จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แต่อยุธยาไม่ได้มีแค่โบราณสถานเท่านั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวประเภทอื่น เช่น คาเฟ่สวย ๆ ตลาดวิถีชุมชุน เป็นต้น วันนี้จึงอยากมาแนะนำ 11 จุดเช็คอินอยุธยา ถ้ามาอยุธยาแล้วก็ไม่ควรพลาดไปแวะเช็คอินกัน1. วัดไชยวัฒนาราม วัดไชยวัฒนาราม ได้รับอิทธิพลจากศิลปะขอม ปรางค์ประธานมีลักษณะคล้ายฝักข้าวโพดมีลักษณะใกล้เคียงกับสถาปัตยกรรมของปราสาทนครวัด ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตกของเมืองอยุธยา มีความงดงามมาก หากใครอยากแต่งชุดไทยเป็นออเจ้าแล้วถ่ายรูปกับวัดไชยวัฒนารามเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพียงข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามวัด มีร้านให้เช่าชุดไทยอยู่หลายร้าน สามารถติดต่อเช่าชุดได้ เพียงชุดละ 100 บาทเท่านั้น วัดไชยวัฒนารามตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านป้อม อำเภอเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทางฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมืองค่าบริการเข้าชมวัดไชยวัฒนาราม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กและผู้สูงอายุเข้าฟรี เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00น. - 16.30น.2. วัดมหาธาตุวัดมหาธาตุ ในสมัยอยุธยาเป็นวัดที่มีความสำคัญมาก พระปรางค์ที่เป็นองค์ประธานหักลงมาเหลือเพียงแต่ฐาน ปรางค์ประธานและซากปรักหักพังของตัววัดที่หลงเหลืออยู่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของวัดมหาธาตุในสมัยอยุธยา นอกจากนี้ยังมีภาพมหัศจรรย์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องถ่ายภาพเก็บไว้ คือภาพของเศียรพระพุทธรูปที่ถูกพันด้วยรากไม้ เป็นเศียรพระพุทธรูปที่ทำจากหินทรายที่แตกหักจากองค์พระพุทธรูปแล้วถูกรากต้นโพธิ์ปกคลุมไว้ ทางวัดจัดพื้นที่ให้นั่งถ่ายรูปกับศีลพระนี้เพื่อความเหมาะสม ไม่ควรยืนถ่ายภาพ วัดนี้ใช้เวลาเที่ยวประมาณครึ่งชั่วโมง ควรไปเวลาเช้าแดดจะได้ไม่แรงมาก และนักท่องเที่ยวยังมีจำนวนไม่เยอะมากนัก ในวัดมีที่จอดรถด้านหน้าสามารถจอดได้หลายคัน วัดมหาธาตุตั้งอยู่ใจกลางเกาะเมืองอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาค่าบริการเข้าชมวัดมหาธาตุ ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กและผู้สูงอายุเข้าฟรี เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00น. - 16.30น.3. วัดพุทไธศวรรย์ หากใครได้ชมละครเรื่องบุพเพสันนิวาสคงจะคุ้นเคยกับสถานที่ฝึกดาบของลูกศิษย์อาจารย์ชีปะขาว ซึ่งมีแต่ลูกศิษย์ที่เป็นผู้ชายเท่านั้นที่จะเข้าไปในเขตวัดนี้ได้ แต่ตามเรื่องในละครนั้นแม่หญิงการะเกดเป็นหญิงสาวคนเดียวที่เข้าไปได้ สถานที่ฝึกดาบในสมัยอยุธยาก็คือบริเวณวัดพุทไธศวรรย์นั่นเอง ซึ่งด้านในวัดจะมีพระปรางค์สีขาวเป็นองค์ประทาน และมีพระพุทธไสยยาสน์ อยู่ด้านในอีกด้วย วัดพุทไธศวรรย์จัดเป็นวัดที่สวยงามวัดหนึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านทิศใต้ของเมืองพระนครศรีอยุธยา สักครั้งหนึ่งควรไปชมความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์ของวัดนี้ให้ได้วัดพุทไธศวรรย์ตั้งอยู่ที่ ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาทางด้านทิศใต้สามารถเข้าชมได้ฟรี เปิดตั้งแต่เวลา 8.30น.