโกสินทร์อีกเป็นจำนวนมากนะครับ อาทิเช่น พระโลกนาถจากวิหารพระโลกนาถในวัดพระศรีสรรเพชญ์ และองค์พระศรีสรรเพชญ์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำวัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยาลงมา เพื่อที่จะบูรณะใหม่ แต่สุดท้ายเห็นว่าไม่เหมาะสม จึงนำไปใส่ไว้ในเจดีย์พระศรีสรรเพชญชดาญาณ ในวัดพระเชตุพน หรือวัดโพธิ์นั้นเอง สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่อยู่ในความทรงจำและอยู่ในอุดมคติของพระมหากษัตริย์รัตนโกสินทร์ในยุคต้นุกพระองค์ครับ ที่มุ่งมั่นจะสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ให้เป็นแบบกรุงศรีอยุธยาในทุก ๆ ด้านทั้งทางรูปธรรมและนามธรรม การที่เวลาจะผ่านไปล่วงเข้าเหตุการณ์ล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ทำให้การปกครองและแนวคิดแบบอยุธยาไม่ตอบโจทย์ จึงทำให้มีการเปลี่ยนคติและทิศทางของรัตนโกสินทร์ไปเองครับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา ต้นแบบวัดพระแก้วของรัตนโกสินทร์ https://unsplash.com/photos/6dMtbq7iyYc จากเนื้อหาทั้งหมดนี้เป็นเพียงการสรุปแบบรวบรัดเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจและเห็นภาพว่า กรุงศรีอยุธยา กับ กรุงรัตนโกสินทร์นั้น มีความเหมือนและความคล้ายกันอย่างมาก เพราะ หลังเสียกรุงศรีอยุธยาไป ก็มีกรุงรัตนโกสินทร์นี่แหละครับที่ต้องการจะยิ่งใหญ่และรื้อฟื้นสิ่งที่ดีงามสมัยอยุธยากลับมาในแผ่นดินอีกครั้ง ผ่านทั้งสิ่งที่เป็นวัตถุสิ่งก่อสร้าง หรือจะอุดมการณ์ทางการเมือง เห็นได้ชัดเจนมากครับว่า สมัยรัชกาลที่ 1-3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์นั้น มีความเป็นกรุงศรีอยุธยาแห่งใหม่อย่างมาก ดังที่กล่าวอ้างอิงไปแล้วในขั้นต้นครับ เพราะ "กรุงศรีอยุธยาคือนคราที่รุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์สยามประเทศ และคนที่เคยอยู่ในแผ่นดินอยุธยานั้น ล้วนมาเป็นชนชั้นปกครองในสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ทั้งสิ้น" จึงทำให้เกิดการรื้อฟื้นและฝังความเป็นกรุงศรีอยุธยาไว้ในจิตสำนึกเสมอมาครับ เครดิตภาพหน้าปก : ผู้เขียน,https://unsplash.com/