สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่านครับ ผมเองซึ่งผ่านเรื่องเฉียดตาย จากภัยเงียบที่ชื่อ ภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ บริเวณก้านสมองถึง สองตำแหน่ง ซึ่งคุณหมอประเมินโอกาสรอดเพียง 10% และโชคดีครับผมเป็น10% ดังกล่าวซึ่งส่วนตัวผมมองว่าสวรรค์น่าจะมองเห็นคุณค่าในตัวผมอยู่สองประการ คือ (1) เป็นกระบอกเสียงเพื่อเตือนหลายๆคนว่า คุณอาจเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองถ้าไม่รู้จักระวังตัวเอง และ (2) เป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยโรคนี้อย่าเพิ่งท้อ แม้จะยังไม่มียารักษาแต่คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตเช่นคนปกติได้ ถ้าคุณทำอย่างที่ผมจะเฉลยท้ายบทความนี้ เห็นจากข่าวที่แพร่หลายกัน คือ โรคหลอดเลือดสมองส่วนใหญ่คนไข้อาจเสียชีวิตหรือพิการไปตลอดชีวิต อย่างไรก็ดี กรณีผมน่าจะถือเป็นข้อยกเว้นเพราะไม่ตาย ไม่นอนติดเตียง และยังสามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้ แถมรู้สึกว่ามีพลังงานมากกว่าเดิมอีก กลับมาสู่สาเหตุของโรคครับเท่าที่ผมจำได้ 1.กรรมพันธุ์ไม่ได้แปลว่าผู้อ่านทุกท่านที่คุณพ่อคุณแม่ญาติพี่น้องเป็นแล้ว คุณต้องเป็นนะครับ คุณแค่มีโอกาสเสี่ยงมากขึ้น 2. เบาหวาน 3. ความดันโลหิตสูง 4. เครียด - พักผ่อนน้อย 5. สูบบุหรี่ (แต่สูบบุรุษไม่เป็นนะครับ) ส่วนตัวผมว่าตัวผมน่าจะเข้าข่ายข้อ 4 และ 3 เบาๆ กล่าวคือ เครียดไปหมดทุกด้าน เพราะเหตุความเป็น Perfectionist ทำอะไรต้องเลิศสุด โดยเฉพาะเรื่องเรียนและทำงาน เรียนตามตรงผมอยู่ในระหว่างเตรียมตัวเรียน ป.เอก เลยเครียดเป็นพิเศษ แต่ทุกอย่างก็สะดุดหยุดลงเพราะ Stroke แต่นั่นก็สอนให้ผมไม่ประมาทไปตลอดชีวิตและผมทราบอย่างถ่องแท้ว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ ทว่า ภาวะเส้นเลือดตีบของผมค่อนข้างไม่ธรรมดา เพราะเกิดในผู้ป่วยอายุน้อยและจุดที่เส้นเลือดตีบนั้น อยู่ตรงก้านสมองถึงสองจุด จนกระทั่งคุณหมอประเมินว่าโอกาสรอดน้อยมาก ถึงรอดก็คงพิการ เพราะความเสียหายก็ดี จุดที่เส้นเลือดไปตีบก็ดี มันรุนแรงเกินกว่าที่คนทั่ว ๆ ไปจะก้าวข้ามมาได้ ประกอบกับพยาบาล (เพื่อนบ้านแถวบ้าน) ค่อนข้างเห็นด้วยกับแพทย์ เนื่องด้วยประสบการณ์ของนาง เคยพบว่าผู้เป็นที่เป็นโรคนี้ 100 ทั้ง 100 ไปทุกรายถ้าเป็นที่ก้านสมอง และที่สุดของที่สุดคือ ผมตีบ 2 จุด - final destination สุด ๆ กล่าวคือ จุดแรกก็เหมือนอาการทั่ว ๆ ไป พออีกจุดหนึ่งปากเริ่มเบี้ยว พูดไม่ค่อยชัด และสะอึกไม่หยุด โทษนะครับผมลืมเล่าว่าช่วงที่ผมมีอาการมือไม้อ่อนครึ่งซีก ผมคว้ามือถือโนเกียร์สีส้ม โทรหาน้องสาวบอกเพียงแค่พี่ไม่ไหวแล้วเรียกรถพยาบาลให้หน่อย จำได้คร่าว ๆ ว่าเดินลากขาไปตู้เย็นเพื่อหาของเปรี้ยว ๆ เช่นน้ำผลไม้ทาน (น้ำบีทรูดสีแดง) แต่แล้ว น้ำผลไม้ก็ไม่ได้ช่วยให้ผมดีขึ้นเลย ขนาดรีโมทแอร์ที่ว่าเบามากกลับตก ด้วยเหตุนี้เหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ผมเคารพนี่ผมอันเชิญมาหมด ส่วนบทสวดที่ผมนึกได้ตอนนั้นจำได้ คือคาถาชินบัญชร เสด็จพ่อ ร.5 และสมเด็จพระนเรศวร โชคดีครับที่รถพยาบาลของ รพ. มหาวิทยาลัยนเรศวรมาทัน ทว่าวันนั้นฝนดันตก แต่ด้วยความที่กลัวตาย จึงพยุงร่างเอากุญแจไปส่งให้บุรุษพยาบาลทัน และโชคดีครับว่าคุณหมอให้ยาสลายลิ่มเลือดทัน ไม่เช่นนั้นผมคงได้ไปเฝ้าพระอินทร์แล้ว สุดท้ายนะครับภัยเงียบที่เรียกว่า “โรคหลอดเลือดสมอง” นั้น โอกาสที่ผู้ป่วยจะรอดมากน้อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการส่งผู้ป่วยถึงมือคุณหมอ ยิ่งถึงเร็วโอกาสรอดหรือไม่พิการตลอดชีวิตจะมีน้อยครับ อนึ่ง เบอร์ติดต่อเหตุฉุกเฉิน คือ 1169 โปรดจำให้ขึ้นใจครับ ปล. ผมรอดมาได้เพราะ 1) บุคลากรทางการแพทย์ 2) กายภาพ 3) กำลังใจ