-16.30น.4. วัดบางนมโค หลวงพ่อปานวัดบางนมโค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่หลวงพ่อปานพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดอยุธยาเคยจำพรรษาก่อนจะมรณภาพ หลวงพ่อปาน เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ในวัดมีมณฑปหลวงพ่อปาน ซึ่งจะประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อปาน เปิดให้ผู้ศรัทธาได้ปิดทองบูชาได้ ในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธโสนันทะและในส่วนของชั้นใต้ดินมีบันไดทางลงไปสู่ห้องกว้างด้านล่าง ซึ่งมีภาพวาดเกี่ยวกับเมืองนรกเพื่อเตือนใจพุทธศาสนิกชน และใต้ฐานพระพุทธโสนันทะ เชื่อกันว่าหากเดินรอบตามจำนวนของแต่ละวันเกิดนั้น จะพบแต่โชคดี ใครมาอยุธยาก็อย่าลืมมาแวะวัดบางนมโค เพื่อสักการะหลวงพ่อปานกันนะคะ วัดบางนมโค ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. พระราชวังบางปะอินพระราชวังบางปะอิน สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาและได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ใชเป็นที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงสถานการณ์โควิด 19 จึงสามารถเข้าชมได้แต่รอบนอกของอาคารภายในพระราชวังนี้เท่านั้น จะมีเพียงอาคาร สภาคารราชประยูรที่แสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชวังบางปะอินที่เปิดให้เข้าไปชมได้เท่านั้น สำหรับใครที่กลัวว่าหากเดินให้รอบจะเหนื่อยเกินไปสามารถเช่ารถกอล์ฟขับได้ ซึ่งสามารถนั่งได้ 4 คน คิดราคา 300 บาทต่อหนึ่งชั่วโมง โดยชั่วโมงต่อไปคิด 100 บาท ซึ่งหากจะเช่าต้องวางใบขับขี่เป็นหลักประกัน และขับได้เฉพาะเจ้าของใบขับขี่ที่วางไว้เท่านั้น ใครมาเที่ยวอยุธยาก็ลองมาเที่ยวพระราชวังบางปะอิน เพื่อชมความยิ่งใหญ่และงดงามของพระราชวังไทยกันดูนะคะพระราชวังบางปะอินตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ผู้สูงอายุฟรีเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00น. - 17.00น. 6. เสนาคาเฟ่ คาเฟ่เปิดใหม่ในอำเภอเสนา อยู่ติดริมถนนหมายเลข 4044 เป็นคาเฟ่บรรยากาศทุ่งนา หากใครผ่านมาอำเภอเสนา เชิญแวะจิบกาแฟ หรือทานอาหาร ถ่ายรูปกับพร้อพต่าง ๆ ในร้าน ในบรรยากาศสบาย ๆ กลางทุ่งนา เมนูอาหารก็มีให้เลือกหลากหลาย ราคารับไหว ที่จอดรถจำนวนมากจอดได้ทั้งในร้านและด้านหน้าร้าน เหมาะเป็นจุดแวะพักกลางทางก่อนเข้าตัวเมืองอยุธยา เสนาคาเฟ่ตั้งอยู่ที่ตำบลรางจรเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.30น. - 23.00น. 7. รักษ์นาคาเฟ่รักษ์นาคาเฟ่ คาเฟ่บรรยากาศสไตล์บ้านทุ่งกลางทุ่งนา ที่มีร้านกาแฟน่านั่ง และร้านอาหารหลากหลายชนิด ทั้งขนมจีน ก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวแกง หมูปิ้ง สเต็ก เป็นต้น รักษ์นาคาเฟ่ตั้งอยู่ริมทางหลวงเอเชียสายสอง ใครใช้เส้นทางนี้มาอยุธยาต้องผ่านคาเฟ่นี้แน่นอน บรรยกาศสบาย ๆ มีจุดให้ถ่ายรูปเช็คอินหลายจุด ที่จอดรถจำนวนมาก ราคาอาหารรับได้ ใครผ่านมาทางนี้ก็ลองแวะทานกาแฟแก้ง่วงหรือ ทานอาหารก็ได้ค่ะ รักษ์นาคาเฟ่ ตั้งอยู่ริมทางหลวงเอเชียสายสอง ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเปิดทุกวันตั้งแต่ 7.30น. - 19.00 น. 8. ก๋วยเตี๋ยวห้องขา By Blue Riverเมื่อมาจังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ควรลองทำคือ ทานในร้านอาหารก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ผู้เขียนเคยไปทานคือร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่าน ที่จังหวัดพิษณุโลก ประทับใจในบรรยากาศร้านและรสชาติอาหารมาก ครั้งนี้เมื่อมาอยุธยาจึงอยากหาบรรยากาศนั้นอีกครั้ง โดยร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา By Blue River อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำกับโรงเรียนวัดพุทไธศวรรย์ บรรยากาศในร้านเป็นกันเอง เมนูให้เลือกหลากหลาย รสชาติไม่เลว ราคาแรงไปนิด หากใครอยากลองประสบการณ์นั่งห้อยขาริมแม่น้ำแล้วทานก๋วยเตี๋ยว ก็ต้องลองแวะมาดูกันนะคะ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา By Blue River ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามโรงเรียนวัดพุทไธศวรรย์ เปิดทุกวัน 8.30น. - 19.00น.9. Sala Ayutthaya Eatery and Bar Sala Ayutthaya เป็นโรงแรม Boutique ในจังหวัดอยุธยา โรงแรมตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมผสานความเป็นโบราณสถานของอยุธยาลงไปด้วย สวยงามลงตัว แต่ถ้าใครมาเช้ากลับเย็นและไม่ได้วางแผนจะค้างคืน ก็สามารถมาชมความสวยงามของโรงแรมและรับประทานอาหารที่ห้องอาหาร Sala Ayutthaya Eatery and Bar ได้ มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ควรทำการจองมาก่อนล่วงหน้าเพื่อจะได้ที่นั่งชมวิวบรรยากาศริมน้ำได้เต็มที่ เหมาะจะมาชมพระอาทิตย์ตกดินกับคนรู้ใจอย่างมาก นอกจากนี้ภายในโรงแรมยังมี Gallery ซึ่งแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่นอีกด้วย เป็นจุดแวะอีกจุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาอยุธยาSala Ayutthaya Eatery and Bar ตั้งอยู่ในโรงแรม Sala Ayutthaya เปิดทุกวันตั้งแต่ 7.00น. -22.00น.10. เรือนไทย กุ้งเผา วัดเชิงเลนจังหวัดอยุธยาแหล่งกุ้งแม่น้ำ ดังนั้นมาอยุธยาทั้งทีไม่ควรพลาดทานกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ ขอแนะนำร้านเรือนไทย กุ้งเผา วัดเชิงเลน เป็นร้านอาหารคุณภาพอีกร้าน ที่คนแน่นตลอด ขนาดมาก่อนเที่ยงยังต้องรอคิว มีเมนูให้เลือกหลากหลาย แต่ละเมนูอร่อย ๆ ทั้งนั้น ราคายุติธรรม สำหรับกุ้งแม่น้ำตัวโตนั้นราคาตั้งแต่ กิโลกรัมละ 1000 บาท ไปจนถึง 1800 บาท ซึ่งมีจำนวนจำกัดสมควรจะโทรจองล่วงหน้าอย่างยิ่ง ส่วนกุ้งแม่น้ำตัวเล็ก กิโลกรัมละ 450 บาท ดูข้อมูลเพิ่มเติมร้านเรือนไทยกุ้งเผาได้ที่ รีวิว ร้านเรือนไทย กุ้งเผา วัดเชิงเลน จังหวัดอยุธยา อร่อยจนต้องบอกต่อ11. ตลาดโก้งโค้ง เมื่อเที่ยวต่างจังหวัดนอกจากเที่ยววัด ชมวัง แวะคาเฟ่แล้ว คงไม่พ้นต้องเที่ยวตลาด อยุธยามีตลาดให้เที่ยวมากมาย แต่ทริปนี้ขอแนะนำตลาดโก้งโค้ง ตลาดวิถีชมชุมของชาวบ้านชาวอยุธยา มีขายทั้งของกิน ผัก ผลไม้ ของเล่น ของใช้ ของสะสม หรือจะเป็นร้านอาหารก็มีหลายร้านให้รับประทาน ใช้เวลาเที่ยวชม จับจ่ายซื้อของประมาณหนึ่งชั่วโมง หากมีเวลาเหลือในทริปอยุธยา ก็อย่าลืมมาอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าชาวอยุธยากันนะคะ ตลาดโก้งโค้ง ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดทุกวันพฤหัสบดี ถึงวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9.00น. - 16.00น.จบกันไปแล้วกับ 11 จุดเช็คอินอยุธยา วัด-วัง-คาเฟ่-ตลาด ทริปนี้เป็นทริป 2 วัน 1 คืนโดยพักที่โรงแรม Sala Ayutthaya โรงแรมสุดชิคที่ครั้งหนึ่งควรลองมาพักดู ถือว่าเป็นทริปที่ผ่อนคลายความเครียดจากเรื่องต่าง ๆ ได้ดี และเพิ่มพลังให้มีแรงสู้ต่อไป หวังว่าจะชอบบทความนี้กันนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ภาพประกอบโดยผู้เขียน